“ประยุทธ์” ชี้อย่าเอาเงินเยียวยาม็อบเทียบกำลังพลตายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ อ้างคนละเรื่อง ระบุหากทำต้องแก้ระเบียบราชการ ปัดเมินพบ กมธ.ปรองดอง อ้างส่งคนไปแจงก็เหมือนกองทัพแจง ยันไม่ขัดแต่อย่าทำกระบวนการยุติธรรมเสียหาย เปรียบเขียนเสือให้น่ากลัวสุดท้ายก็กลัวเสียเอง แนะทำใจให้สงบดีที่สุดในการปรองดอง
วันนี้ (13 ม.ค.) ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมพิธีวันสถาปนากองทัพภาคที่ครบรอบ 102 ปี ถึงกรณีที่ ครม.มีมติจ่ายเงินเยียวยาชดเชยให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2548-2553 จำนวน 2,000 ล้านบาทว่า เรื่องนี้ต้องแยกกันคนละกรณี และต้องแยกแยะออกจากกันทั้งหมด หากพันกันอยู่แบบนี้ก็แก้อะไรกันไม่ได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 เป็นเรื่องหนึ่งที่เกิดจากการรักษาความสงบเรียบร้อย ที่มีทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต หากเอาเรื่องนี้ไปปนกับเรื่องอื่นก็จะทำให้ลำบาก ส่วนเรื่องกำลังพลที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเรื่องของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และระเบียบการใช้จ่ายเงิน เป็นค่าตอบแทนให้กับกำลังพลที่บาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน ส่วนจะมีการปรับเงินค่าตอบแทนหรือไม่นั้นก็ต้องไปว่ากันในส่วนของคณะทำงาน เพราะเป็นการดูแลคนทั้งกองทัพ ไม่ใช่กองทัพบกอย่างเดียว เพราะทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ มีกำลังพลเกือบ 4 แสนคน เป็นระเบียบที่ต้องแก้ไขทั้งหมด ถ้านำเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เป็นคนละเรื่องกัน การชุมนุมเป็นกรณีพิเศษ ส่วนจะมากหรือน้อยเป็นเรื่องของคณะกรรมการที่จะต้องพิจารณา หรือทาง ครม.พิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป หากทหารได้เงินมากขึ้นก็ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างต้องใช้เวลาในการแก้ไขระเบียบ ถ้าเปรียบเทียบว่าน้อยใจหรือไม่ อย่าไปคิดอย่างนั้น เพราะจะทำให้มีปัญหา ทหารจะทำงานลำบาก
“อย่านำเรื่องเยียวยามาเกี่ยวกับทหาร ทหารเป็นเพียงระเบียบและเงินประกันชีวิต เงินช่วยเหลือ และค่าตอบแทน โดยเงินค่าตอบแทนเงินเดือน 25 เท่า แต่ถ้าจะให้ทหารที่เสียชีวิตเท่ากับ 7.75 ล้านบาท ก็ต้องไปแก้ไขระเบียบตรงนี้ ซึ่งรัฐบาลก็รับปากและทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ชี้แจงรายละเอียดแล้วว่าจะดูแลเรื่องนี้ให้มากขึ้น อย่านำทั้ง 2 เรื่องมาปนกัน แต่ตรงนี้หากถามว่าเหมาะสมหรือไม่ ก็ในเมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วว่าเหมาะสมก็เป็นเรื่องการอนุมัติของรัฐบาล ที่อยากดูแลผู้สูญเสีย เสียชีวิต ก็ว่าไป ส่วนจะพอใจหรือไม่พอใจก็แล้วแต่ สำหรับคนที่ได้รับเงินจากตรงนี้” ผบ.ทบ.กล่าว
เมื่อถามว่า เงินเยียวยาสามารถนำไปสู่ความปรองดองได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องคณะกรรมการที่ได้พิจารณามาแล้ว และ ครม.ก็พิจารณาแล้วก็เป็นเรื่องที่ท่านตัดสินใจไป และเราก็ต้องแก้ปัญหาตามไปว่าอะไรจะเกิดขึ้น หรือไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คาดหวังว่าน่าจะดีมั้ง เมื่อถามว่า แนวทางปรองดอง คิดว่าจะสำเร็จหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนได้รับเชิญจากคณะกรรมธิการปรองดอง ไม่ได้หลีกเลี่ยง แต่การที่จะไปตอบคำถามใคร ตนสามารถแต่งตั้งคนไปตอบคำถามได้ ตนได้ตั้งผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายยุทธการ ไปตอบในนามตน โดยให้แนวทางของตนไป ซึ่งเราไม่ขัดข้องในกระบวนการปรองดองอะไรทั้งสิ้น อะไรก็ตามที่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยก็ดีทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าอย่าทำให้ระบบกระบวนการยุติธรรมเสียหาย ซึ่งมีวิธีการอยู่แล้ว ทั้งนี้ตนไม่บังอาจที่จะไปคิดแทนตรงนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของตน ตนเป็นผู้ปฎิบัติ คนที่จะไปตอบคำถามหรือให้แนวความคิดเห็นไม่ใช่ทหารที่เป็นกองทัพบก ไม่ใช่ ผบ.ทบ.คนเดียว ทหารมีหลายเหล่าทัพ ทั้ง กองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกระทรวง ทบวง กรม ร้อยกว่ากรม ซึ่งทั้งหมดต้องไปแสดงความคิดเห็นเหมือนกับกองทัพบก ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร ชอบหรือไม่ชอบก็ไปว่ากัน ไม่อย่างนั้นทุกอย่างก็เหมือนกับอะไรก็กองทัพบก เป็นอำนาจนอกระบบ ซึ่งทำให้กองทัพบกเสียหาย ว่าอะไรต่างๆ ก็ตามก็กองทัพบกไปเกี่ยวพันทั้งหมด
“ผมจะใช้คำเปรียบเทียบไม่รู้จะเหมาะสมหรือเปล่าว่า เสือมันอยู่ในป่าของมัน ก็ดูน่ากลัว ก็ปล่อยให้มันอยู่ในป่า ให้หากินตามป่าเขาไป แต่ถ้าเราเอาเสือมาวาดรูปและท่านก็วาดไปเรื่อยๆ เสือตัวนี้มันก็ดุขึ้นเรื่อยๆ เมื่อท่านวาดไปวาดมาท่านก็กลัวเสือที่ท่านวาดเอง ไม่ต้องไปกลัวเสือ ถ้าปล่อยให้เสือเขาหากินตามธรรมชาติไป และทำตามหน้าที่ดูแลสร้างสมดุลธรรมชาติ เวลาท่านเขียนเสือไว้ที่ไหน มันก็ดูน่ายำเกรง แต่อย่าไปวาดจนมันดุร้ายจนเกินไป มันก็เลยทำให้วาดไปวาดมากลัวเสือที่ตัวเองวาด” ผบ.ทบ.กล่าว
เมื่อถามว่า การใช้ตัวเงินจะสร้างความปรองดองจะยั่งยืนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงเป็นวิธีการหนึ่งที่เขาคิดแบบนั้น ส่วนจะมีวิธีการอีกหรือไม่ ให้สื่อนำเสนอว่ามีอะไรนอกเหนือจากนี้ ทั้งนี้ใจคนในสังคมไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ จะพอใจหรือไม่พอใจไม่รู้เลย และเขาพอใจกันหมดหรือไม่ ตนก็เห็นข่าวว่า บางส่วนก็พอใจ บางส่วนไม่พอใจ บางส่วนมากไปน้อยไป ก็ไม่มีอะไรพอดี จิตใจคน วันนี้ทำอย่างไรให้เกิดความสงบให้ได้ และไปแก้ไขกันด้วยกฎหมาย ตนคิดว่าเป็นกระบวนการประเทศไทยมี 3 อำนาจ คือ บริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ถ้าเอาทั้ง 3 อำนาจมาตีกันทั้งหมดก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น เมื่อถามว่าแนวคิดที่ดีที่สุดในการปรองดองหรือการแก้ไขปัญหาของคนในชาติคืออะไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทำใจให้สงบ