“สุรพงษ์” ลั่นไม่ทำหนังสือประท้วงเขมรตามที่ ปชป.แนะ ชี้เขมรขอโทษแล้ว วอนอย่าจุดประเด็นจนเกิดความหมางใจกันอีก ยันปัญหาชายแดนจะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลก พร้อมอุ้มทูตไทยในเนปาลเสนอหน้าดูแล “แม้ว” ไม่ผิด
วันที่ 20 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่นครเนปีดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ในระหว่างการร่วมกับคณะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 4 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือประท้วงรัฐบาลกัมพูชา ต่อกรณีทหารกัมพูชายิงเฮลิคอปเตอร์ของไทยว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดที่สามารถพูดคุยกันได้ ซึ่งทางกัมพูชาก็ได้แสดงความเสียใจผ่านทาง พล.อ.ยุทธศักดิ์มาแล้ว ส่วนจะทำหนังสือประท้วงตามข้อเรียกร้องของประชาธิปัตย์ คงทำไม่ได้ เพราะวิธีคิดไม่เหมือนกัน แต่เราต้องหาทางพูดคุยกัน เราเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกัน ย่อมสามารถทำความเข้าใจกันได้อยู่แล้ว ในเมื่อทางกัมพูชาได้แสดงความเสียใจมาแล้วว่า เป็นเรื่องความผิดพลาดของการสื่อสาร ไม่ควรเอาเรื่องจนก่อให้เกิดความบาดหมางใจกันอีก
ส่วนกรณีที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ เอกอัคราชทูตไทยประจำกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ไปให้การดูแลตอนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งไปเยือนเนปาลว่า เป็นการให้เกียรติอดีตผู้นำเราจะไปว่าข้าราชการก็ไม่ได้ เขาเป็นคนกลางก็ต้องทำหน้าที่ของทูตไป ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าเอกอัครราชทูตทำเกินหน้าที่ เพราะไปดูแล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นผู้ต้องหาหนีคดีนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องดูแล คนทิ่คิดว่าเอกอักราชทูตทำเกินหน้าที่ตนเป็นพวกชอบคิดเอาเองตลอด
นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ยังได้กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศไม่คัดค้านกรณีที่กัมพูชาเชิญผู้เชียวชาญจากหลายประเทศและเจ้าหน้าที่ยูเนสโก รวมถึงฝ่ายไทยเดินทางขึ้นไปในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น นายสุรพงษ์กล่าวว่า เรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก และยืนยันว่าทางฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลกอย่างเคร่งคัด โดยศาลโลกก็ยังไม่มีคำตัดสินในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505 ฝ่ายไทยจึงไม่ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ขอยืนยันท่าทีเดิมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งมาตรการชั่วคราวของศาล โดยเห็นว่า 2 ประเทศควรหลีกเลี่ยงการขัดต่อคำสั่งของศาลโลก
“ผมขอให้เอาข้อมูลที่เป็นจริงที่ถูกต้องมาพูดกัน อย่ามาบิดเบือนข้อมูลเพราะจะทำให้สังคมบิดเบี้ยวประเทศชาติจะเสียหาย อย่ากล่าวหาว่ากระทรวงการต่างประเทศเห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว ขอให้คนที่ให้ข่าวอย่านำการเมืองมาทำให้บ้านประเทศเสียหาย จะให้กราบก็กราบขอให้ฝ่ายค้านหยุดเล่นการเมืองได้แล้ว เปลี่ยนนิสัยกันได้แล้ว เอานิสัยอย่างผมไปใช้บ้าง ที่เปลี่ยนกันแบบคนละคนจากเมื่อก่อน และควรเล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เพราะคนแก้ข่าวเหนื่อย” นายสุรพงษ์กล่าว