วิปฝ่ายค้าน จี้ รบ.ต้องรับผิดชอบ หากศาลวินิจฉัยการออก พ.ร.ก.2 ฉบับขัด รธน.ติงปูเห็นความสำคัญการตอบกระทู้ในสภาฯ โดยเฉพาะการแต่งตั้ง “นลินี” นั่ง รมต.สำนักฯ และนโยบายขายหุ้น ปตท.
วันนี้ (31 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ที่ประชุมได้เชิญผู้แทนของกระทรวงการคลังมาหารือถึง พ.ร.ก.4 ฉบับ คือ (1. พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 (2. พ.ร.ก.กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ พ.ศ. 2555 (3. พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย พ.ศ. 2555 และ (4. พ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2555 (พ.ร.ก.โอนหนี้ฯ) ซึ่งจะมีการบรรจุเป็นวาระในที่ประชุมสภาฯ สัปดาห์นี้ แต่ในส่วนของพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 และพ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2555 (พ.ร.ก.โอนหนี้ฯ) จะต้องถูกชะลอออกไปก่อน
เนื่องจาก พ.ร.ก.ทั้งสองฉบับได้ถูกทาง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ว.ได้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความไปก่อนหน้านี้แล้ว และจะต้องรอจนคำวินิจฉัยของศาลออกมาก่อน เพราะฉะนั้นหากศาลมีความเห็นว่า พ.ร.ก.ทั้งสองฉบับขัดต่อหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ ทางรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ และน้อยที่สุดก็คงจะมีการยื่นถอดถอน ในข้อหาจงใจกระทำความผิด
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า การตั้งกระทู้ถามสดของทางฝ่ายค้านในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นกระทู้ที่ยกยอดมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ในกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีของ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการแต่งตั้งนางนลินี ทวีสิน ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทู้ถามสดของนายกรณ์ จาติกวณิช เรื่อง ปัญหานโยบายการขายหุ้น ปตท. โดยตนคิดว่านายกรัฐมนตรีควรที่จะเห็นความสำคัญของสภาฯบ้าง เนื่องจากที่ผ่านมามีการตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีถึง 28 กระทู้ แต่นายกฯ กลับตอบเพียงแค่กระทู้เดียว ซึ่งเป็นกระทู้ของพรรคเพื่อไทยด้วย ทั้งนี้ กระทู้ที่เกี่ยวข้องกับนางนลินี นายกฯ ควรที่จะตอบคำถามนี้ เพราะเป็นดุลพินิจส่วนตัวที่ให้ใครมาตอบแทนไม่ได้
นายจุรินทร์ยังกล่าวต่อว่า ประเด็นทางการเมืองที่น่ากังวลในตอนนี้ คือ เรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ซึ่งมีการกล่าวอ้างจากรัฐบาลว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้จะมีเนื้อหาที่พาประเทศกลับไปช่วงก่อนที่จะมีการรัฐประหารปี 49 ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการพูดถึงการทุจริตและคอร์รัปชัน โดยทางฝ่ายค้านเห็นว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้จะนำพาประเทศไปสู่ความขัดแย้ง เพราะเป็นการทำเพื่อคนคนเดียว หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแปลงโฉม หรือ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กลับชาติมาเกิด
ส่วนกรณีการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้ดูเหมือนว่ากลุ่มที่เคยร่วมงานกับทางกลุ่มนิติราษฎร์ เริ่มที่จะแยกตัวออกมา เนื่องจากรู้แล้วว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม แต่ความคิดเห็นของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลยังคงสร้างความสับสนให้กับประชาชนในหลายๆ แง่ เช่น การที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่าจะต้องมีการสะสางให้เสร็จสิ้น หรือการที่รัฐบาลได้แต่งตั้งบุคคลที่เคยเข้าชื่อร่วมแก้ไขมาตรา 112 เป็นที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรี รวมไปถึงการที่ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยบางคนที่ออกมาสนับสนุนให้มีการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญในหมวดที่ 2 ซึ่งเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะไม่แก้ไขหมวดที่ 2 ด้วย