“ยิ่งลักษณ์” ยันปรับ ครม.ไม่ผิดฝาผิดตัว ปรับเพื่อความลงตัวช่วงฟื้นฟูประเทศ ไม่ได้ต่างตอบแทนใคร อ้าง “ณัฐวุฒิ” มีความรู้ ความสามารถ เข้าใจปัญหาเกษตรกร จึงให้มาเป็น รมช.เกษตรฯ ส่วน “นลินี” แม้ติดบัญชีดำสหรัฐฯ แต่เป็นไปตามตาม รธน.ไทย เตรียมทำความเข้าใจกองทัพ หลังปรับเอา “สุกำพล” นั่ง รมว.กลาโหม แทน “ยุทธศักดิ์”
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 05.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ ถึงการปรับ ครม.ที่เพิ่งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อวานนี้ว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ก็ถือว่ารัฐบาลทำงานมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งหลังจากทำงานไปก็ทราบดีว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการฟื้นฟูจึงได้ปรับครม.เพื่อความลงตัวเท่านั้น ไม่ได้มีประเด็นอื่น ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐมนตรีที่ถูกปรับออกไปจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี
“เป็นเป็นลักษณะของเวลาที่ผ่านไป บางทีก็ต้องการบุคคลากรมาช่วย ที่เหมาะและตรงกับในเรื่องของขั้นตอนการฟื้นฟู และในการช่วยเร่งกอบกู้เศรษฐกิจ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิจารณ์ว่าเป็นการปรับครม.แบบตอบแทนบุญคุณกัน นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีหรอก ความจริงเราดูตามความเหมาะสมและความลงตัวของคุณสมบัติของผู้ที่เข้ามาร่วมในครม. สำหรับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.นั้น นายกฯ กล่าวว่า ความจริงนายณัฐวุฒิเองก็เป็นคนที่มีความรู้ ดูจากแบล็กกราวนด์การจบการศึกษาของนายณัฐวุฒิ และเรามองว่าที่ให้ไปดูกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะนายณัฐวุฒิมีความเข้าใจในเรื่องของปัญหาของเกษตรกร
เมื่อถามถึงกรณีของนางนลินี ทวีสิน ที่ถูกแบล็กลิสต์จากสหรัฐฯ นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นแล้วก็เห็นว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และเรื่องนี้เจ้าตัวเองก็ชี้แจงแล้ว เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่ากรณีของนางนลินี จะเป็นปัญหาต่อภาพลักษณ์ของ ครม.ชุดใหม่หรือไม่ เพราะขึ้นแบล็กลิสต์จากต่างประเทศ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องขอตรวจสอบในข้อเท็จจริง เพราะในส่วนของประเทศไทยและตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญถือว่าไม่ติดขัดในแง่ของคุณสมบัติ คงต้องให้เจ้าตัวออกมาชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯมั่นใจหรือไม่ว่า ครม.ยิ่งลักษณ์ 2 ครั้งนี้ไม่ผิดฝาผิดตัว นายกฯ กล่าวว่า ไม่หรอก และอยากให้สื่อมวลชนลองดู ลองเทียบในแต่ละกระทรวงดู ซึ่งบางท่านอาจจะไม่คุ้นหน้า คุ้นตา แต่ถ้าดูตามคุณสมบัติหรือวุฒิการศึกษาแล้วก็เห็นว่าตรงกับงานที่ดูแล และเราต้องการปรับเพื่อความลงตัวและจะได้เร่งเข้าสู่โหมดของการฟื้นฟูและเร่งกอบกู้เศรษฐกิจโดยเร็ว
เมื่อถามว่าในเรื่องของเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในช่วงที่กำลังจะมีการปรับและเร่งในเรื่องของการฟื้นฟู จะทำให้มีปัญหาสะดุดหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ความจริงแทบไม่ได้เปลี่ยนเลยเพราะโดยหลักแล้ว นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ในฐานะรองนายกฯ ก็ดูกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับทางด้านเศรษฐกิจมาอยู่แล้ว และเรื่องนี้นายกิตติรัตน์ ก็ทราบมาตั้งแต่ต้น ดังนั้นไม่มีอะไรใหม่ เพียงแต่ว่าอาจจะได้รับผิดชอบตรงมากขึ้นเพราะช่วงนี้เราต้องการให้เข้ามาดูเรื่องเศรษฐกิจ เนื่องจากเราต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ก็คงจะทำงานควบคู่กับกยอ.อย่างใกล้ชิด
สำหรับกรณีของนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ที่ถือเป็นมือเศรษฐกิจ แต่ไปนั่งในกระทรวงศึกษาธิการนั้น นายกฯ กล่าวว่า ความจริงแล้วกระทรวงศึกษาฯ อย่ามองว่าไม่ใช่กระทรวงเศรษฐกิจ เพราะการพัฒนาบุคคลากรหากพัฒนาได้ดี การศึกษาต่างๆ ก็ไปได้ ซึ่งนายสุชาติ เองก็เป็นคณบดีของมหาวิทยารามคำแหง ก็ถือว่าตรง และเป็นนักการศึกษาอยู่แล้วก็น่าจะมีความรู้ ความเข้าใจในวงการศึกษา
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระทรวงกลาโหม ที่ให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ไปดูแล ซึ่งดูเหมือนทางทหารไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ คิดว่าจะทำให้เกิดปัญหาระหว่างทหารกับรัฐบาลหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คิดว่าต้องทำความเข้าใจเพราะ พล.อ.อ.สุกำพล ก็เป็นทหาร ก็น่าจะมีความเข้าใจด้านการทหาร เราไม่ได้เอาฝ่ายพลเรือนมาเป็นรมว.กลาโหม ขณะเดียวกัน ที่ให้พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา มาเป็นรองนายกฯ ก็ยังดูแลความมั่นคงและดูแลกระทรวงกลาโหม ก็แปลว่านโยบายทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพียงแต่อาจจะมีคนเข้ามาดูแลใกล้ชิดมากขึ้น ในรายละเอียดมากกว่า เพราะที่ผ่านมาเรายังไม่มีคนมาดูแลด้านความมั่นคงโดยตรงแต่ให้ฝ่ายทหารเข้ามาดูแลแทน เมื่อถามว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ จะน้อยใจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่น้อยใจหรอก ที่ผ่านมา พล.ต.อ.โกวิทก็ช่วยรัฐบาลมามาก แต่เนื่องจากครม.มีจำนวนจำกัด ซึ่งก็เสียดายเพราะใน ครม.ท่านก็ช่วยเหลือและให้คำแนะนำ ครม.มาตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่าปรับ ครม.ครั้งนี้แล้ว จะมีการปรับอีกครั้งเมื่อไหร่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ขอให้ ครม.ชุดใหม่ได้ทำงานก่อนและขอให้ประชาชนสบายใจว่าทุกอย่างเราได้พิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้ ครม.ชุดนี้เดินหน้าไปและต้องการเน้นเรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจและเร่งผลักดันนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อความเป็นอยู่ของประชาชน เมื่อถามว่าส่วนตัวพอใจกับภาพรวม ครม.ใหม่มากน้อยแค่ไหน นายกฯ กล่าวว่า “ก็พอใจสิคะ”