โฆษก ปชป.จวก “ปู” ไปอยู่ “เป็ดเหลิม” เย้ยคำถามนอกโพย ตอบไม่เป็น พร้อมประณามเผด็จการรัฐสภาใช้พวกมากลากไปชิงปิดอภิปราย จับโกหกนายกฯ 9 ข้อ ตอกย้ำการบริหารห่วย วอนหยุกโกหก เดินหน้าพาประเทศพ้นวิกฤต
วันนี้ (3 ก.พ.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามสดเรื่องการตั้งนางนลินี ทวีสิน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ว่า เห็นได้ชัดเจนว่านายกฯ ตอบไม่ตรงคำถาม ซึ่งน่าแปลกใจว่าเราถามความเห็น ดุลพินิจว่าาทราบหรือไม่ทราบ แต่นายกฯ กลับพยายามให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่ยำรุง รองนายกฯ ว่าทราบหรือไม่ทราบแทนนายกฯ เองทำไม ไม่รู้ว่าสมองนายกฯ ไปอยู่กับ ร.ต.อ.เฉลิม แล้วที่อยู่กับนายกฯ คืออะไร เพราะไม่ได้ถามเรื่องข้อกฎหมายหรือความรู้พิเศษเลย ทำให้เห็นว่าอะไรที่อยู่นอกบท นอกโพยนายกฯ ตอบไม่ได้
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ต้องมีการประณามการทำงานของรัฐบาลในการปิดการอภิปราย พ.ร.ก.กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ พ.ศ. 2555 และ พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย พ.ศ. 2555 ซึ่งมีหลายประเด็นที่ควรปรับปรุงแก้ไข พัฒนาให้ดีขึ้น แต่ฝ่ายค้านมีเวลาแค่วันครึ่งรัฐบาลก็ยังกล้าพวกมากลากไป ใช้มือในสภาที่มากกว่าปิดหูปิดตาประชาชนทุกอย่าง โดยเฉพาะจุดอ่อนที่ฝ่ายค้านพยายามให้ข้อเสนอแนะ ชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยก็ยังใช้วิธีการเดิมๆ เป็นเผด็จการรัฐสภา กล้าทำทุกอย่างบนประโยชน์พวกพ้องตัวเอง โดยไม่สนใจการตรวจสอบ ปฏิเสธระบบรัฐสภา
“เราสงสัยว่าข้อมูลบางอย่างที่ฝ่ายค้านเตรียมนำมาปิดเผยในการอภิปรายช่วงบ่าย ซึ่งเป็นข้อมูลที่รุนแรงและอาจได้รับผลกระทบใน พ.ร.ก. โดยมีการนำไปพูดในห้องวิปฝ่ายค้าน อาจมีการแอบดักฟังในห้องวิปหรือไม่ รัฐบาลถึงได้ร้อนรนในการหนีการตรวจสอบ ทั้งนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัย พ.ร.ก.ที่ยื่นตีความไปทั้ง 2 ฉบับ เราก็จะนำข้อมูลตรงนี้ไปยื่นประกอบเพิ่มเติมด้วย” นายชวนนท์กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มา 6 เดือนแล้วว่า เห็นได้ชัดว่านายกฯ ไม่ได้ทำตามนโยบาย โกหกประชาชนหลายเรื่อง ซึ่งตนเห็นว่ามีการโกหกทั้งหมด 9 โกหก คือ 1. โกหกนโยบายการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย เพราะไม่มีการยกเลิกกองทุนน้ำมัน ราคาพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติศาสตร์ ค่าแรง 300 บาทก็ยั้งไม่ขึ้นทันที เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาทก็ไม่เกิดกับเอกชน ส่วนที่จะขึ้นกับภาครัฐก็ไม่ใช่เงินเดือนแต่เป็นเงินเพิ่มให้เท่านั้น โครงการรับจำนำข้าวก็มีการทุจริตอย่างมหาศาล 2. วาทกรรมเอาอยู่ เรื่องอุทกภัย ประชาชนได้รับความเสียหาย 4.8 ล้านครัวเรือน 13.5 ล้านคนได้รับความเดือดร้อน และพื้นที่การเกษตร 11.2 ล้านไร่เสียหาย ไม่ต้องนับเรื่องถนน ปศุสัตว์เป็นล้านตัว นอกจากนี้ ยังคนเสียชีวิต 815 คนจากการเอาอยู่ของนายกฯ
