“สดศรี” ระบุกฎหมายไทยหยุมหยิม ทำพรรคการเมืองอ่อนแอ เสนอแก้กฎหมายพรรค ใช้โมเดล “บัตรเครดิต” รายงานบัญชีรายจ่ายเลือกตั้ง ระบุช่วยประหยัดเวลา ไม่ยุ่งยาก
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวบรรยายโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพรรคการเมือง ตอนหนึ่งว่า เข้าใจว่ารัฐธรรมนูญภายใต้ประชาธิปไตยที่มีสถาบันพรรคการเมืองเป็นสถาบันหลักมีความยุ่งยาก อีกทั้งรัฐธรรมนูญไทย และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองที่เขียนไว้ก็มีความซับซ้อน หยุมหยิม ทำให้พรรคการเมืองเกิดความอ่อนแอ เนื่องจากเมื่อทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งพรรคการเมืองก็ต้องถูกยุบไป ซึ่งควรจะมีการแก้ไขหรือไม่ เพราะสาเหตุดังกล่าวมีส่วนทำให้พรรคการเมืองเกิดความอ่อนแอ
“ถ้ากฎหมายเขียนไว้ให้มีการปฏิบัติง่ายและเข้าใจง่ายก็จะสอดคล้องการทำงานของพรรคการเมือง และนักการเมือง หากทุกอย่างเป็นเรื่องที่ง่ายเชื่อว่าไม่มีกลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองใดอยากแก้รัฐธรรมนูญ”
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสประชุมร่วมกับ 9 องค์กรที่จะมาช่วยตรวจสอบบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.54 ที่ผ่านมา ซึ่งได้พบปัญหาในเรื่องของขั้นตอนของกฎหมายที่ได้กำหนดรายละเอียดไว้มาก โดยระเบียบที่ กกต.วางไว้ยุ่งยากเนื่องจากผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องเปิดบัญชีกระแสรายวัน รายงานบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งให้ กกต.ทราบ วิธีการดังกล่าวสร้างความยุ่งยากให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นอย่างมาก จึงเห็นว่าควรเปลี่ยนวิธีการเปิดบัญชีแสดงค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งหรือไม่ และหันมาใช้วิธีการแบบบัตรเครดิต โดยที่ไม่ต้องมีเงินฝาก และสามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งปัจจุบันประเทศพัฒนาในเรื่องโซเชียลเน็ตเวิร์กมาก ซึ่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสามารถแจ้งบัญชีค่าใช้จ่ายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต รวมทั้งแก้บัญชีผ่านระบบดังกล่าวโดยไม่ต้องผ่านวิธีการที่ยุ่งยาก หรือเข้ามาแสดงเอกสารหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ กกต. ทำให้ประหยัดและทันต่อระยะเวลาด้วย แต่ขณะนี้เรายังอยู่ในระบบเก่า ฉะนั้น เมื่อเทคโนโลยีก้าวไกลพัฒนาแล้วก็ควรนำระบบโซเชียลเน็ตเวิร์กมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกกับพรรคการเมือง และสะดวกต่อการทำงานของ กกต.ด้วย ทั้งนี้ ในอนาคต กกต.อาจจะมีการประชุมหารือในกรณีดังกล่าวกันอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปและความชัดเจน
