“ยิ่งลักษณ์” กำชับคมนาคม สร้างความเป็นธรรมให้ผู้ค้าจตุจักร

“ปู” กำชับคมนาคม เร่งบูรณะซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน เส้นทางสัญจรหลังน้ำลด อีกทั้งได้เร่งรัดโครงการรถไฟฟ้า 10 สายทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้สามารถก่อสร้างได้ครบภายใน 4 ปี พร้อมกำชับให้ดูแลผู้ค้าในภายตลาดนัดจตุจักรให้เกิดความเป็นธรรม

วันนี้ (9 ม.ค.) ที่กระทรวงคมนาคม ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกระทรวงคมนาคม เพื่อมอบนโยบายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้นำไปปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน โดยมี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณกระทรวงคมนาคมที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์อุทกภัยให้สามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการฟื้นฟูและได้มีการอนุมัติงบประมาณต่างๆ ไปแล้ว จึงขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการกระจายงานลงไปในแต่ละพื้นที่ให้มีความชัดเจน อาทิ การบูรณะซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน เส้นทางคมนาคม การขุดลอกคูคลอง ฯลฯ ซึ่งหากสามารถจ้างแรงงานในท้องถิ่นได้ก็ขอให้ดำเนินการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ขอให้มีการดูแลเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการต่างๆ ให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมด้วย พร้อมกำชับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมดูแลผู้ค้าภายในตลาดนัดจตุจักรให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยขอให้พิจารณาการทำสัญญากับผู้ค้ารายเดิมของตลาดนัดจตุจักรก่อนเป็นลำดับแรก เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินการต่อไป

ภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจเยี่ยมกระทรวงคมนาคมของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบาย และเสนอแนะแนวทางให้แก่กระทรวงคมนาคม ในเรื่องของนโยบายโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาระบบรางเพื่อขนส่งมวลชน และการบริหารจัดการระบบขนส่งสินค้าและบริการ โดยเน้นย้ำเรื่องของการลดต้นทุนการขนส่งทั้งในเรื่องการกำกับดูแลอัตรา ค่าบริการการขนส่ง และการเดินทางที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และกลุ่มผู้ได้รับประโยชน์ เช่น การขนส่งสินค้าหรือค่าโดยสาร ทั้งนี้ จะต้องมีการเปรียบเทียบการดำเนินการดังกล่าวให้สอดคล้องกับประเทศ เพื่อนบ้าน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้มีการเร่งรัดโครงการรถไฟฟ้า 10 สายทางในกรุงเทพฯและปริมณฑล ให้สามารถก่อสร้างได้ครบภายใน 4 ปี ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยเก็บค่าบริการ 20 บาทตลอดสายทั้งระบบ รวมทั้งพัฒนาระบบตั๋วร่วมบัตรเดียว ซึ่งคาดว่า ระบบตั๋วร่วมบัตรเดียวจะเสร็จเรียบร้อยประมาณภายในปี 2557 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเก็บค่าบริการ 20 บาทตลอดสายได้ภายในปี 2558 พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้มีการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมและการบริหารจัดการขนส่งผู้โดยสาร สินค้าตลอดจนบริการที่สะดวกและปลอดภัยทั้งในพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศ

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา กรุงเทพฯ-หัวหิน เพื่อเตรียมการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านนั้น กระทรวงคมนาคม ได้มีการดำเนินการเชื่อมต่อทางรถไฟสายแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และรถไฟฟ้า 10 สายทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำการพัฒนาการขนส่งทางน้ำให้พิจารณาถึงความสำคัญในเรื่องของการเชื่อมต่อในระบบการขนส่งทางบกเพื่อรองรับการให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ส่วนการจัดซื้อรถโดยสาร NGV นั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปศึกษารายละเอียดถึงความคุ้มค่าในการดำเนินการดังกล่าวก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ให้แนวทางเกี่ยวกับกรณีที่กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะเข้ามาบริหารตลาดนัดจตุจักร โดยเน้นย้ำให้คำนึงถึงผู้ค้ารายเดิมซึ่งเป็นผู้ค้าโดยตรงจะต้องให้ทำสัญญากับ ร.ฟ.ท.ก่อนลำดับแรก

ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวยืนยันว่า แนวทางทั้งหมดที่เกี่ยวกับนโยบายโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาระบบรางเพื่อการขนส่งมวลชน และการบริหารจัดการระบบขนส่งสินค้าและบริการ ซึ่งรัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภานั้น ทางกระทรวงคมนาคมได้มีแผนการดำเนินการอย่างเป็นระบบชัดเจนแล้วก่อนดำเนินการตามแผนที่ได้กำหนดไว้ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จตามแผน หรือเร็วกว่าที่กำหนดไว้ในบางโครงการ