xs
xsm
sm
md
lg

“ยะใส” ซัดพวกล้มเจ้า ดึง “อากง” ปั่นกระแส เตือนกลุ่มหนุนแก้ ม.112 ระวังโดนหลอกใช้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (แฟ้มภาพ)
ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ชี้พวกวิพากษ์ ม.112 มีทั้งแก้ให้ทันสมัยหวังไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ กะพวกสักแต่วิจารณ์ เตือนกลุ่มหนุนแก้ระวังพวกล้มเจ้าหลอกใช้ ชี้กรณี “ดา ตอร์ปิโด” อาฆาตมาดร้ายชัด ยกมะกันก็มีกฎหมายป้องกันโอบามา เชื่อ พวกไม่เอาสถาบันหวังใช้อากงสร้างกระแสโจมตี ห่วงชนชั้นล่างหูตามัวจนลืมต่อสู้เพื่อสิทธิพื้นฐานตัวเอง

วันนี้ (15 ธ.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ตนเห็นว่า กระแสวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายอาญา ม.112 ในขณะนี้ ถ้าจำแนกดีๆ จะมี 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มเรียกร้องให้มีการปรับปรุงแก้ไขสาระของกฎหมายเพื่อให้ทันสมัย ไม่เป็นเครื่องมือผู้ไม่หวังดีและสามารถปกป้องสถาบันได้อย่างแท้จริง กลุ่มที่ 2 จะเป็นกลุ่มที่ต้องการให้ยกเลิก ม.112 ไปเลย ไม่จำเป็นต้องมี เพื่อให้การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันทำได้เท่าเทียมเหมือนการวิพากษ์วิจารณ์บุคคลทั่วไป ซึ่งในขณะนี้กลุ่มที่ 2 หรือกลุ่มที่มีเจตนาล้มเจ้า กำลังฉวยใช้กระแส และดึงแนวร่วมจากกลุ่มที่ 1 ซึ่งก็เป็นกลุ่มที่รักเจ้า เพียงแต่อาจเห็นว่ากฎหมาย ม. 112 ถูกใช้ในทางที่ผิดและแรงเกินไป ที่สำคัญ กลุ่มที่เห็นด้วยกับการแก้ไขก็ไม่ระมัดระวังหรือไม่จำแนกแยกแยะ จนกลายเป็นเครื่องมือให้กับกลุ่มล้มเจ้าโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น ในหมู่ศิลปินหรือคนมีชื่อเสียงในสังคมหลายคน

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า อย่างกรณี ดา ตอร์ปิโด ที่เพิ่งโดนคำพิพากษาจำคุก 15 ปี ถ้าดูถ้อยคำของการปราศรัยจาบจ้วงนั้น พบว่า มากกว่าการวิพากษ์วิจารณ์ธรรมดา แต่เป็นการข่มขู่อาฆาตมาดร้าย ซึ่งในหลายๆ ประเทศก็มีกฎหมายคุ้มครองผู้นำล่าสุดในสหรัฐศาลก็พึ่งมีคำพิพากษาจำคุก 3 ปี และควบคุมความประพฤติอีก 3 ปี ของชาวอเมริกันคนหนึ่งที่เขียนบทกลอนข่มขู่เอาชีวิตประธานาธิบดีโอบาม่า ส่วนคดีอากง ยังสามารถอุทธรณ์ได้ต่อสู้ได้ แต่กลุ่มล้มเจ้า กลับนำไปเป็นประเด็นโจมตี ม.112 แทนที่จะหาช่องทางในการช่วยเหลืออากงในชั้นศาล ซึ่งชี้ให้เห็นพิรุธของกลุ่มล้มเจ้า ว่า ต้องการใช้คดีอากง นำไปสู่การยกเลิก ม.112 และสร้างกระแสโจมตีเจ้าต่อไป

“ที่น่าเป็นห่วง คือ การขับเคลื่อนของคนกลุ่มนี้ลามไปถึงคนระดับล่าง คนหาเช้ากินค่ำ ลุ่มหลงจนเพิกเฉยต่อสู้ในประเด็นสิทธิ และผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของตัวเอง เช่น ละเลยการรณรงค์แก้กฎหมายกระจายการถือครองที่ดิน การกระจายอำนาจ หรือการมีส่วนร่วมทางการเมืองในมิติอื่นๆ โดยเฉพาะการตรวจสอบนโยบายรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้คนเสื้อแดงที่เคยชูธงต่อสู้กับความเหลื่อมล้ำควรทบทวน และต่อสู้ในประเด็นที่เป็นประโยชน์กับปากท้องตัวเองจะเหมาะสมกว่า เพราะเอาเข้าจริงๆ สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือแม้แต่การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันก็ทำได้ และคลี่คลายมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต แต่ปัญหาปากท้องความยากจน คอร์รัปชันกลับมีความรุนแรงมากขึ้น” นายสุริยะใส กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น