ผบ.ทบ.สนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยช้างป่า หลังถูกฆ่า สั่ง มทภ.1 ประสานกรมอุทยานฯ ดูแลพิเศษ เตรียมฝึกทหาร พล.ร.9 ในพื้นที่ปัญหา พร้อมไล่ล่ามือสังหารช้าง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวถึงกรณีที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยการลักลอบล่าช้างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางด้านทิศตะวันตก ว่า กองทัพบกได้รับแจ้งมาตั้งแต่วันแรกที่มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยสั่งให้กองทัพภาคที่ 1 ไปดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งกองทัพบกมีกองกำลังสุรสีห์ในพื้นที่ ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 1 ได้สั่งไปยังกองพลทหารราบที่ 9 โดยเข้าไปประสานการทำงานกับกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และคณะทำงานที่ปรึกษาของสำนักพระราชวังและราชเลขาในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และได้นำความที่พระองค์ท่านทรงห่วงใยมาถ่ายทอดทุกคนที่ทำหน้าที่ได้รับทราบ ซึ่งมีเรื่องต้องแก้ไข คือ การบังคับใช้กฎหมาย และสืบสวนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นกลุ่มไหนอย่างไร อย่าเพิ่งไปบอกว่ากลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ซึ่งตนได้ฟังครั้งแรกว่าเป็นคนมีสี ซึ่งตนก็อยากรู้ว่าสีอะไรก็ได้สอบถามไป แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันว่าสีอะไร ถ้าใช้คำว่ามีสีมันก็ยุ่ง อย่างไรก็ตามถ้าสีอะไรทุกสีก็ทำผิดกฎหมายไม่ได้อยู่แล้ว หากเป็นทหารก็ต้องดำเนินการโดยด่วนทันทีจะต้องปลดพ้นหน้าที่หรืออะไรก็ว่ากันไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไป คือ ช้างจะอยู่กับคนอย่างไรอย่างปกติสุข ต้องเอื้อเฟื้อต่อกันช้างก็อยู่ในส่วนช้างคนก็อยู่ส่วนคนไม่รบกวนซึ่งกันและ กัน ทั้งนี้กรมอุทยานแห่งชาติได้คิดหาแนวทาง โดยเฉพาะกองทุนเพื่อจัดหาอาหารช้างโดยให้คนในพื้นที่เป็นคนจัดหาเพื่อเป็น การสร้างความสัมพันธ์ดีระหว่างคนกับช้างในพื้นที่ เราจะให้ทหารไปทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ และมีการตั้งชมรมคนรักช้างขึ้นมาเพื่อคอยดูแลอาหารช้าง โดยช้างกินวันละประมาณ 200 กก.ต่อตัวต่อวัน นอกจากการดูแลเรื่องกฎหมายแล้ว จะต้องดูแลในเรื่องธุรกิจร้านอาหารป่าที่ผิดกฎหมาย อยากจะบอกว่าอาหารที่เป็นสัตว์ป่าไม่ได้มีประโยชน์ถึงขนาดที่จะต้องนำมากิน เพื่อให้เกิดอายุยืนไม่น่าจะเชื่อ แต่สัตว์ป่าควรจะเก็บไว้ดู และชื่นชมจะดีกว่า ทุกอย่างจะต้องเอื้อเฟื้อต่อกัน
ขณะเดียวกัน เรามีทหารลาดตระเวนดูแลอยู่แล้ว แต่ประเด็นสำคัญไม่ใช่ว่าเราได้ลงนามใน เอ็มโอยู ในการเข้าไปมีส่วนร่วมดูแลผืนป่าแล้วจะเข้าไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ทหารจะเข้าไปจะต้องมีเบี้ยเลี้ยงค่าอาหาร และมีการประสานงานกับสำนักงานอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ทหารเข้าไปตลอดเวลาไม่ได้ จะต้องมีการวางแผนว่าจะเข้าไปเวลาใดอย่างไร ไม่อย่างนั้นสัตว์ป่าจะแตกตื่น เขาห้ามนำคนเข้าไปในป่า แต่หากไม่เข้าก็ไม่ได้เพราะสัตว์จะได้รับอันตรายจึงจำเป็นจะต้องมีการปรับปรุง
“ผมได้สั่งการให้ พล.ร.9 ว่า หากมีการฝึกในพื้นที่ต่างๆ ก็ให้มีการปรับเปลี่ยนแผนให้เข้ามาฝึกในพื้นที่ดังกล่าวแทน เพื่อคอยลาดตระเวนให้ครอบคลุมมากกว่าเดิม เพราะหากทำแบบเดิมกรมอุทยานแห่งชาติก็มีคนตรวจตราไม่ทั่วถึง ดังนั้นทหารจะเข้าไปช่วยเสริมให้ ซึ่งได้เริ่มทำไปแล้ว และมีการตั้งด่านจุดสกัดมากขึ้น แต่การที่จะให้ทหารเข้าไปดำเนินการทางกรมป่าไม้ และกรมอุทยานสัตว์ป่า จะต้องจัดงบประมาณให้กับทหารเป็นพิเศษ ส่วนจะมากหรือน้อยก็ไม่มีปัญหาทางทหารทำให้อยู่แล้ว ทั้งนี้ เชื่อว่า จะหาต้นตอผู้ที่อยู่เบื้องหลังทำผิดกฎหมายได้ เพราะคนที่ทำความผิดจะต้องหาตัวได้อยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว