“บัญญัติ” เชื่อ “เพื่อแม้ว” ไม่หยุดเชลียร์เอาใจนายใหญ่ ก้าวต่อไปน่าจับตาแก้ รธน.ผ่าน กมธ.ปรองดอง มั่นใจตีปี๊บข่าวคดี “อากง” กดดันแก้ ม.112 สังคมไม่เอาด้วยแน่ คาดการเมืองปีหน้าดุ แก๊งแดงเริ่มแตกคอหลัง แดงล้มเจ้าไม่พอใจนายใหญ่จูบปากทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 20 ธ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้ขบวนการนิรโทษกรรมยังคงเดินหน้าต่อไปแม้ว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยจะยอมถอยจากการออก พ.ร.ฎ.นิรโทษกรรม แต่ตอนนี้ให้จับตาดูว่า การดำเนินการนิรโทษกรรมจะดำเนินการผ่านคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ (กมธ.ปรองดอง) ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยต้องใส่บทเสือถอยเพราะเปรียบเหมือนเจ้าของบ้านรู้ว่าเสือจะมาปล้น สุดท้ายเสือจึงต้องถอย เช่นเดียวกับแนวคิดการเปลี่ยนหลักเกณฑ์ พ.ร.ฎ.นิรโทษกรรม ที่กระแสสังคมไม่เอาด้วย และต่อจากนี้ต้องจับตาดูว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป
นายบัญญัติกล่าวอีกว่า ส่วนการแก้มาตรา112 ที่มาขยายประเด็นและมีการพยายามขยายวงกว้างมากขึ้นเช่น การตีปี๊บข่าวคดีอากง ว่าศาลลงโทษแรงเกินกว่าเหต ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงแล้วมีการส่งเอสเอ็มเอสถึง 4 ข้อความ เชื่อว่าหากเรื่องนี้ถ้ายังเดินหน้าต่อสังคมไม่เอาด้วยแน่
“ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญก็ต้องดูว่ามารูปไหน และในขณะนี้ขบวนการเสื้อแดงค่อนข้างน่าแปลก เพราะกลุ่มเสื้อแดงและเครือข่ายนายใหญ่ต่างไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ และเกิดความแตกแยกในหมู่เสื้อแดงกันเอง ไม่รู้ว่าเพื่อไทยหลอกใช้หรือคุมไม่อยู่ เพราะวันนี้นายใหญ่ไปจูบปากกับทหารแล้ว สร้างความไม่พอใจกับกลุ่มแดงกลุ่มล้มเจ้า หรือกลุ่มที่ออกอากาศอยู่ วันนี้กลุ่มนี้พยายามฉีกออกมาจากเพื่อไทยแต่ก็ยังแยกไม่ออก และเกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันแล้ว ก็ต้องมองว่า จะถูกตัดหางหรือคนเสื้อแดงไม่เอานายใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มแดงล้มเจ้าที่อาจจะถูกตัดหางปล่อยวัด ส่วนสถานการณ์ปีหน้าการเมืองจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมาดุเดือดมากขึ้น เลือดตกยางออกยังไม่ทราบ แต่เห็นหมอดูหลายคนฟันธงก็ต้องฟังหูไว้หู ให้ทำหน้าที่ตรวจสอบอย่าเข้มข้น เช่น กรณีการคืนพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ ปราสาทเขาพระวิหาร” นายบัญญัติ กล่าว