ผลการประชุม ครม.วันที่ 10 ม.ค. 2555 เปิดหัวปีศักราชใหม่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” จัดหนักจัดเต็มให้คนเสื้อแดงทันที
เมื่อมีมติตามข้อเสนอของคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) จ่ายเงินชดเชยเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงหรือขัดแย้งทางการเมือง อ้างหลักนิติธรรม เสมอภาค นำไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ!!
ร่างแผนสวยหรู จ่ายเงินชดเชยครอบคลุมทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงตั้งแต่ช่วงก่อนการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 เป็นต้นมา จนกระทั่งเหตุการณ์เดือน เม.ย.-พ.ค.53 ลากโยงตั้งแต่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อช่วงปลายปี 48 จนถึงเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.53 วางงบประมาณเบื้องต้นทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หลักเกณฑ์นี้เป็นวาระพิเศษ พร้อมทั้งให้ “ปคอป.” ไปดูผลกระทบข้างเคียง เช่นร้านค้าต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองด้วย
เมื่อเหลือบไปดูเม็ดเงินที่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” จัดแบบเต็มๆ ให้แล้ว ต้องร้องโอ้โฮ!! เฉพาะกรณีการเสียชีวิตได้รับไปหัวละ 4.5 ล้านบาท รวมไปถึงการชดเชยเยียวยาความสูญเสียทางด้านจิตใจอีก 3 ล้านบาท เงินช่วยเหลือสำหรับค่าปลงศพอีก 2.5 แสนบาท
คร่าวๆ คนตายในเหตุการณ์ทางการเมืองได้รับไปเหนาะๆ เกือบ 8 ล้านบาท
คนบาดเจ็บทุพพลภาพก็ได้รับไปหนักไม่แพ้กัน กรณีทุพพลภาพ อัตราเท่ากับเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต 4.5 ล้านบาท กรณีสูญเสียอวัยวะ สำคัญ รับไป 3.6 ล้านบาท สูญเสียอวัยวะไม่สำคัญ 1.8 ล้านบาท แม้แต่ผู้ถูกคุมขังก็จะได้รับเงินชดเชยลดหลั่นกันไป แต่เป็นจำนวนเงินที่มากจนน่าพอใจ
แม้ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงกับก่อนหน้านี้ ที่แกนนำคนเสื้อแดงอย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาเปิดเกมโยนหินแบบสุดโต่งหว่านเม็ดเงินให้กับคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตขั้นต่ำรายละ 10 ล้านบาท ท่ามกลางเสียงคัดค้านครหาจากฝ่ายตรงข้ามว่าไม่เคยมีเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งใดจะจ่ายเงินชดเชยมากถึงขนาดนั้น
แต่ดูเหมือนว่าเสียงทัดทานจะแผ่วเบาเกินไป จนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยักไหล่ไม่สนใจ จึงมีมติ ครม.แบบจัดเต็มชุดใหญ่ โดยพ่วงเหตุการณ์ย้อนหลังไปถึงการชุมนุมของคนเสื้อเหลืองด้วย เพื่อความ “ไม่น่าเกลียด” ทำเป็นพิธีกรรมให้อ้างอิงได้ว่า ไม่ใช่เรื่องของการเลือกปฏิบัติ!!
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น นับได้ว่าเป็นเกมต่างตอบแทนที่สาสม เมื่อคนเสื้อแดงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเถิดเทิงเถลิงอำนาจอีกคำรบ บนซากปรักหักพังสูญเสียทั้งเลือดเนื้อ ชื่อเสียงประเทศชาติ วันนี้จะตอบแทนความห่ามห้าวกร้าวแข็ง ของ“วีรชนในใจแม้ว” จะเป็นไรมี
มากกว่านี้ยังได้ด้วยซ้ำ สำหรับบางคนบางฝ่ายที่มีทัศนคติที่อันตราย ยอมเสียเบี้ยเพื่อแลกทางเดินบนกระดานที่ได้แต้มต่อ และอาจจะสามารถวางแผนให้เกิดความสูญเสียมากกว่านี้ก็ได้ ถ้าทำให้ได้บรรลุเป้าหมายสุดยอดขั้นสุดท้าย!!
