xs
xsm
sm
md
lg

“ขุนค้อน” รอเคาะย้ายสร้างสภาแห่งใหม่หรือไม่ โบ้ยอาจขอมติสภาฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
ปธ.สภาฯ ยังไม่เคาะย้าย-ไม่ย้ายรัฐสภาใหม่ โยนหินถามทางหากหนุนย้าย ต้องขอมติที่ประชุมสภาใหม่ ขณะที่ “นิคม” เชียร์ล้มกระดาน 4 บ.เอกชนที่ผ่านประมูลสร้างอาคารแล้ว ชี้ กม.เปิดช่องให้เลิกได้โดยไม่ถูกฟ้อง เปิดพิรุธจัดแจงจองคิวรับงานสร้างตั้งแต่ยังไม่มีราคากลาง

วันนี้ (20 ม.ค.) นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้รับรายงานของคณะกรรมการติดตามและเร่งรัดโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ ที่นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการ ที่เสนอความเห็นให้ย้ายพื้นที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านในรายละเอียด ดังนั้นจึงยังไม่สามารถให้ข้อมูลในรายละเอียดใดๆ ได้ สำหรับข้อเรียกร้องของสมาชิกรัฐสภา ที่อยากให้นำเรื่องดังกล่าวหารือในที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อเปิดรับฟังความเห็นนั้น ข้อเท็จจริงตนมีอำนาจตัดสินใจได้ทันที หากเห็นว่าไม่ย้ายเรื่องก็จบเพียงเท่านั้น แต่หากตนมีความเห็นว่าจะย้าย ตนจะนำเข้าสู่การรือในที่ประชุมร่วมรัฐสภา

ด้าน นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการให้คำปรึกษาในการจ้างที่ปรึกษาโครงการและควบคุมงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการติดตามฯ ของสภาฯได้ทำหนังสือปรึกษาไปยังกรมบัญชีกลาง เกี่ยวกับประเด็นความถูกต้องของการคัดเลือก 4 บริษัทเอกชนที่มีคุณสมบัติเบื้องต้นในการประกวดราคาจ้าง (พีคิว) ไว้ล่วงหน้า ทั้งที่ยังไม่ได้มีการกำหนดราคากลางในการก่อสร้าง ประเด็นนี้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำหนังสือสอบถามไปยังกรมบัญชีกลาง เพราะหากทางกรรมการผู้ตรวจสอบคุณสมบัติฯ เห็นว่าไม่ถูกต้อง หรือต้องการเปิดโอกาสให้บริษัทอื่นเข้ามามีส่วนร่วมในการแข่งขัน สามารถยกเลิกบริษัทที่ได้ทำพีคิวไว้ล่วงหน้าได้ทันที เพราะในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ระบุไว้ชัดเจนว่าทำได้ โดยบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกดังกล่าวไม่สามารถฟ้องร้องหน่วยงานรัฐสภา หรือ คณะทำงานที่เกี่ยวข้องได้

“เรื่องนี้ทำได้ทันที ไม่ต้องถามกรมบัญชีกลางใดๆ ทั้งสิ้น ยกเลิกไปเลย เพราะเป็นอำนาจของคณะกรรมการ เมื่อยกเลิกแล้วก็เขียนข้อกำหนดใหม่ เพื่อเปิดทางให้บริษัทอื่นเข้ามาร่วมประมูล ลดสเปคที่ล็อคไว้ หากทำได้อาจจะได้ 20-30 บริษัทเข้ามา แต่ทำไมเขาถึงไม่ทำ นั่นอาจเป็นเพราะว่า เขาควบคุมไม่ได้ การส่งเรื่องถึงกรมบัญชีกลาง ผมมองว่าเพื่อยื้อเวลาและหาเรื่องย้ายที่ก่อสร้างสภาใหม่” นายนิคมกล่าว

แหล่งข่าวจากวงการวิศวกรรมเปิดเผยว่า ตามระเบียบพัสดุ พ.ศ. 2535 ข้อ 30 ที่ระบุถึงการทำพีคิวว่า สามารถทำได้ แต่ให้ทําได้ในกรณีที่จําเป็น และต้องจํากัดเฉพาะผู้ที่มีความสามารถ และการดำเนินการคัดเลือกตั้งให้ส่วนราชการเจ้าของเรื่องจัดทำรายงานเสนอขออนุมัติจากเจ้าหน้าที่พัสดุพร้อมกับยื่นเอกสารคัดเลือกคุณสมบัติเบื้องต้น โดยมีรายละเอียดที่กำหนดไว้เป็นอย่างน้อย คือ 1. เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องคัดเลือก 2. ประเภทวงเงิน และรายละเอียดของงานที่จะต้องจ้าง 3. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก ซึ่งเป็นเกณฑ์ความต้องการขั้นตํ่า เช่น ประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมา สมรรถภาพ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ และโรงงาน ฐานะการเงิน เป็นต้น

“สำหรับการยกเลิกบริษัทที่ได้ทำพีคิวแล้วนั้น สามารถทำได้ โดยคณะกรรมการคัดเลือก เมื่อเห็นว่ามีเหตุผลที่เหมาะสม เช่น มีบริษัทที่เข้าร่วมคัดเลือกจำนวนน้อยเกินไป โดยการยกเลิกนั้นต้องทำเป็นประกาศที่เป็นทางการและต้องลงประกาศหาใหม่ ดังนั้น หมายความว่าอยู่ดีๆ จะยกเลิกไม่ได้หากไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม ส่วนกรณีที่รัฐสภาทำเรื่องให้กรมบัญชีกลางพิจารณาความถูกต้องนั้น อาจเป็นเพียงการหรือในข้อกฎหมาย แต่กรมบัญชีกลางไม่มีอำนาจชี้ว่าควรยกเลิกหรือไม่ ซึ่งหากมีการยกเลิกจริง และเปิดให้มีการแข่งขันที่เป็นเสรีและเป็นธรรม บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกก็ไม่มีสิทธิฟ้องรัฐสภาได้ อย่างไรก็ตาม ในระเบียบพัสดุนั้นกำหนดด้วยว่า การหาพีคิวดังกล่าว ทำได้หลังจากที่มีการกำหนดราคากลางในงานก่อสร้างแล้ว” แหล่งข่าว กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น