xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” อวยพรปีใหม่ ขอฝันร้ายผ่านพ้น ย้ำสร้างปรองดองคืนความสุข

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
“ยิ่งลักษณ์” ย้ำหวังสร้างความปรองดองให้เกิดในชาติ ควบคู่ประชาธิปไตย เผยแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจปี 55 เน้นกินดีอยู่ดี เดินหน้าโครงการที่เคยหาเสียงไว้ อวยพรให้ประชาชนผ่านปีแห่งฝันร้าย ก้าวสู่ปีแห่งรอยยิ้ม ยอมรับพูดผิดบ่อย เพราะทำเร็วคิดเร็ว และทำงานหนัก ขอปรับปรุงแก้ไข


วันนี้ (31 ธ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 31 ธ.ค.ส่งท้ายปี 2554 ว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งนายกฯ ชีวิตเปลี่ยนแปลง มีภารกิจมากขึ้น ต้องลดเวลาส่วนตัว ครอบครัว มาทำงานส่วนรวม แต่ก็มีความสุข แต่รู้สึกว่าเวลา 4 เดือนเร็วมาก ต้องเร่งทำงานเพราะประชาชนเจอภาวะเศรษฐกิจ และน้ำท่วม จึงต้องกอบกู้เวลาและปรับตัวเอง ผลงานให้ตรงกับความคาดหวังของประชาชน ซึ่งยากจริงๆ และเหนื่อยมาก

ส่วนนโยบายรัฐบาลที่ได้มีการเปิดตัวไปแม้จะมีสถานการณ์น้ำท่วม นโยบายเร่งด่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนำข้าว รถคันแรก บ้านหลังแรก ต้องการดูแลประชาชน และจะทำให้อุตสาหกรรมต่างสอดคล้องกัน และยังมีเรื่องเงินเดือน 1.5 หมื่นสำหรับข้าราชการผู้ที่จบปริญญาตรี ส่วนค่าแรง 300 บาทนั้น เห็นพ้องกันเรื่องค่าแรงขั้นต่ำโดยจะขยับไปวันที่ 1 เม.ย. รวมถึงเรื่องบัตรเครดิตพลังงาน ที่ต้องขยายต่อไป ซึ่งช่วง 4 เดือนที่ผ่านมายังไม่พอใจ

นายกฯ กล่าวอีกว่า หากมีเวลาอยากให้มีมากกว่า 24 ชม.แต่ร่างกายรับไม่ไหว สำหรับนโยบายต่างๆนั้น อาจจะยังไม่สมบูรณ์ หากไม่มีสถานการณ์เรื่องน้ำประชาชนก็มีความสุข แต่บางส่วนยอมรับเรื่องการสื่อสารยังไม่ทั่วถึงทำให้มองในมุมที่รัฐบาลตั้งใจไม่ครบ
ทั้งนี้ เรื่องของน้ำเรามีนโยบายเชื่อม 25 ลุ่มน้ำ แต่ไม่คิดว่าอุทกภัยจะมาเร็วและแรงขนาดนี้ แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ต้องทำและเลื่อนให้เร็วขึ้น เช่น การพักหนี้เกษตรกร SML เพื่อให้มีเงินลงในชุมชน และต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากแผนที่เตรียมใช้จ่ายงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจมาเป็นการบริหารจัดการน้ำ

ส่วนโครงการอื่นๆ ก็ยังเดินหน้าทำ เชื่อมั่นว่าแต่ละกระทรวงก็มีทีมงานโดยแบ่งงานกันทำดูแลแก้ไขปัญหาอุทกภัย อีกส่วนที่คิดนโยบายก็ยังทำต่อ แต่สื่ออาจจะให้ความสนใจเรื่องน้ำ ทั้งนี้ได้มีการปรับในส่วนของรถคันแรกที่มีปัญหาเรื่องไฟแนนซ์ ก็สามารถเปลี่ยนมือได้จากเดิมที่ถือครอง 5 ปี ก็จะทำให้ได้รับประโยชน์มากขึ้น และยังมีมาตรการภาษี SML กองทุนหมู่บ้าน ที่ลงไปยังแต่ละชุมชน

สำหรับเรื่องงบประมาณนั้น จะใช้ได้เต็มรูปแบบในเดือน ก.พ. แต่ช่วงนี้ก็สามารถใช้ได้บางส่วนของที่ตั้งไว้ 4.7 หมื่นล้านเพื่อใช้ในการฟื้นฟู 4.7 หมื่นล้าน หากส่วนใดต้องอาศัยขั้นตอนการทำก็จะรอเมื่องบฯมา แต่เรื่องเร่งด่วนในส่วนการเยียวยา ดูแลเกษตรกรประชาชนก็จะทำก่อน แต่หากงบผ่านสภาก็จะใช้ได้ 1.2 แสนล้าน

