"อดีตโทรโข่งมาร์ค" ชี้ปรับครม.ยิ่งลักษณ์ 1 สายฟ้าแล่บตามคาด เหตุกลัวแรงกระเพื่อมโหม ชูพรรคเติ้งเก้าอี้หนึบ ชี้ข่าวยึดเกษตรแค่โยนหินถามทาง เชื่อหวังดันแกนนำแดงนั่งรัฐมนตรีแน่ แสดงภาพชัดม็อบยึดพท. ส่อธาตุแท้รัฐแทนคุณชัดเจน ประชดควรมอบตำแหน่ง "ไอ้ตู่" ด้วย เสียดาย "กฤษณา - ธีระชัย" โดนเด้งอดพิสูจน์ตนหลังถูกยื่นถอด ชี้ "สุชาติ" เคยสอนรามก็พออ้อมแอ้มนั่งกระทรวงเสมาได้
วันนี้ (17 ม.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการปรับ ครม.ของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 1 ว่า เป็นไปตามความคาดหมายที่รวบรัดการปรับ ครม.โดยเร็ว เพราะกลัวแรงกระเพื่อมที่จะเกิดขึ้นภายในพรรคเพื่อไทย แต่ที่ยอมรับความเป็นจริงว่าพรรคชาติไทยพัฒนายังเหนียวแน่นไม่มีใครกล้าแตะต้องโควต้านี้ได้ กระแสข่าวที่ออกมาโยนหินถามทางว่าจะยึดกระทรวงเกษตรฯคืนมาให้พรรคเพื่อไทยก็เป็นเพียงความเคลื่อนไหวของกลุ่มนกแลในพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
“เป็นที่น่าสังเกตว่า การปรับครม.ครั้งนี้เป็นการเปิดทางให้กับแกนนำ นปช.เข้ามารับตำแหน่งแน่นอน แสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนเสื้อแดงมีความสำคัญในพรรคเพื่อไทยและยึดอำนาจภายในพรรคเพื่อไทยได้อย่างเบ็ดเสร็จเห็นจากการบีบบังคับให้ ครม.มีมติชดเชยเงินเยียวยาให้คนเสื้อแดงศพละ 7.75 ล้านบาทได้สำเร็จ และมาครั้งนี้ก็เข้ายึดตำแหน่งทางการเมืองในครม.ได้อีก หลังการเลือกตั้งใหม่ยังแสดงท่าทีเหนียมอายและแคร์กระแสสังคม ที่ไม่กล้าประเคนตำแหน่ง รมต.ให้แกนนำคนเสื้อแดง”นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาแค่ 4 เดือน ที่สุดรัฐบาลก็เปิดเผยธาตุแท้ว่า คนเสื้อแดงต้องทวงบุญคุณเสียงสนับสนุนของมวลชนของตัวเองจนได้เป็นรัฐบาลหากไม่มีการสนองตอบต่อความต้องการของคนเสื้อแดง รัฐบาลนี้อาจจะมีปัญหาทางการเมืองได้ เพราะยังมีภารกิจใหญ่ที่รัฐบาลนี้ต้องทำอีกหลายอย่างที่ต้องพึ่งพาคนเสื้อแดง เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศ และการทวงคืนทรัพย์สินที่ถูกศาลสั่งยึด ถ้าหากรัฐบาลมีความคิดที่จะปูนบำเหน็จให้คนเสื้อแดงก็ควรสนับสนุนให้นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยหากเปรียบเทียบคุณสมบัติกับนายณัฐวุฒิใสยเกื้อ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายจตุพรมีคุณสมบัติเหนือกว่าหลายด้าน ทั้งวัยวุฒิ ความอาวุโสทางการเมือง ความรู้ความสามารถ ความกล้าเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายให้พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ด้อยกว่านายณัฐวุฒิ ประกอบกับนายจตุพร กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการตีความของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะขาดสมาชิกภาพจากการเป็นส.ส.หรือไม่ ถ้าหลุดจากส.ส.ก็ไม่มีตำแหน่งทางการเมืองรองรับ ดังนั้นนายใหญ่ควรจะปูนบำเหน็จตำแหน่งทางการเมือให้ ไหนๆ ก็เดินทางถึงตรงนี้แล้วจะปูนบำเน็จตำแหน่งทางการเมืองให้นายจตุพร อีกคนก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วน 2 รัฐมนตรีที่ถูกปรับออก คือนางกฤษณา สีหลักษณ์ ปรับออกจากตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายธีรชัย ภูวนาถนรานุบาล ออกจากตำแหน่งรมว.คลังนั้น ซึ่งทั้งสองถูกยื่นถอดถอนด้วย ก็น่าเสียดายว่าไม่มีโอกาสที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในตำแหน่ง แต่กระบวนการยังไม่จบ การพิจารณาถอดถอนจะต้องดำเนินต่อไป หากถูกถอดถอนตามกฏหมายก็ต้องมีโทษทางการเมืองคือ ถูกถอดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี
ส่วนกรณีที่นายสุชาติ ธาดาดำรงเวช อดีตรมว.คลังจะมานั่งเก้าอี้รมว.ศึกษาธิการนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ที่ผ่านมาครม.ชุดนี้ก็ไม่ได้เลือกคนที่ตรงกับงานอยู่แล้ว เพราะรัฐมนตรีคนก่อนก็ไม่ได้มาจากการศึกษา แต่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการทำปลัดขิกอยู่กระทรวงวัฒนธรรมก็มากระทรวงศึกษาได้ ส่วนกรณีนายสุชาติ อาจจะมีความรู้ด้านเศรษฐกิจแต่อ้างได้ว่าเคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยรามคำแหงมาก่อนก็คงพอจะอ้อมแอ้มได้