อนุกรรมการฝ่ายวินิจฉัย ป.ป.ช. เล็งเอาผิดอาญา ม.157 “รัฐบาลปู” ดันทุรังทำโครงการรับจำนำข้าวเปิดช่องทุจริต ทั้งที่ ป.ป.ช.เตือนไปแล้ว โดยใช้งานวิจัยที่มีหลักฐานอ้างอิงเสนอเป็นข้อมูลให้พิจารณา
รศ.ดร.สิริลักษณ์ คอมันตร์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)และอนุกรรมการฝ่ายวิจัย ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิเสธที่จะยกเลิกนโยบายจำนำข้าวทั้งที่ ทาง ป.ป.ช.ได้เสนอความเห็นก่อนที่จะมีการประกาศนโยบายดังกล่าวว่าจะเป็นช่องทางในการทุจริต ซึ่งจะสร้างความเสียหายกับภาครัฐจำนวนมากว่า ถือเป็นตัวอย่างที่ทำให้ ป.ป.ช.กำลังพิจารณาว่าการที่รัฐบาลไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอเพื่อปิดช่องการทุจริตในการกำหนดนโยบายตามข้อเสนอของป.ป.ช.จะถือว่าเข้าข่ายทำผิดกฏหมายอาญา ม.157 หรือไม่ เพราะถือว่าประพฤติโดยมิชอบ เนื่องจากคิดว่าผลงานวิจัยต่างๆ ของ ป.ป.ช.มีหลักฐานอ้างอิงที่ยืนยันได้ ในการป้องปรามการทุจริตตั้งแต่ต้นทาง เพื่อให้มีการกำหนดมมารตรการและนโยบายของรัฐบาลให้เกิดความโปร่งใสไม่เปิดช่องให้มีการทุจริต
โดย ป.ป.ช.กำลังพิจารณาว่าโครงการที่ถูกทักท้วงจาก ป.ป.ช.ว่าจะเป็นช่องทางในการทุจริตและเกิดการทุจริตขึ้นจริง ครม.จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการเดินหน้านโยบายดังกล่าวหรือไม่ โดยกำลังพิจารณา ม.157 ของกฎหมายอาญาว่าความรับผิดชอบจะอยู่ในระดับไหน
“เราเสนอเรื่องจำนำข้าวว่า รัฐบาลนี้ไม่ฟังคำท้วงติงของ ป.ป.ช. ทั้งที่เรายืนยันนโยบายว่าเกิดการทุจริตหลายขั้นตอน จึงน่าจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการโดย ป.ป.ช.เคยเสนอไปที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในเรื่องการประกันความเสี่ยงเพื่อให้เกษตรกร ชาวนาได้รับค่าชดเชย ซึ่งรัฐบาลในขณะนั้นก็รับฟังและไม่ได้ใช้นโยบายจำนำข้าว โดยเปลี่ยนมาใช้การประกันรายได้แทน แต่รัฐบาลนี้กลับหันไปใช้นโยบายจำนำข้าวอีก ก็เท่ากับการทำงานของ ป.ป.ช.ไม่ได้ผล ซึ่งเรากำลังพิจารณาคำนิยามของการประพฤติมิชอบเพราะเมื่อมีงานวิจัยที่ชัดเจน มีการเสนอมาตรการที่ป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตแต่รัฐบาลบไม่รับข้อเสนอของ ป.ป.ช.และก่อให้เกิดความเสียหายจริงๆ มีการทุจริตขึ้น อย่างนี้จะนิยามว่าเป็นการประพฤติผิดต่อหน้าที่หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่ ป.ป.ช.กำลังถกกัน แม้จะไม่ตกผลึกแต่เราก็เห็นตรงกันว่า งานวิจัยที่ ป.ป.ช.ทำมาไม่ได้ทำมาเพื่อให้เชิญให้หิ้ง แต่ต้องการให้มีผลในทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นได้จริง” ร.ส.ดร.สิริลักษณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.เคยเสนอให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายรับจำนำราคาข้าว เนื่องจากเป็นนโยบายที่เปิดชอ่งทางให้เกิดการทุจริต จนทำให้เกิดความเสียหายต่อภาครัฐนับแสนล้านบาทในแต่ละปี แต่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อเสนอของ ป.ป.ช. โดยอ้างว่าจะมีการปรังปรุงวิธีการและปิดช่องโหว่ที่ ป.ป.ช.แสดงความกังวลว่าจะเกิดการทุจริต แต่หลังจากที่มีการดำเนินนโยบายก็พบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในทุกขั้นตอน ซึ่งในขณะนี้เริ่มมีการร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.หลายกรณีแล้ว ซึ่งล่าสุดกรมสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการรับจำนำข้าวในเขตจังหวัดภาคกลางตอนบนและภาคเหนือตอนล่าง หลังจากรับการร้องเรียนว่าเกษตรกร ชาวนาถูกโรงสีและผู้รับจำนำข้าวเอาเปรียบและมีกรณีการสวมสิทธิของเกษตรกรโดยเอาข้าวนอกพื้นที่เข้ามาจำนำด้วย