แก๊ง ครก.โหมโรงขอเสนอตัวแก้ไขมาตรา 112 แถอ้างสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่ล้มล้างสถาบันกษัตริย์ เรียกร้องให้รัฐบาลและประชาชนทั่วไปตระหนักถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากมาตรา 112 เมินกระแสล่า 1 หมื่นรายชื่อ
วันนี้ (22 ม.ค.) นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ อาสาสมัครคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 ครก.กล่าวว่า กลุ่มนี้ได้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อล่ารายชื่อในการยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งขณะนี้ก็ได้รายชื่อพอสมควร และคาดว่าจะต้องรายชื่อ 1 หมื่นรายชื่อ ภายในเวลา 112 วัน มีหลายกลุ่มที่ยังคงไม่เห็นด้วยในการที่จะยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งบางคนเห็นว่าทางกลุ่มของพวกตนนั้นไม่เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเป็นเพียงการเสนอความคิด และหากใครไม่เห็นด้วยอย่างไรก็นำเหตุผลมาคุยกันได้
ด้าน นายอัครโกวิทย์ พงศ์พิมล นิสิตจุฬาฯ ผู้มาลงชื่อในการยกเลิกมาตรา 112 ระบุว่า 112 เป็นกฎหมายที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นปัญหาสิทธิขั้นพื้นฐานการแสดงสิทธิของประชาชน รวมถึงเป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยนั้นจะต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขกฎหมาย รวมทั้งมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายที่เห็นว่าไม่เป็นธรรมได้ ซึ่งในรัฐธรรมนูญก็ได้มีเขียนไว้ว่าประชาชนมีสิทธิที่จะลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ดังนั้นจึงถือเป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐาน และการยกเลิก 112 นั้นไม่ใช่เป็นการล้มล้างสถาบันอย่างที่ใครเข้าใจ แต่เป็นเพียงการให้ยกเลิกโทษต่าง ๆ ที่เข้มงวดเกินไป ซึ่งบางกลุ่มยังไม่เข้าใจเจตนารมณ์ที่แท้จริงของการแก้ 112 ทำให้มีการเข้าใจผิด
เช่นเดียวกับนายอารมณ์ จันทรวิภาส พนักงานบริษัท ระบุว่า มาตรา 112 นั้นถือเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมต่อสังคม นักการเมือง เพราะบางพรรคการเมืองนำมาเป็นเครื่องมือในการใส่ร้ายกัน ส่วนการแก้นั้นไม่ได้แก้เพื่อทำให้ทำลายสถาบันอย่างที่ใครเข้าใจ แต่เป็นการแก้เพื่อทำให้สถาบันอยู่สูงขึ้น พร้อมยืนยันว่าทุกคนที่ขอให้แก้ 112 นั้นมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน เพียงแต่ต้องทำให้เป็นกฎหมายที่ประชาชนคิดว่าไม่รุนแรง ซึ่งทุกคนที่มาลงชื่อในการยกเลิกมาตรา 112 นั้น เห็นตรงกันว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะสามารถทำได้ และประชาชนในประเทศมีความเห็นชอบด้วย ก็ถือเป็นประชาธิปไตยที่เกิดขึ้น
วันนี้ (22 ม.ค.) นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ อาสาสมัครคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 ครก.กล่าวว่า กลุ่มนี้ได้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อล่ารายชื่อในการยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งขณะนี้ก็ได้รายชื่อพอสมควร และคาดว่าจะต้องรายชื่อ 1 หมื่นรายชื่อ ภายในเวลา 112 วัน มีหลายกลุ่มที่ยังคงไม่เห็นด้วยในการที่จะยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งบางคนเห็นว่าทางกลุ่มของพวกตนนั้นไม่เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเป็นเพียงการเสนอความคิด และหากใครไม่เห็นด้วยอย่างไรก็นำเหตุผลมาคุยกันได้
ด้าน นายอัครโกวิทย์ พงศ์พิมล นิสิตจุฬาฯ ผู้มาลงชื่อในการยกเลิกมาตรา 112 ระบุว่า 112 เป็นกฎหมายที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นปัญหาสิทธิขั้นพื้นฐานการแสดงสิทธิของประชาชน รวมถึงเป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยนั้นจะต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขกฎหมาย รวมทั้งมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายที่เห็นว่าไม่เป็นธรรมได้ ซึ่งในรัฐธรรมนูญก็ได้มีเขียนไว้ว่าประชาชนมีสิทธิที่จะลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ดังนั้นจึงถือเป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐาน และการยกเลิก 112 นั้นไม่ใช่เป็นการล้มล้างสถาบันอย่างที่ใครเข้าใจ แต่เป็นเพียงการให้ยกเลิกโทษต่าง ๆ ที่เข้มงวดเกินไป ซึ่งบางกลุ่มยังไม่เข้าใจเจตนารมณ์ที่แท้จริงของการแก้ 112 ทำให้มีการเข้าใจผิด
เช่นเดียวกับนายอารมณ์ จันทรวิภาส พนักงานบริษัท ระบุว่า มาตรา 112 นั้นถือเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมต่อสังคม นักการเมือง เพราะบางพรรคการเมืองนำมาเป็นเครื่องมือในการใส่ร้ายกัน ส่วนการแก้นั้นไม่ได้แก้เพื่อทำให้ทำลายสถาบันอย่างที่ใครเข้าใจ แต่เป็นการแก้เพื่อทำให้สถาบันอยู่สูงขึ้น พร้อมยืนยันว่าทุกคนที่ขอให้แก้ 112 นั้นมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน เพียงแต่ต้องทำให้เป็นกฎหมายที่ประชาชนคิดว่าไม่รุนแรง ซึ่งทุกคนที่มาลงชื่อในการยกเลิกมาตรา 112 นั้น เห็นตรงกันว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะสามารถทำได้ และประชาชนในประเทศมีความเห็นชอบด้วย ก็ถือเป็นประชาธิปไตยที่เกิดขึ้น
