xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ปากแข็ง ปัด “ทักษิณ” ประสานให้ได้พบ “ซูจี” ระหว่างไปพม่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
“ยิ่งลักษณ์” ปัดพี่ชายปูทางคุย “อองซานซูจี” ยันรัฐบาลดำเนินการเองทั้งหมด ภายใต้กฎหมาย-มติ ครม.ไทย อ้างไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนพวกพ้อง หลังพม่าเปิดสัมปทานเพิ่มให้ไทยอีก 2 แห่ง คงเจตนารมณ์เดิมอยากเห็นปรองดองในพม่า ขณะที่ “นช.แม้ว” ยอมรับเป็นผู้ประสานให้น้องสาวเอง



น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางไปประชุมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง GMS ครั้งที่ 4 ที่นครเนปีดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ว่า การหารือเกี่ยวกับด้านพลังงานถือว่ามีความคืบหน้ามาก โดยรายละเอียด รมว.พลังงานจะตั้งคณะทำงานมาศึกษารายละเอียด โดยเบื้องต้นจะศึกษาความร่วมมือพลังงานทางด้านก๊าซธรรมชาติ ขณะที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่าจะมีการขยายการซื้อพลังงานเพิ่มเติมด้วย โดยพม่าจะให้สัมปทานเพิ่มอีก 2 แห่ง

ส่วนการเดินทางต่อไปยังกรุงย่างกุ้ง เพื่อพบปะกับนางอองซานซูจี หัวหน้าพรรคเอ็นแอลดี ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงย่างกุ้ง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องของประชาธิปไตยนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องถือว่านางอองซานซูจีเป็นผู้มีอุดมการณ์ต่อสู้ทางด้านประชาธิปไตย ซึ่งเราได้พูดจาแลกเปลี่ยนกัน โดยหลักของนางอองซานซูจีที่ตัดสินใจลงเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปรองดอง ซึ่งตรงนี้นโยบายหรืออุดมการณ์ของพรรคเอ็นแอลดี หรือนางซูจีเป็นประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ดังนั้นจึงอยากเห็นความสัมพันธ์ระหว่างไทยและพม่าเป็นไปในทางที่ดี ทั้งระดับรัฐบาล และประชาชน ถือเป็นการแลกเปลี่ยนกัน และเห็นแนวทางเดียวกัน คือ ความเป็นประชาธิปไตยที่ดูแลห่วงใยความทุกข์สุขของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่

ส่วนที่รัฐบาลพม่าเปิดกว้างให้พบกับนางอองซานซูจี คิดว่ามีวัตถุประสงค์อะไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จริงๆ แล้ว ทางพม่ามีการพัฒนาไปเยอะในการเปิดประตูสู่ความเป็นประชาธิปไตย และจะเปิดให้มีการเลือกตั้งเร็วๆ นี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับกลุ่มประเทศอาเซียนที่มาพูดคุยกันเรื่องประชาธิปไตย และผลประโยชน์ความทุกข์สุขของประชาชนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยยังยึดหลักการเดิมที่จะสนับสนุนให้เกิดการปรองดองในพม่าใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า นางซูจีคงอยากเห็นอย่างนั้น และในส่วนของรัฐบาลเองก็เช่นกัน วันนี้การยอมรับประชาธิปไตยที่เป็นการยอมรับเสียงประชาชนเป็นสิ่งที่นานาประเทศให้การยอมรับในหลักสากล ซึ่งเชื่อว่าทุกประเทศในเอเชียคงจะหันเดินหน้าไปในรูปแบบนี้

เมื่อถามว่า คิดว่าพม่าจะเปิดกว้างเต็มที่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของทางรัฐบาล แค่โดยเจตนารมณ์เห็นว่ามีเจตนารมณ์ที่ดี ซึ่งเราต้องดูกันต่อไป เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การที่นายกฯ ได้พบกับนางอองซานซูจีเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณได้คุยปูทางไว้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวปฏิเสธว่า จริงๆ เป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปของท่าน และเราไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องนี้ ทุกอย่างที่ตนเองดำเนินการไปผ่านภายใต้ของรัฐบาลเอง โดยกระทรวงการต่างประเทศ การทำงานทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนของรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีคำถามเกิดขึ้นว่า เวลานายกฯ จะเดินทางไปประเทศไหน พ.ต.ท.ทักษิณมักจะเดินทางไปก่อน ตรงนี้ตั้งข้อสังเกตว่ามีการเจรจาอะไรเอาไว้ล่วงหน้าหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี และไม่มีประเด็นอะไรที่เกี่ยวกัน เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายค้านออกมาวิจารณ์จะส่งผลกระทบอะไรต่อรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วข้อเท็จจริงทุกท่านก็เห็น เราดำเนินการเจรจาต่างๆ ภายใต้กรอบโครง และการเจรจาต่างๆ ต้องมีขั้นตอน ในส่วนการทำงานของทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และต้องได้รับความเห็นชอบจากทางคณะรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าไปเจรจา ดังนั้นไม่มี ทุกอย่างทำอยู่ภายใต้เมืองไทย และภายใต้รัฐบาลนี้

ต่อข้อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณออกมาให้สัมภาษณ์อย่างนี้ คิดว่าจะส่งผลกระทบอะไรกับรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มี ต้องบอกว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีเราไม่ควรปิดกั้น แต่การตัดสินใจการทำงานทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐบาลที่ดำเนินการเองทั้งหมด เมื่อถามต่อว่า ยืนยันว่า ไม่มีผลประโยชน์ทางด้านพลังงานให้กับพวกพ้องตัวเอง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวยืนยันว่า ไม่มี ยืนยันได้ ตนเองไปในนามของรัฐบาล ไม่เคยไปเจรจาในเรื่องส่วนตัวเลย เมื่อถามว่า บทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับรัฐบาลบอกได้หรือไม่ เป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ท่านไปของท่าน ไม่เกี่ยวกัน รัฐบาลก็ทำงานของรัฐบาลไป

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากดูไบผ่านหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ยอมรับว่า ได้เดินทางเยือนพม่าเมื่อวันพฤหัสบดี (20 ธ.ค.) ที่ผ่านมาเพื่อเข้าพบกับประธานาธิบดี เต็งเส่ง และพล.อ.อาวุโส ตานฉ่วย อดีตประธานาธิบดีพม่า และได้ปูทางให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พบกับอองซานซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติ ราบรื่นขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น