เพชรบุรี - รมว.ทรัพย์ ควงรองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ลงพื้นที่แก่งกระจานหามาตรการป้องกันช้างป่าเตรียมของบทำลวดไฟกันช้างเข้ารุกพื้นที่ชาวบ้าน ด้าน พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผบช.ภ.7 นำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 39 บ้านเลขที่ 544 และบ้านเลขที่ 0/89 หมู่ 6 บ้านป่าเด็ง พร้อมควบคุมตัว 3 พรานป่าไปสอบสวนหลังพบของกลางเป็นกระดูกสัตว์คุ้มครองจำนวนมาก และอุปกรณ์ดักสัตว์ กระสุนปืน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (12 ม.ค.) นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางมายังพื้นที่ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่จัดตั้งขึ้น ประกอบด้วย นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายสุทธิพงษ์ ตันบุญยศิริเดช นายอำเภอแก่งกระจาน พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.แก่งกระจาน และส่วนเกี่ยวข้อง เข้าร่วมหามาตรการกรณีช้างป่าแก่งกระจานถูกฆ่าตัดงวงและอวัยวะเพศ และช้างถูกฆ่าเผานั่งยาง
โดยเรื่องดังกล่าว นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ได้มีการตั้งชุดคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าใครถูกใครผิด และมีหน้าที่หาข้อมูลเชิงลับ โดยมีตนเป็นประธานซึ่งได้มอบหมายให้กรมอุทยานฯทุกแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีช้างต้องมีการป้องกัน และจัดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน โดยเฉพาะจุดตรวจอย่างเข้มงวดติดตามฝูงช้างว่า ฝูงช้างอยู่ตรงไนต้องคอยเฝ้าระวังติดตาม ซึ่งจะได้รู้เลยว่ากระบวนการเป็นอย่างไร
ส่วนเรื่องที่มีกระแสข่าวว่ากรมอุทยานฯออกมาเปิดเผยเอกสารลับอันเป็นเรื่องของกระบวนการล่าช้างว่ามีมามากกว่า 10 ปีแล้วมีคนมีสี นักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการ นักการเมืองระดับชาติ ถึงระดับรัฐมนตรีที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องจากการมีรายได้จากการฆ่าช้างไปขายนั้น ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ว่าใครก็ตามจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของกรมอุทยาน ซึ่งได้ทำการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่มีทั้งฝ่ายตำรวจ ฝ่ายทหาร ฝ่ายอุทยาน ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมหาข้อเท็จจริงให้ได้และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นอกจากนี้ ต้องทำตามพระราชเสาวนีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งได้มีการวางแนวทางโดยกระทรวงเองและอุทยานฯ ต้องให้ความสำคัญต่อโครงการตามพระราชดำริอย่างสูงสุด อีกทั้งเน้นย้ำให้ทุกแห่งว่าปัญหาช้างในอดีตที่ผ่านมาในยุคนี้ต้องเข้มงวดเอาข้อมูลเชิงลับว่าจะทำอย่างไร อีกทั้งให้เข้มงวดโดยเจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างเข้มแข็งทั้งในเรื่องด่านตรวจ มีเจ้าหน้าที่เดินลาดตระเวน
ส่วนพื้นที่ที่มีปัญหาที่ทำกินของพี่น้องประชาชนที่ทำพืชไร่จะมีการของบประมาณทำลวดไฟกันภัยเพื่อไม่ให้ช้างออกมานอกพื้นที่เพื่อเข้ามาบุกรุกกินพืชไร่ของชาวบ้าน โดยเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และจะมีการจัดตั้งกองทุนช้างเพื่อเตรียมการในช่วงฤดูที่ช้างขาดแคลนอาหารหรือในกรณีที่ช้างไม่มีอาหารกินจนถึงขั้นออกมาหากินในพื้นที่ไร่ของชาวบ้าน อันจะเกิดปัญหาตามมาระหว่างคนกับช้าง และหากมีการเสียหายเกิดขึ้นก็จะสามารถมีเงินชดเชยให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากช้างที่เข้ามากัดกินพืชไร่ อย่างไรก็ตาม จะต้องเตรียมการจัดทำลวดไฟล้อมบริเวณที่ช้างจะออกมากินพืชไร่ของประชาชนก่อนอย่างเร็วที่สุด
ทางด้านตำรวจภูธรภาค 7 นำโดย พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผบช.ภ.7 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 7 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หนองพลับ ลงพื้นที่ตรวจค้น 3 จุดเป้าหมายหลัก ซึ่งเป็นบ้านของพรานป่า โดยการนำหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี เลขที่ 16 /2554 17/2554 และ 18/2554 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 39 บ้านเลขที่ 544 และบ้านเลขที่ 0/89 หมู่ 6 บ้านป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน
พร้อมควบคุมตัว นายจูลี่ (หรือลิเบอร์) พงษ์ล้ำเลิศ, นายมงคลธรรม หรือ (ลิง) ทรัพย์ประเสริฐสิน และนายจอเอ จันทร์อุปถัมภ์ ที่หลังตรวจค้นบ้านพักทั้ง 3 หลังพบของกลางเป็น กระดูกลิง กระดูกชะนี หมูหริ่ง เม่น เก้งแดง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และพบอุปกรณ์ดักสัตว์ กระสุนตะกั่ว ดินดำที่ใช้สำหรับทำปืนแก๊ปชิ้นส่วนหนังสัตว์กีบเท้าสัตว์และเขี้ยวหมูป่าจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.แก่งกระจาน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่กำลังขับรถกลับได้พบเห็นฝูงช้างที่มีทั้งหมด 5 ตัว โดยมีลูกน้อยกำลังน่ารัก 2 ตัวรวมอยู่ด้วยกำลังดื่มน้ำในบ่อริมถนนที่ใกล้กับหมู่บ้าน ซึ่งเป็นภาพที่ยังคงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่และบ่งบอกว่าในพื้นที่ยังมีช้างที่กำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก