“เลขาฯ ปชป.” จวก รบ.หาทุกช่องถลุงเงินสะสมกองทุนต่างๆ แนะสังคมจับตา “รมว.พลังงาน” หลังออกคูปอง 2 พันแค่ออเดิร์ฟ แฉเตรียมฟื้นโครงการแผงโซลาร์เซลล์สมัย รบ. “ทักษิณ” หวังซื้อชาวบ้านด้วยเงินอนาคตของประเทศ ซัดดีแต่ใช้ปากแก้ปัญหาไปวันๆ ทำค่าครองชีพสูงขึ้น เข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพงของจริง
วันนี้ 10 ม.ค. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพลังงานออกคูปองส่วนลด 2 พันบาท ใช้ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยใช้งบประมาณจากเงินสะสมของกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งหลายฝ่ายตำหนิว่าส่อไปในทางทุจริตและผิดวัตถุประสงค์ว่า ขณะนี้รัฐบาลพยายามทำทุกทางเพื่อหาทางใช้เงินที่สะสมอยู่ในกองทุนต่างๆ ที่รัฐบาลในอดีตสะสมไว้ อย่างกองทุนอนุรักษ์พลังงานที่มีการใช้เงินในส่วนนี้เบิกในรูปคูปองซื้อของโดยได้ส่วนลด หากจะเทียบก็เป็นแค่ออเดิร์ฟ ขอให้สังคมจับตาดูว่า รมว.พลังงานจะหาทางใช้เงินในกองทุนดังกล่าวเพิ่มอีก เพราะยังมีเงินเหลืออยู่นับหมื่นล้านบาท คือ การจัดทำโครงการไฟฟ้าโซล่าเซลล์ ซึ่งรัฐบาลในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยมีการใช้งบประมาณในกองทุนนี้ทำโครงการเช่นนี้มาแล้ว โดยไปสร้างโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ขาดแคลนไฟฟ้าจริง แต่ไม่มีการบำรุงรักษาและตัวเก็บแบ็ตเตอร์รี่พลังงานเสื่อมสภาพ ใช้ได้ไม่นานก็หมดสภาพ ตนรู้มาว่าวันนี้กระทรวงพลังงานเตรียมที่จะผลักดันโครงการไฟฟ้าโซล่าเซลล์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยคนกลุ่มเดิมในเครือข่ายพรรคเพื่อไทยที่เคยทำโครงการนี้ จึงไม่เข้าใจว่ารัฐบาลนี้แทนที่จะฟื้นฟู สร้างความมั่นใจหลังภัยพิบัติน้ำท่วมแต่กลับคิดหาทางใช้เงินสะสม แม้รัฐบาลจะอยู่ในสภาพไม่ต่างจากคนถังแตก ต้องออกกฏหมายให้หลายหน่วยงานกู้หนี้ โอนหนี้เพื่อขอกู้ใหม่ แต่ก็จงใจที่จะใช้เงินซื้อชาวบ้าน ด้วยการใช้เงินอนาคตของประเทศ โดยไม่สมเหตุผล ที่สุดก็จะเป็นการเพิ่มภาระหนี้สินให้ประเทศ
“หากจะเปรียบกับคำพูดที่คนพรรคเพื่อไทยระบุว่า การปฏิวัติเป็นผลไม้พิษที่จากต้นไม้พิษ แต่พฤติกรรมของคนพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลทำกันในวันนี้ก็ร้ายแรงยิ่งกว่า ทั้งการผลักดันแก้รัฐธรรมนูญ การออก พ.ร.ก.การเงิน การโยกย้ายข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ เหมือนมาแก้แค้นไม่ใช่แก้ไข การใช้ปากทำงานไม่ใช่การลงมือแก้ไขปัญหา ออกพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณหรือล่าสุดคือ การเพิ่มราคาก๊าซเอ็นจีวี ล้มเหลวในการแก้ไขสินค้าเกษตรอย่างยางพารา ล้วนเป็นการปลูกต้นไม้พิษที่วันข้างหน้าจะผลิตดอกออกผลที่เป็นพิษใส่ตัวเองทั้งสิ้น เพราะรัฐบาลนี้เหลิงอำนาจ หลงตัวเองว่าได้รับการเลือกตั้งมาจากคน 15 ล้านเสียง จนมองข้ามปัญหาของคนในสังคม มัวแต่มุ่งแก้ปัญหาส่วนตัวของนายใหญ่และพวกพ้อง ทุกอย่างที่เขาทำเหมือนการซ้ำเติมชาวบ้าน ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น
ที่สุดก็หนีไม่พ้นการรีดภาษีกับคนทำงาน ชนชั้นกลางเพราะรายได้ทางเดียวของรัฐบาลนอกจากการกู้คือการเก็บภาษี จึงเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพงของจริง ที่วันนี้ทุกอย่างขึ้นราคาหมดแล้ว แต่รายรับของคนทำงานเท่าเดิม รัฐบาลเองก็ไม่มีน้ำยาแก้ไข ทำได้เพียงใช้ปากแก้ปัญหาไปวันๆ เท่านั้น” นายเฉลิมชัยกล่าว