สภาประชาชนเพื่อแก้ไข รธน.ยื่น 70,000 รายชื่อต่อประธานสภาฯ เสนอแก้ ม.291 ตั้ง ส.ส.ร.ยกร่าง รธน.ก่อนทำประชามติ “สมศักดิ์” ขอเวลาตรวจสอบตามขั้นตอน คาดใช้เวลา 2-3 เดือน เผยอยากให้ กมธ.ปรองดอง ทำงานให้เสร็จก่อน จึงจะดำเนินการแก้ไข รธน. เพื่อลดความขัดแย้ง
วันนี้ (25 ม.ค.) นายชาตวิทย์ มงคลแสน ผู้ประสานงานสภาประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 291 และคณะราษฎร 2555 จำนวน 99 คน เป็นตัวแทนนำรายชื่อประชาชน 70,000 รายชื่อทั่วประเทศ ยื่นต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สภาฯ พิจารณาเป็นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 (1)
นายชาติวิทย์อ้างว่า วันนี้เป็นฤกษ์ดีที่ตัวแทนประชาชนทั่วทุกภาคของประเทศ ในนามคณะราษฎร 2555 ได้นำรายชื่อยื่นต่อประธานสภาฯ เสนอให้ประธานสภาฯ ดำเนินการต่อไปเพื่อแก้ไขเพิ่มรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อให้ประชาชนเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยตรง จำนวน 375 คน มาดำเนินการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ทั้งฉบับ อันเป็นเพื้นฐานสำคัญในการปฎิรูปการเมืองให้ก้าวไกลทันต่อภาวการณ์ปัจจุบัน และเป็นองค์กรในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อปรับปรุงโครงสร้างทางการเมืองขึ้นใหม่ให้มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยต้องให้ประชาชนเจ้าของประเทศมีส่วนร่วมในการอนุมัติรัฐธรรมนูญ โดยการออกเสียงประชามติด้วยเสียงข้างมาก เป็นไปตามหลักการบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมทางการเมืองและเสริมสร้างความเข้มแข็งของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นายชาตวิทย์กล่าวว่า หัวใจสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ การให้ประชาชนได้เลือกตั้ง ส.ส.ร.ของเขาโดยตรง เพราะการจัดทำรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาทั้ง 18 ฉบับ คณะผู้จัดทำรัฐธรรมนูญมาโดยทางอ้อมทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่รัฐธรรมนูญปี 40 เพราะฉะนั้นก็ถึงเวลาให้เจ้าของประเทศได้มีโอกาสกำหนดกติกาบ้านเมืองเองเสียที
ด้าน นายสมศักดิ์กล่าวว่า เมื่อตนรับเอกสารไปแล้วก็จะดำเนินการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญทันที แต่การจะบรรจุวาระก็จะต้องมีหลายขั้นตอน คาดว่าน่าจะใช้เวลา 2-3 เดือน เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบรายชื่อว่าถูกต้องหรือไม่ หากถูกต้องก็จะต้องเกินกว่า 50,000 รายชื่อ และสมัยนิติบัญัติเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 3 เดือน ก็ไม่ทราบว่าจะทันหรือไม่ ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนว่าจะส่งกลับมาที่ตนเมื่อไหร่ และถ้าถึงมือตนก็พร้อมจะบรรจุเป็นวาระทันที ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะเร่งรีบแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับขั้นตอนตามกฎหมาย ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ตนก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
ส่วนกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าควรที่จะชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปก่อนนั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของความคิดเห็นส่วนตัว ตนก็มีความคิดเห็นส่วนตัวเช่นกัน และตนเห็นว่าสภาฯมีคณะกรรมาธิการปรองดอง ซึ่งก็อยากจะให้คณะดังกล่าวทำหน้าให้เสร็จสิ้นก่อน และทำตามแนวทางดังกล่าว เพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังพอมีเวลา และรัฐบาลก็เคยแถลงเอาไว้ว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใน 1 ปี ซึ่งในตอนนี้ก็ยังไม่ถึงระยะเวลาดังกล่าว
ส่วนกรณีโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนจะขอเชิญสื่อมวลชนทุกคนเข้าร่วมหารือ เพื่อช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของชาติ เรื่องนี้เป็นอำนาจในการตัดสินใจของตน แต่ก็สามารถปรึกษาหารือใครก็ได้ ในขณะนี้ต้องรอข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน เพื่อหาทางออกร่วมกัน และสุดท้ายหากจะต้องย้ายจริงๆ ก็คงจะต้องหารือกับที่ประชุมสภาฯ ด้วย ตอนนี้ปัญหาเร่งด้วนที่ต้องแก้ไข คือ การคืนพื้นที่ เพราะทั้งสองฝ่ายยังมีการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน หากต้องเสียเวลาคืนพื้นที่ล่าช้าไปถึง 2 ปี จริงๆ ก็เป็นเหตุผลน่ารับฟัง อย่างไรก็ตาม ตนไม่คิดว่าจะเสียเวลาคืนพื้นที่มากมายไปจนถึงปลายปี 2556 ยังเชื่อว่าจะสามารถเจรจาเร่งรัดกันได้ เพื่อให้ส่งพื้นที่ได้ภายในปลายปีนี้ ขณะนี้ยังมีพอมีเวลา