เรื่องการเมืองบางครั้งมันก็เป็นเกมของผู้มีอำนาจ ผู้มีทรัพย์สมบัติ จะกำหนดให้ตาสีตาสาเดินไปหาความตายด้วยความรู้ไม่เท่าทัน ท้ายที่สุดก็ใช้อุบายที่มีอยู่เหนือผู้อื่นนั้น จัดการให้เรื่องหลายอย่างจบลงได้ด้วยความอเนจอนาถในสายตาของใครหลายคน
หมากการเมืองที่ก้าวเดินมาด้วยความรุนแรง ความเชื่อที่ว่ายิ่งมากเท่าทบทวีจะเป็นบทสรุปสุดท้าย นั่นคือต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อ และน้ำตาประชาชน คล้ายเช่นอดีตที่เราได้เคยมีบทเรียน.. ฤๅมันจะเกิดขึ้นกับยุคนี้อีกครา
แต่ทว่าบริบทครั้งนี้มันเปลี่ยนไป จากที่เคยสู้ด้วยเลือดเนื้อ อุดมการณ์ จิตวิญญาณ ด้วยฉันทามติ แต่วันนี้มันอาจเปลี่ยนเป็นเลือดเนื้อ และทรัพย์สมบัติ ที่ถูกมอมเมาจนหลงกระแสไป
วงจรการเมืองนับจากนี้ไป มันอาจไม่ใช่ความสมานฉันท์ ปรองดองอย่างที่ทุกคนทุกฝ่ายคาดหวังตามที่ผู้มีอำนาจบาตรใหญ่พร่ำบอกกรอกหูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
แต่มันอาจเป็นการเมืองที่เคลือบแฝงไว้ด้วยความรุนแรงในฉากหลัง พร้อมนำประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปเป็นตัวประกัน ตายเอาดาบหน้า เหลือไว้เพียงชื่อที่หยิบยกมาเอ่ยอ้างสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายตัวเองเท่านั้น!!
นักการเมืองที่มีทัศนคติที่อันตรายพร้อมที่จะเดินหมากเสี่ยงๆ ครั้งใหม่อีกกี่ครั้งก็ได้ ตราบใดที่ยังมีเล่ห์เพทุบายฉ้อฉลปล้นชาติ นำทรัพย์สมบัติมาบริหารจัดการบนเกมอำนาจได้อยู่เรื่อยไป...
ฉะนั้นประชาชนคนไทยควรหันลองมาคิดตรึกตรองดูสักทีหนึ่งว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นเพื่อใคร มันถูกควรแล้วจริงหรือ หากค้นพบแล้วว่ายังตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอยู่ ลองถอยฉากออกมาดูสักนิด เลิกเอาตัวเข้าไปคลุกวงใน วันนั้นอาจค้นพบสัจธรรมอะไรบางอย่าง...
การเมืองก้าวย่างนับจากนี้ไป น่าสนใจจับตาว่า พรรคเพื่อไทยที่แอบอิงพิงกระแสอยู่กับคนเสื้อแดง จะยึดโยงมวลชนที่หนุนหลังเป็นมหามิตร หรือเป็นเพียงหมากเบี้ยบนกระดาน ที่พร้อมจะสละได้ทุกเมื่อยามจำเป็น
ขวบปีนี้น่าจะเห็นปรากฏการณ์ที่เป็นคำตอบเรื่องเหล่านี้ เมื่อขุนพลตัวจริงเสียงจริง นักการเมืองอาชีพที่ติดล็อกพันธนาการอยู่ในบ้านเลขที่ 111 จะกลับมาผงาดง้ำชูคอ เป็นนักการเมืองระดับซือแป๋มากเล่ห์เหลี่ยมของประเทศไทยอีกครั้ง
พวกเสียงดังตังค์เยอะจะกลับมามีบทบาท มีเวทีให้เล่นอย่างเต็มตัว ถึงชั่วโมงนั้นจะพิสูจน์ได้ว่ามวลชนคนเสื้อแดงที่อุ้มชูเกื้อกูลกันมา จะมีค่า เหลือราคาแค่ไหน เมื่ออำนาจกลับคืนเจ้าของหน้าเดิมจนตึงมือ
ไม่แน่ว่า การต่อสู้อย่างรุนแรงระหว่างทางของคนเสื้อแดง อาจเป็นเพียงรอยด่างดำในอดีต ที่นักการเมืองอาชีพหลายคนมองไม่เห็นคุณค่า ซ้ำยังมองว่าเป็นความผิดพลาดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ พยายามลบเลือนให้หายไปจากความทรงจำของคนไทย...
แต่ทว่า มันอาจเป็นผลร้าย ที่ทำให้ไฟในใจของมวลชนที่ร่วมต่อสู้กันยาวนานมาคุโชนด้วยแรงแค้น แล้วนั่นก็เป็นคำตอบที่ล้อสถานการณ์ปัจจุบันว่า
สนิมอะไรก็ไม่ร้ายแรงเท่าสนิมเนื้อใน ที่บ่อนเซาะกัดกร่อนอย่างร้ายกาจ!!