นายชวนนท์ กล่าวว่า 3. การเดินทางไปดาวอส ทัวร์ต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนต่างชาติ กลับมาก็มาให้สัมภาษณ์ว่านักลงทุนมั่นใจประเทศไทย แต่ตอนนี้กลับมาพูดเรื่องการกู้เงิน แล้วมาพูดเองว่า ที่ไปพบกับนักลงทุนร้อยละ 50 ยังไม่แน่ใจว่าจะกลับมาลงทุนในประเทศไทยอีกหรือไม่ นี่คือการโกหกชัดเจน และถ้านักลงทุนมั่นใจ ทำไมถึงไม่มีใครมาฟังปาฐกถาเรื่องเศรษฐกิจของนายกฯ ที่โรงแรมดุสิตธานีเลย ซึ่งปกติการปาฐกถาในเรื่องอย่างนี้น่าจะเป็นสิ่งที่นักลงทุนสนใจมากที่สุด แต่เขารู้ว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์พูดไม่มีความหาย พูดมาก็ทำไม่ได้
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า 4. เรื่องการเร่งรัดออก พ.ร.ก.3.5 แสนล้านบาทในการโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูให้ ธปท. โดยอ้างเรื่องความเร่งรีบ ความมั่นใจ ในการแก้ปัญหาอุทกภัย แต่บุคลากรใน กยน. ทั้งนายสมิทธ ธรรมสโรช เองก็บอกว่า กยน.ไร้ทิศทาง ไม่มีการร่วมมือ มีแต่เรื่องของตัวเลข นายปราโมท ไม้กลัด ก็บอกว่าทำงานแบบนี้ไม่เกิดประโยชน์ เพราะประชุมกันเดือนละครั้ง ไม่มีวาระการป้องกันที่จะเกิดขึ้นซ้ำในปีนี้
“สภาพัฒน์เองก็บอกว่าใช้เงินแค่ 1.2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น แต่รัฐบาลกลับไปกู้ถึง 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีการเบิกใช้งบตัวนี้ในปี 57 ดังนั้น รัฐบาลจะรีบกู้เงินเพื่ออะไร 5. รัฐบาลบอกประชาชนว่ามีแผนการป้องกันอุทกภัยแล้วแต่บอกประชาชนไม่ได้ เพราะกลัวแตกตื่น รู้แล้วว่าฟลัดเวย์ แก้มลิงจะอยู่ไหน แต่ต้องปิดเป็นความลับ ตกลงว่าเราไม่ใช่คนไทยหรืออย่างไรถึงบอกไม่ได้ ถ้าไปสร้างทับที่ของ ครม.คงไม่มีใครว่า แต่ประชาชนเขาห่วงว่าพื้นที่เขาจะกลายเป็นที่รองรับน้ำ นอกจากนี้ บอกว่าน้ำท่วมทุ่งในพื้นที่ประชาชนเข้าใจผิด เพราะรัฐบาลตั้งใจเก็บน้ำไว้เพื่อการผลิตภาคการเกษตร แล้วที่มีน้ำขังอยู่ตามตรอกซอย จะอ้างเรื่องนี้ด้วยหรือไม่” นายชวนนท์กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า 6.เรื่องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กลุ่มนิติราษฎร์เคลื่อนไหวมา 3 เดือน ไม่มีใครคัดค้าน แต่พอมีกระแสต่อต้าน นายกฯ ก็โหนกระแสทิ้งกลุ่มนิติราษฎร์ทันที ทั้งนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนปช. ก็ออกมายอมรับว่าเป็นเนื้อเดียวกัน แต่การเสนอแก้ไขไม่ใช่ข้อเสนอในตอนนี้ ดังนั้น หากมั่นใจว่าจงรักภักดี ต้องไม่ห้าม เอาไปแถลงที่อิมพิเรียลเลยหากคิดว่าเป็นเรื่องดี แต่อย่ามาพูดว่าที่ยังไม่เคลื่อนเพราะกระแสสังคมไม่ยอมรับ ซึ่งไม่เคยพูดเลยว่าจะดีกับสถาบันในแง่ไหน แต่เพราะมันไม่มีจริง
