xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ สั่งจัดงานเลี้ยงกลุ่มช่วยน้ำท่วม โยน มท.1 เคลียร์งบ กทม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รองโฆษกรัฐ เผย “ยิ่งลักษณ์” สั่งจัดงานประกาศเกียรติคุณ เลี้ยงกองทัพ สตช. จิตอาสาช่วยแก้น้ำท่วม ถ่ายสดด้วย พร้อมเร่งเก็บบิ๊กแบ็กอย่าให้ขวางหูขวางตาก่อน 17 ม.ค. โบ้ย “ยงยุทธ” เคลียร์งบเยียวยา กทม. ขณะที่ ครม.เห็นชอบ ตาม กห.ทำเอ็มโอยูร่วมอินเดีย

วันนี้ (10 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุม ครม.ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลโดยศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ได้ทำงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมมาตลอด โดยรัฐบาลจะมีการจัดงานประกาศกิตติคุณและงานเลี้ยงขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยจะเชิญกองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จิตอาสา หน่วยงานต่างๆ และสื่อมวลชนมาร่วมงาน ซึ่งงานดังกล่าวจะจัดขึ้นภายหลังปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้มีสถานการณ์ที่ดีขึ้นแล้ว โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านรายการของรัฐ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวในที่ประชุมว่าไม่ต้องการเห็นกระสอบทรายยักษ์ หรือบิ๊กแบ็กวางอยู่ตามถนน จึงขอให้ทุกหน่วยงานไปเก็บกระสอบทรายยักษ์ออกให้หมดภายในวันที่ 17 ม.ค.นี้ ซึ่งถ้ายังไม่เก็บจะให้กรมทางหลวงเป็นผู้ดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ขอแสดงความคิดในที่ประชุมว่า นายกรัฐมนตรีมีความกังวลใจกรณีที่ กทม.ออกมาโจมตีว่ารัฐบาลไม่จัดงบประมาณในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยให้กับ กทม. ซึ่งพอนายอำพนพูดเรื่องนี้ทำให้นายกรัฐมนตรีมีสีหน้าที่เคร่งเครียดขึ้น พร้อมได้มอบหมายให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปทำความเข้าใจกับ กทม. ซึ่งหาก กทม.ยังติดใจอยู่ก็ให้ไปดูตัวเลขในสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และสำนักงบประมาณ ว่ามีตัวเลขงบประมาณของกทม.แน่นอน

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังแถลงว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมได้มีความประสงค์ขอจัดทำบันทึกความร่วมมือ ทางทหารระหว่างรัฐบาลไทยกับ รัฐบาลอินเดีย เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาอันดีทางทหารต่อกัน ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับความร่วมมือทางด้านความมั่นคง และเสริมสร้างคาวมสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพทั้ง 2 ประเทศ

นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า โดยกรอบความร่วมมือที่ครม.อนุมัติให้กระทรวงกลาโหมไปทำนั้นจะอยู่ในบันทึกความเข้าใจ ซึ่งะรวมถึงการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ การเยือน การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การสนทนา การจัดสัมมนา และการประชุมร่วมกัน การแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในเชิงพาณิชย์ การเข้าร่วมในการฝึก การศึกษา และการเข้าร่วมกับอีกฝ่ายหนึ่ง การวิจัยและการพัฒนาระหว่างกองทัพไทยและอินเดียกับการลาดตระเวนแบบประสานการปฏิบัติภารกิจ และรูปแบบของความร่วมมือด้านอื่นๆ ซึ่งเห็นพ้องต้องกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น