xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ข้องใจรัฐบาลเร่งกู้ทั้งที่ยังไม่มีแผน จี้เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” ชี้ การจัดงบประมาณ 2555 ของรัฐบาลควรเร่งโครงการที่จำเป็นก่อน ทั้งการฟื้นฟูเยี่ยวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม และ เอสเอ็มอี ข้องใจเร่งกู้ทั้งที่ยังไม่มีแผน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงข้อสังเกตในการพิจารณาร่างงบประมาณประจำปี พ.ศ.2555 ว่า การปรับลดงบประมาณที่มีการจัดสรรใหม่ ยังไม่ได้ตอบโจทย์ฟื้นฟูแก้ไขน้ำท่วม โดยเฉพาะ 1.การที่รัฐบาลมีแนวโน้มที่ว่าอะไรที่เป็นเรื่องของการฟื้นฟูจะไปหาเงินจากแหล่งอื่น ทั้งที่ความเป็นจริงการปรับลดงบประมาณในส่วนของนโยบายที่ยังไม่มีความเร่งด่วนสามารถทำได้แต่ไม่มีการปรับลดอย่างจริงจัง

2.ข้อสังเกตที่ต้องดูต่อไปว่างบประมาณสอดคล้องกับนโยบายในกระทรวงต่างๆ อย่างไร ทั้งนี้ถ้าดูตามสภาพจริงจะพบว่าความพร้อมในเรื่องของโครงการที่จะต้องใช้เงินยังไม่มี และยังไม่มีเหตุผลว่าเหตุใดรัฐบาลต้องหาเงินมหาศาล โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เวลา 3-5 ปี เป็นอย่างน้อย ซึ่งอ้างว่าจะต้องมีการใช้เงินลงทุน แต่กลับใช้วิธีเร่งกู้เงินและปล่อยสภาพบริหารการเงินการคลังไปตามปกติ ทั้งที่ยังมีส่วนที่สามารถปรับลดได้ดักออก พ.ร.ก.กู้เงิน อาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ เชื่อทำโครงสร้างพื้นฐานไม่ทันปี 55

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า เป็นการลงทุนเพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถึงจะมีการสร้างก็คงไม่เร็ว เพราะแต่ละโครงการมีขั้นตอนของมัน และการใช้จ่ายเงินไม่จำเป็นต้องใช้ทันทีในงบปีนี้ และเมื่อเราเห็นการอนุมัติงบซ่อมแซมบางรายการก็ยังบอกจะใช้ในปีงบประมาณ56 ซึ่งจะส่งผลกระทบคือเราจะทำให้การก่อหนี้ เกินความจำเป็น เกิดการใช้จ่ายงบที่ไม่ระมัดระวัง และหากจะออกเป็น พ.ร.ก.การกู้เงิน ก็จะมีคำถามถึงข้อกฎหมายว่าจำเป็นหรือไม่ และพรรคประชาธิปัตย์จะดูรายละเอียดว่าข้อเสนอเป็นอย่างไร ถ้าขัดกับเงื่อนไขรัฐธรรมนูญก็ต้องมีการส่งเรื่องให้ตีความ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการลงทุนเพื่อทำโครงการเมกะโปรเจกต์ จะส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อะไรจำเป็นทำก็ต้องทำ แต่จะให้คิดให้สิ่งนี้มากระตุ้นเศรษฐกิจเลยไม่ได้ สิ่งที่ประชาชนต้องการมากกว่าคือการได้รับโอกาสฟื้นฟูทั้งการดูแลอาชีพ เศรษฐกิจ ผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม แต่รัฐบาลกลับยังไม่มีมาตรการชัดเจน และยังซ้ำเติม ที่ปล่อยให้ค่าครองชีพ อาทิ ค่าไฟ ค่าแก๊ส สูงขึ้น ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนได้

ส่วนที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจต้องดำเนินการบริหารหนี้จากกองทุนฟื้นฟูฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้นแล้ว แต่ถ้า ธปท.และกระทรวงการคลัง พยายามมองหาช่องทาง ว่า ในแต่ละปีจะมีทางนำเงินกำไรในแต่ละปีไปใช้หนี้เร็วได้อย่างไร น่าจะเหมาะที่สุด เพราะสิ่งนี้จะทำให้กติกาเดิมจะคงไว้ได้ อีกทั้งถ้า ธปท.ใช้หนี้ได้เร็วภาระดอกเบี้ยที่ตกกับรัฐบาลจะลดลงเมื่อถามว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจตอนนี้ มีสัญญาณความคล้ายคลึงกับวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังมาไม่ถึงขนาดนั้น แต่ตนไม่สนับสนุนให้รัฐบาลหย่อนวินัยการคลังและปล่อยภาระให้เป็นเรื่องของอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น