“ชวนนท์” จวก “เหลิม” ชักศึกเข้าบ้าน ดึงไทยเป็นคู่ขัดแย้งในเวทีโลก หลังเผยตัวผู้ก่อวินาศกรรมโจ๋งครึ่ม ซัดรัฐบาลทำงานห่วย ทำต่างชาติไม่เกรงใจ ห้ามคนมาเที่ยวเหยียบหน้าประเทศไทย แนะใช้ยุทธศาสตร์สื่อแก้ภาพลักษณ์ประเทศ หลังยอดจองโรงแรมใน กทม.ตกฮวบ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่สถานทูตทั้ง 12 ประเทศ ออกคำเตือนประชาชนในประเทศตัวเองไม่ให้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย เนื่องจากกลุ่มฮิซบอลเราะห์ เตรียมก่อวินาศกรรมในประเทศไทย ว่า แสดงให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพในการทำความเข้าใจการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความมั่นคง โดยรัฐบาลควรจะดำเนินการกับเหตุการณ์เช่นนี้ใน 3 ขั้นตอน คือ
1.การประกาศเตือนภัยจากสถานทูต ซึ่งรัฐบาลบอกว่าได้ทราบถึงเรื่องดังกล่าวล่วงหน้าแล้ว และมีการประสานงานภายในอย่างต่อเนื่องกับต่างชาติ และสถานทูต แต่ต่างชาติกับยังไม่มั่นใจว่า รัฐบาลจะปกป้องภัยจากผู้ก่อวินาศกรรมได้ ซึ่งในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็มีการประกาศเตือนเช่นนี้มาตลอด แต่กระทรวงการต่างประเทศสมัยนั้น ก็ได้มีการแจ้งเตือนภายใน เมื่อมีการจับผู้ก่อการร้ายได้ก็จะส่งกลับประเทศ โดยไม่ปล่อยให้สถานทูตประเทศต่างๆออกมาตีโพยตีพาย แจ้งเตือนคนของเขาเอง ซึ่งในขณะนี้ได้เกิดผลกระทบที่เกิดกับไทย คือ ต่างชาติไม่ให้ความไว้วางใจ ไม่มั่นใจ และไม่เกรงใจรัฐบาลนี้แม้แต่น้อย โดยไม่ยอมรับฟังหรือยอมรับคำชี้แจงของรัฐบาลไทยเลย
2.เมื่อมีการแจ้งเตือนแล้ว รัฐบาลควรจะชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับประชาชนและสังคมโลกโดยทันที แต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องกับมีการพูดจาให้ความสับสน โดยบอกว่าทราบเรื่องตั้งแต่ก่อนปีใหม่และได้มีการเตือนแล้ว แต่ที่ตนจำได้ คือ ร.ต.อ.เฉลิม พูดถึงคนมือสั่น เป็นโรคพาร์กินสัน ที่เป็นผู้ก่อกวนไม่ทราบว่า คนๆ นี้ เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮิซบอลเราะห์หรือไม่ ขณะที่กระทรวงกลาโหมกลับบอกเพียงว่าเพิ่งทราบเรื่องนี้ก่อนหน้าการแจ้งเตือนเพียง 2 วัน แสดงว่า เป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ให้ความมั่นใจต่อชาวต่างชาติ ที่สำคัญ ข้อมูลเหล่านี้ทำให้ต่างชาติยังคงระดับการแจ้งเตือนภัย และตนเชื่อว่า จะมีอีกหลายประเทศที่จะทำการแจ้งเตือนเพิ่มขึ้น เพราะขนาดรัฐบาลไทยยังสับสนกันเอง และจะให้ต่างชาติรับฟังได้อย่างไร และยังบอกว่า จับตัวคนเลบานอนได้แล้ว และมีการล้มแผนการก่อวินาศกรรมแล้ว แต่กลุ่มฮิซบอลเราะห์ กับบอกว่า ไม่ใช่เป็นสมาชิกของเขา ถือว่าเรากำลังหาเหาใส่หัวหรือไม่ เพราะประเทศไทยไม่เคยเข้าเป็นคู่ขัดแย้งในเวทีโลกเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ท่านชักศึกเข้าบ้าน เอาคนไทยไปเกี่ยวข้องด้วยทำไม ดังนั้น จึงควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
3.หลังเกิดเหตุควรหาทางแก้ไข โดยสิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ต้องเชิญทูตานุทูตของทุกประเทศเข้ารับฟังความจริงและควรให้เอกอัครราชทูตไทยในประเทศต่างๆ เดินทางไปให้ข้อเท็จจริงกับทุกประเทศโดยทันที โดยการดำเนินการกระทรวงการต่างประเทศ ต้องมียุทธศาสตร์ด้านสื่อเพื่อแก้ไขภาพพจน์ให้กับประเทศ เพราะขณะนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยพังไปแล้ว ยอดการจองโรงแรมใน กทม.เริ่มตกแล้ว และกำลังลามไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ ในภาคต่างๆ เพราะรัฐบาลบอกว่าสถานการณ์อยู่ในขั้นปลอดภัย แต่ ครม.กลับยกพลไปประชุม ครม.สัญจรที่ภาคเหนือ ทิ้งประชาชนตาดำๆ ไปแบบนี้ และจะให้ต่างชาติมั่นใจได้อย่างไร