“อภิสิทธิ์” ติงข้อเสนอ “เลือกตั้งนายกฯ โดยตรง” ชี้เป็นเรื่องใหญ่ หวั่นกระทบหลายส่วน เปิดช่องให้คนหลงอำนาจเข้าบริหารประเทศ เหมือนกรณีอ้าง 15 ล้านเสียงทำอะไรก็ได้ ทั้งที่ผิดกฎหมาย ระบุรัฐบาลลดเงินสมทบประกันสังคม 1 ปียาวไป เตือนอย่ายกเลิกกองทุนเงินชราภาพ แฉรัฐบาลแสบงุบงิบเลิกส่งเงินสบทบชดเชยว่างงาน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการ “ฟ้าวันใหม่กับอภิสิทธิ์” ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกาย เคเบิลทีวี ถึงกรณีที่มีการระดมความเห็นขององค์กรกลางในเรื่องข้อเสนอให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรงว่า การจะไปเลือกนายกฯ โดยตรงจะมีผลกระทบต่อการจัดคความสำคัญระหว่างฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ องค์กรต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ และการจะให้เลือกตั้งนายกฯ ขณะที่ะอย่างอื่นยังเหมือนเดิมคงไม่ได้
“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่พอสมควร จะต้องมีข้อเสนอที่เป็นระบบมากกว่านี้ และดูว่าเหตุผลที่หยิบยกขึ้นมาเป็นอย่างไร ส่วนที่อ้างว่าข้อดีคืออาจจะไปช่วยลดปัญหาเรื่องการซื้อเสียง หรือกังวลในเรื่องพื้นที่ เรื่องท้องถิ่น หากจะทำก็ทำให้เห็นภาพใหญ่ไปเลย คือเลือกผู้บริหารสูงสุดของประเทศ แต่ที่กังวลคือ เกิดผู้ที่ได้รับเลือกตั้งโดยตรงเข้ามา ไม่หลงอำนาจก็แล้วไป แต่ถ้าหลงอำนาจขึ้นมาก็ยุ่งเหมือนกัน ที่ผ่านมาหรือในปัจจุบัน ก็จะได้ยินว่า 15 ล้าน 19 ล้าน ที่เลือกเขาเข้ามา จะทำได้ทุกอย่างผิดกฏหมายก็ได้ ก็จะตรวจสอบกันลำบาก จึงต้องระวังเรื่องนี้ด้วย”
ส่วนที่มีการอ้างคะแนนเสียง 15 ล้านที่เลือกเข้ามาให้คืนพาสปอร์ตให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องแยกแยะคนที่เลือกมาเพื่อให้ทำตามนโยบายที่หาเสียง ก็ควรเข้ามาทำ อย่างเรื่องค่าแรง 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท หรือเรื่องน้ำท่วมก็ควรเร่งทำให้เรียบร้อย แต่ไม่ใช่ออกมาบอกว่าได้มา 15 ล้านเสียง แล้วจะขอทำผิดกฏหมาย หรือทำผิกกฏหมายแล้วไม่ติดคุก 15 ล้านเสียง ออกหนังสือเดินทางให้คน โดยไม่ต้องสนใจในรายละเอียดหรือ ระเบียบก็ได้ หรือจะบอกว่า 15 ล้านเสียงบอกว่าโกงบ้างก็ไม่เป็นไร คงไม่ได้ ไม่มีหลักการประชาธิปไตย อย่างนั้น
“เพราะหลักการประชาธิปไตยจะมาทำในเรื่องของทิศทางการบริหารเรื่องของนโยบาย แต่เรื่องอะไรที่เป็นเรื่องกฎระเบียบ กฎหมายต่องเคารพกัน ถ้าจะมาแก้ไขกฎหมายก็จะต้องเป็นเรื่องของการแก้ไขกฎหมายทั่วไป หากจะแก้ไขเรื่องกฏหมาย อย่างเรื่องการนิรโทษกรรม ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะหมายความว่า ต้องบอกว่าไม่มีคนทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช.แล้ว ต่อไปนี้ใครทำผิดกฏหมายก็ไม่เป็นไร”
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงมติ ครม.เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.เกี่ยวกับเรื่องการลดเงินสมทบประกันสังคม ที่เป็นหนึ่งในมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยได้ตั้งข้อสังเกตที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการนี้ยาวไปจนถึงสิ้นปีหน้านั้น ระยะยาวเกินไปหรือไม่ เพราะกองทุนประกันสังคม มีความสำคัญมาก และสถานะการเงินของสำนักงานประกันสังคม บางเรื่องดูเหมือนจะมีเงินมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าสถานะตรงนี้จะมีความมั่นคงซึ่งตนเห็นว่าน่าจะทำเพียง 6 เดือน และมาพิจารณาอีกครั้งว่าควรจะต่ออายุออกไปอีกหรือไม่
นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องมีการอธิบายว่ามาทำเรืองอื่นด้วย เช่น ลดเงินสมทบของรัฐบาลในเรืองของการรักษาความเจ็บป่วย ประสบอันตรายทุพพลภาพ คลอดบุตร แต่ดูเหมือนจะยกเลิกในเรื่องชราภาพ ตนมองว่ากองทุนในส่วนของชราภาพเป็นเรื่องที่ต้องดูแลมากขึ้น แต่กลับเอามารวมอยู่ในมารตรการแก้ช่วยเหนือหลังน้ำท่วม ส่วนกรณีการยกเลิกการจ่ายเงินสมทบเพื่อจ่ายชดเชยกรณีว่างงานนั้น รัฐบาลถือโอกาสไม่จ่ายสมทบด้วย ขณะที่รัฐบาลชุดที่แล้วแม้จะมีการลดภาระให้นายจ้างและลูกจ้าง แต่รัฐบาลยังคงใส่เงินสมทบเข้าไป แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลขอไม่จ่ายเงิยสมทบเข้าไปด้วยซึ่ง ตนจะติดตามในรายละเอียดอีกครั้ง