xs
xsm
sm
md
lg

“คำนูณ” เผยในหลวงทรงสาบานตนตั้งแต่ขึ้นครองราชย์ ซัด “แก๊งวรเจตน์” ไร้เดียงสาหรือฉ้อฉลกันแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.ประเภทสรรหา สายนักวิชาการ (ภาพจากแฟ้ม)
“ส.ว.คำนูณ” เผยในหลวงทรงสาบานตนตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชย์ และไม่เคยผิดคำสาบาน ทรงตรากตรำปฏิบัติพระราชกรณียกิจจนประชาชนรักและพร้อมปกป้อง ซัดนักการเมืองต่างหากไม่รักษาคำสาบาน ชี้ข้อเสนอ “นิติราษฎร์” อ้างปฏิรูปสถาบัน แต่ละเลยด้านอัปลักษณ์ของทุนการเมือง ไร้เดียงสาสุดๆ หรือฉ้อฉลสุดๆ กันแน่


หลังจากที่วานนี้ (22 ม.ค.) อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่เรียกว่าคณะนิติราษฎร์ นำโดยนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ ได้แถลงข่าวเสนอแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าเพื่อลบล้างผลพวงการรัฐประหาร ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ศาล กองทัพ และสถาบันการเมือง โดยเนื้อหาบางส่วนจะมีการกำหนดให้พระมหากษัตริย์ทรงสาบานตนว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและพิทักษ์รัฐธรรมนูญก่อนเข้ารับก่อนเข้ารับตำแหน่ง

ล่าสุด เช้าวันนี้ นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภาประเภทสรรหา ได้แสดงความคิดเห็นต่อข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์ดังกล่าว ผ่านทางเฟซบุ๊ก “คำนูณ สิทธิสมาน” ว่า พระมหากษัตริย์พระองค์นี้ของเราทรงสาบานพระองค์มาตั้งแต่วันประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก คือขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 แล้วว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เป็นการสาบานพระองค์ต่อหน้าประชาชนในการเสด็จออกมหาสมาคม ไม่ใช่ในรัฐสภา โดยที่รัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติไว้

“จากวันนั้นจนถึงวันนี้กว่า 60 ปี พระองค์ทรงพิสูจน์แล้วว่าไม่เคยทรงผิดคำสาบาน ทรงตรากตรำปฏิบัติพระราชกรณียกิจทุกประการเพื่อแผ่นดิน จนเป็นปัจจัยสำคัญที่นำประเทศนี้ผ่านยุคสงครามเย็นมาได้ แม้จะไม่ได้ทรงมีพระราชอำนาจโดยตรงตามรัฐธรรมนูญและธรรมนูญการปกครองฉบับต่างๆ นี่คือสาเหตุที่ประชาชนไทยรักพระองค์ ปกป้องพระองค์ และถวายพระเกียรติพระองค์ยิ่งกว่ายุคสมัยใดในประวัติศาสตร์”

นายคำนูณระบุอีกว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างหากที่สาบานตนทั้งในฐานะ ส.ส. ส.ว. และรัฐมนตรี ทั้งในรัฐสภาบ้าง และต่อพระพักตร์พระองค์ ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติบังคับไว้ แต่ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา โดยภาพรวมแล้วไม่เคยพิสูจน์ว่ารักษาคำสาบานตนไว้ได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ประชาชนไม่ไว้วางใจนักการเมือง และเป็นต้นเหตุสำคัญของการปฏิรูปการเมืองในช่วงปี 2537-2539 จนเกิดรัฐธรรมนูญ 2540 ที่ให้กำเนิดนวัตกรรมทางการเมืองใหม่ๆ เป็นองค์กรอิสระขึ้นมาควบคุมนักการเมืองอีกชั้นหนึ่งแทนที่จะให้นักการเมืองควบคุมกันเอง แต่ก็ยังไม่สำเร็จอยู่ดี นี่คือ “อีกด้านหนึ่งของเหรียญ” ที่คณะนิติราษฎร์ละเลยที่จะพูดถึง

“การเสนอแต่ด้านปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ศาล กองทัพ เลิกองค์กรอิสระ เพียงด้านเดียว โดยไม่เสนอปฏิรูปด้านทีอัปลักษณ์ของการที่กลุ่มทุนเจ้าของพรรคการเมืองอาศัยการเลือกตั้งเป็นพิธีกรรมชุบตัวเข้ามาบิดเบือนการใช้อำนาจสารพันแปรระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบเผด็จการรัฐสภาของนายทุนเจ้าของพรรคการเมืองพร้อมกันไปด้วย ก็คือข้อเสนอกระชับอำนาจให้แก่ระบอบเผด็จการรัฐสภาของนายทุนเจ้าของพรรคการเมืองในนามของระบอบประชาธิปไตย / ผมตอบไม่ได้จริงๆ ว่าคณะนิติราษฎร์บริสุทธิ์ไร้เดียงสาสุดๆ หรือฉ้อฉลสุดๆ กันแน่ ??” นายคำนูณกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น