ส่วนที่ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร พูดถึงนั้นจะเป็นงบฯ บริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ซึ่งอาจจะมีโครงการตั้งแต่ 1-3 ปี และยืนยันว่าแผนภาพใหญ่จะเห็นชัดว่าทำอะไรบ้าง เช่น แนวฟลัดเวย์ แต่ต้องใช้เวลาในการสำรวจแต่ละจังหวัด โดยจะแถลงให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ รวมถึงแผนต่างๆในการดูแลธุรกิจ SME ด้วย

สำหรับปัญหายาเสพติดถือเป็นวาระแห่งชาติที่ดูแลติดตามไปเรื่อย ซึ่งเรื่องนี้มีคณะกรรมการ และบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้เรื่องสุขภาพประชาชนก็เป็นสิ่งสำคัญ จึงได้ประชุมและมอบนโยบายให้กับ สสส.ว่า ในการดูแลสุขภาพแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ เด็กตั้งแต่ในครรภ์มารดา กลุ่มวัยรุ่นถึงวัยทำงาน กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยการทำงานจะบูรณาการร่วมกับกระทรวงต่างๆ

ด้านการศึกษา โดยเฉพาะการแจกแท็ปเล็ตนั้น ได้มีการแบ่งเครื่องที่จะต้องสัมพันธ์กับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่โรงเรียน โดยได้รับตัวอย่างจากประเทศจีน แต่เครื่องไม่สำคัญเท่ากับเนื้อหาที่จะให้เยาวชน ป.1 ที่ผู้ปกครองอาจจะเป็นห่วงว่าเด็กจะนำไปเล่นเกมนั้น ซึ่งได้ให้แนวทางคณะกรรมการว่า แท็ปเล็ตเป็นส่วนเสริมการพัฒนาทักษะการศึกษา เพราะเทคโนโลยีต่างๆ หากให้เริ่มคุ้นเคยตั้งเด็กจะเรียนรู้ได้เร็ว ซึ่งระบบจะเชื่อมกับส่วนกลางจะรู้ได้ว่าเด็กมีพัฒนาการอย่างไร

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการทำวิจัยแล้วพันเครื่องและส่งไปทดลองในโรงเรียนต่างๆ และได้ฝากข้อคิดกับทีมพัฒนาคอนเทนท์ว่าเนื้อหาทำอย่างไรที่จะล็อกไม่ให้โหลดเล่นเกม อย่างไรก็ตาม อยากบอกว่าอย่างมงายกับเทคโนโลยี และติดเทคโนโลยีจนลืมเอกลักษณ์ของไทย ที่ตนให้ความสนใจ เพราะเมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปจะปฏิเสธไม่ได้ในการเรียนรู้ ต้องนำเทคโนโลยีใช้ในการค้นคว้าเสริมความรู้ให้เรียนรู้ได้อย่างไร้ขอบเขต แต่ต้องมีข้อระวังในการเลือกใช้ค้นคว้าอย่างถูกวิธี

สำหรับกองทุนพัฒนาสตรีนั้น ยังอยู่ในช่วงเตรียมการพัฒนากลไก โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.การกดขี่ทางเพศ ทำอย่างไรที่จะคุ้มครองให้ปลอดภัยไม่ถูกล่วงละเมิด 2.กลุ่มที่มีความพร้อมอยู่แล้ว เช่น กลุ่มแม่บ้านต่างๆ ที่ทำอย่างไรที่จะให้มีความรู้ยกระดับขึ้น และ 3.กลุ่มที่มีความพร้อมก้าวสู่เวทีประเทศ ระดับโลก หรือช่วยเหลือสังคม โดยจะเน้นการมีส่วนร่วมของสตรีทั้งหมด

นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวอีกว่า ขณะที่การปรองดองนั้น หลักของการปรองดองคือทำอย่างไรที่จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ให้ความเสมอภาคกับทุกคน และเป็นไปตามกฎนิติรัฐภายใต้ความยุติธรรม เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ หากปรองดองเพื่อส่วนใดส่วนหนึ่งก็ไม่เกิดบรรยากาศนี้ แต่วิธีการต้องมาร่วมกันคุยและหาแนวทางร่วมกัน ซึ่งการปรองดองต้องควบคู่กับประชาธิปไตย โดยให้ทุกภาคส่วนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ และนำเข้าสภาที่มีตัวแทนจากประชาชนอยู่ จุดมุ่งหมายคงไม่มีใครปฏิเสธอยากเห็นความปรองดอง แต่วิธีการต้องมาจากตัวแทนประชาชนที่จะมาพูดกันถึงวิธีการ และเมื่อไหร่ที่จะเป็นเวลาที่เหมาะสม ส่วนภาคใต้นั้น ตนก็อยากเห็นความสงบสันติ แต่ไม่ควรผูกกันจนทำงานไม่ได้ ซึ่งการแก้ปัญหาต้องทำความเข้าใจในปัญหาพื้่นที่ก่อน และมาแก้ที่ต้นทางว่าทำอย่างไรที่จะลดความรุนแรง ขณะเดียวกันก็ต้องเสริมสร้างเศรษฐกิจ ความเข้าใจ รวมถึงเรื่องศาสนา และยินดีที่จะลงไปพบกับพี่น้องประชาชนภาคใต้อีก

สำหรับด้านการต่างประเทศนั้น ประเทศไทยก็ได้รับการตอบรับและคาดหวังในส่วนหลายๆประเทศในการเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียน และภัยธรรมชาติก็กลายเป็นวาระอาเซียนไปแล้ว ไม่ใช่เฉพาะเวทีประเทศไทยเท่านั้น เพราะหลายๆ ประเทศก็ประสบปัญหาเช่นกัน จึงถือเป็นวาระอาเซียนที่จะต้องหารือร่วมกัน และนอกจากอาเซียนแล้วจะไปพบกับประเทศคู่ค้าเพื่อให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน รวมถึงส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว นอกจากนี้ในการพบกับรองประธานาธิบดีจีนนั้น ได้มีการหารือทวิภาคีร่วมกันในการวางแผนยุทธศาสตร์การค้า การเกษตร รวมถึงการเชื่อมการลงทุนพื้นฐานในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเดินทางไปอินเดีย ญุี่ปุ่น

นายกฯ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่ประทับใจที่สุดคือ วันที่ 5 ธันวาฯ ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้เห็นคนไทยมีรอยยิ้ม ได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน จากที่ได้เจอวิกฤติน้ำท่วมต่างๆ เมื่อถึงวันที่ 5 ธ.ค. ทำให้ลืมความทุกข์ทั้งหมด ถือเป็นความประทับใจที่สุดในชีวิต

สำหรับความคาดหวังปี 55 คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำลด ให้พี่น้องประชาชนกลับมามีรายได้สู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด โดยนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องทำต่อไป ส่วนข้อด้อยของตน หลายท่านอาจวิพากษ์วิจารณ์ว่าตนพูดจาไม่ถูกบ้าง อะไรบ้าง ต้องเรียนว่าเราเกิดมาจากคนที่ทำงาน เราเน้นการทำงานค่อนข้างเยอะ บางครั้งอาจจะได้ยินชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง หรือการพูดเร็วอาจจะเร็วก็พยายามปรับปรุง เพราะคิดเร็วกว่าพูด เน้นทำ ตนเป็นคนพูดไม่เก่ง แต่ตั้งใจทำงานเต็มร้อย อยากทำให้ดีที่สุด 4 เดือนเรียกว่าเป็นประสบการณ์ที่สำคัญยิ่งของชีวิต ที่ผ่านมา ตั้งแต่มารับตำแหน่งสอนอะไรเยอะ เรียนรู้อะไรเยอะ ปีหน้าตั้งเป้าต้องให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ตนเป็นคนคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น คารมคงไม่สละสลวย เพราะประชาชนเลือกตนมาทำงาน ไม่อยากเห็นการเล่นการเมือง เป็นนักการเมืองได้แต่ต้องทำงาน ซื่อสัตย์รับใช้ประชาชน

นอกจากนี้ นายกฯ ได้อวยพรปีใหม่ประชาชนว่า ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้รับตำแหน่งนายกฯ ถือเป็นความภาคภูมิใจของตน ตลอดปีที่ผ่านมาอาจเจอปัญหาต่างๆ มากมายทั้งเศรษฐกิจ ราคาสินค้า และภาวะวิกฤตน้ำท่วม จึงขอให้เป็นปีที่ฝันร้าย อุปสรรคผ่านพ้นไป ปีหน้าอยากเห็นเป็นปีรอยยิ้มของประเทศไทย ก้าวไปสู่ความปรองดอง ขออารธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประชาชนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ขอให้ช่วยกันให้ประเทศไทยก้าวสู่ความสำเร็จ เพื่อก้าวข้ามสิ่งต่างๆ พบแต่สิ่งที่ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น