นายชวนนท์กล่าวว่า 7. น.ส.ยิ่งลักษณ์โกหกเรื่องนางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กลางสภาฯ ว่าไม่ทราบมาก่อนว่าติดแบล็คลิสจากสหรัฐ แต่หนังสือที่นางนลินีเคยนำมาโชว์กับสื่อมวลชนตอนที่แถลงข่าว ซึ่งเป็นหนังสือหนังสือที่ตอบจากผอ.สำนักควบคุมทรัพย์สินกระทรวงการคลังของสหรัฐ ว่าเรื่องของนางนลินีมีการสอบถามถึงสถานะจากรัฐบาลไทยก่อนแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ พูดง่ายๆ คือ มีการสอบถามมาก่อนแล้ว แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ทราบ ถ้าไม่ได้โกหกก็ถือว่าไม่ได้อยู่ในสายการบังคับบัญชาในฐานะผู้บริหารสูงสุดของประเทศไทยแล้ว
“ส่วนที่บอกว่าเรื่องของนางนลินีเป็นคดีที่ยังไม่ได้ข้อยุตินั้น เป็นการเข้าใจผิด เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่คดีความ ไม่มีการอุทธรณ์ไม่ใช่ศาล เป็นเรื่องของกระทรวงการคลังประเทศสหรัฐฯ ซึ่งจบไปนานแล้ว และที่บอกว่าไม่มีใครร้องเรียนนั้น ใครจะไปรู้ว่าจะตั้งใครเป็นรัฐมนตรีทีหลังบอกให้พี่ชายช่วยเปิดโผมาก่อน ประชาชนจะได้ช่วยกันตรวจสอบ นอกจากนี้ ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์บอกว่าเป็นสิทธิเสรีภาพเรื่องส่วนตัวของนางนลินีนั้น ยืนยันว่าไม่มีใครเอานางนลินีไปกักขัง แต่เป็นเรื่องของผลเสียของประเทศไทยเรื่องการทำธุรกรรมกับสหรัฐ ถ้าคิดว่าไม่ส่งผลกระทบนายกฯ ก็บอกเลยว่านางนลินีเข้าสหรัฐได้ หรือช่วยส่งไปดูเอกลักษณ์ที่สหรัฐภายในสัปดาห์หน้าก็ได้” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์กล่าวอีกว่า 8. บอกจะคืนความปรองดองให้ประเทศไทย แต่จังหวัดชายแดนใต้เกิดเหตุปะทะรายวัน แค่เฉพาะเดือนม.ค.มีผู้เสียชีวติภายใต้การบริหารงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 33 ราย บาดเจ็บอีก 41 ราย นี่หรือที่บอกจะใช้ความเป็นผู้หญิงสร้างความสงบ สันติ แต่นายกฯ ไม่เคยเหยียบภาคใต้เลย กรณีทหารยิงประชาชนที่จ.ปัตตานีเสียชีวิต 4 ราย แต่สิ่งที่นายกฯ ควรจะพูดคือเสียใจ ขอโทษ กลับไม่มีออกจากปากมาเลย ได้แต่แต่งตัวสวยออกจากบ้านไม่คิดถึงคนที่ตายเลย
“ข้อที่ 9 สำคัญที่สุด เพราะถือเป็นการอุปทานหมู่อย่างร้ายแรง คือ การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์โกหกตัวเองว่าเป็นนายกฯ บอกว่าเป็นคนปรับ ครม.เอง มีอำนาจูงสุดในการบริหารประเทศไทย ทั้งที่รู้ตัวดีว่าทุกวันนี้เข้ามาได้เพราะอะไร ครม.ที่ปรับเปลี่ยนเพราะเขาบินไปดูไบ ฮ่องกง ส.ส.บินไปทุกอาทิตย์ อยากถามว่ามีใครเคยไปหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่บ้านหรือไม่ นี่คือการโกหกข้อสำคัญ ดังนั้น อยากให้หยุดโกหกตัวเองว่าเป็นนายกฯ ของไทย ทั้งหมดผมฝากไปด้วยความหวังดี อยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นตัวของตัวเองนำพาประเทศรอดพ้นจากเศรษฐกิจและสังคม” นายชวนนท์กล่าว