“เฉลิม” โชว์แนวทางปราบยาเสพติด ผ่านรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ยันรัฐบาลเดินงานเต็มที่ มั่นใจทำได้ตามกรอบ ยาเสพติดลดใน 1 ปี รับจำเป็นต้องรุนแรงหากคนร้ายต่อสู้ ย้ำจัดคุกพิเศษรับผู้มีอิทธิพลหนุนเครือข่ายยาเสพติด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (28 ม.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี งดจัดรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” เนื่องจากติดภารกิจเดินทางร่วมประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ในสัปดาห์นี้ เป็นการให้สัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พลังแผ่นดิน ปราบปรามยาเสพติด, พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการสำนักงานป้องกันยาเสพติด (ป.ป.ส.) โดยพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางในการปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ระหว่างรณรงค์หาเสียงของพรรคเพื่อไทยได้รณรงค์ไว้ 3 ข้อ ได้แก่แก้ยาเสพติด แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปราบปรามการทุจริตเด็ดขาด พอเป็นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำชับให้การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ แต่จริงๆ แล้วควรจะประสานกับเพื่อนบ้าน ประกาศให้เป็นวาระแห่งภูมิภาค โดยจะเริมออกเดินทางเยือนจีน เพื่อหารือแนวทางในการปรายปรามสกัดกั้นยาเสพติดทะลักทางชายแดนด้วย
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาต้องการแก้ปัญหา แต่ความเข้าใจไม่เหมือนกัน ยุคนี้นายกฯ มอบให้ตนแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ปิดรอยตะเข็บได้ และสกัดเรื่องสารตั้งต้นก็มารูปแบบใหม่ใช้ยาแก้หวัด แต่เราก็จับได้ เราปิดรอยตะเข็บ ตนขอร้อง ผบ.ตร.ให้เอาลวดหนามไปปิดจากด่านแม่สาย ปัญหาเกิดจากที่อื่น เข้ามาทาง 8 จังหวัดภาคเหนือ เข้ามา 87% ใน 8 จังหวัด หนัก 3 คือ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่
“ที่ผ่านมาไม่ทำ ไม่เข้าใจ ไปแก้ปัญหาปักษ์ใต้ ไปดักเอาแถวชุมพร สุราษฎร์ฯ มันไม่ได้มาจากทางใต้ มาจากทางภาคเหนือ ถ้าปิดทางเหนือได้เราได้ชัย คนร้ายทั้งหลายฟังผม ผมรู้ การแก้ไขปัญหาต้องบูรณาการ ผมเน้น 3 เรื่อง ลดแหล่งผลิต ลดความต้องการ และลดโพเท็นเชียลดีมานด์ เมื่อเราลดซัปพลาย จะสั่งในคุกนอกคุกไม่สำคัญ แต่สั่งแล้วเอาเข้าไม่ได้ ปัญหาก็ไม่เกิด จะสั่งในคุกนอกคุก ไม่สำคัญ แต่สั่งแล้วเอาเข้าไม่ได้ ปัญหาก็ไม่เกิด ซึ่งมั่นใจว่า หากทำได้ทั้งหมด 1 ปี ยาเสพติดจะลดลง หรือในสถานบริการ จำหน่ายไม่มาก แต่เป็นการเพิ่มกลุ่มเสี่ยง ที่เน้นกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะต้องการเสพยาเสพติด 60% ส่วนที่มาทางเหนือ 87%”
ส่วนจะลดความต้องการได้อย่างไรนั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า บำบัดรักษา ลดกลุ่มเสี่ยง เอาจริงเอาจัง ที่ผ่านมาพอเราทำงานเป็นระบบมันก็ได้ผล
ด้าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวถึงการดำเนินการแก้ปัญหาหรือจับกุมที่จะไม่ละเมิดสิทธิ์ว่า ทุกอย่างไปละเมิดสิทธิ์เขาไม่ได้ แต่กรณีที่คนร้ายต่อสู้ทางตำรวจก็ต้องป้องกันตนเอง
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวเสริมว่า หากคนร้าย พ่อค้ายา ต่อสู้ เจ้าหน้าที่ ก็ต้องใช้ความรุนแรง เพื่อป้องกันตัว และเพื่อประสิทธิภาพของงาน พร้อมเตรียมที่จะทำคุกเฉพาะสำหรับขังพ่อค้ายา หรือ ผู้ทรงอิทธิพล ที่หนุนหลังเครือข่ายค้ายาเสพติดโดยเฉพาะด้วย ตลอดจนชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ให้ความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดเป็นอย่างดี
ส่วน พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ในปีนี้มีแผนที่จะลงไปในระดับพื้นที่ 6 หมื่นหมู่บ้าน และแผนบำบัดรักษา 4 แสนคน เป็นบทบาทของกระทรวงสาธารณสุข และแผนที่จะลงไปตามโรงเรียนก็เป็นบทบาทของกระทรวงศึกษาธิการ ทุกกระทรวงต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน