“อภิสิทธิ์” เอือมรัฐบาล แก้ รธน.มุ่งแต่นิรโทษกรรม หาช่องช่วย “แม้ว” เชื่อ ปัญหาบานปลายไม่จบแน่ ชี้ “ยิ่งลักษณ์” กลืนไม่เข้าคายไม่ออก มีพี่ชายเป็นคู่ขัดแย้งรัฐ ต้องเลี่ยงตอบคำถามสังคมตลอด แนะสั่งคนในพรรคหยุดเคลื่อนไหวช่วย “ทักษิณ”
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ " ให้สัมภาษณ์
วันที่ 19 ธ.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า รัฐบาลได้บอกว่าจะแก้ไขและเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เข้ามายกร่างแก้ไขเพิ่มเติม แต่ยังไม่มีการพูดอย่างชัดเจนว่าเป้าหมายที่แท้จริงคืออะไร เพราะหากยังวนเวียนอยู่กับเรื่องนิรโทษกรรม ก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่ขัดแย้งเพิ่มขึ้น ยิ่งมีธงในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ตนก็ไม่คิดว่าจะแก้ปัญหาให้กับใครได้ เพราะจะมีการถกเถียงตามมาว่าผลทางกฎหมายคืออะไร ตนจึงคิดว่า ควรเลิกตั้งธงในเรื่องนิรโทษกรรม หากอยากปรับปรุงรัฐธรรมนูญให้ดีขึ้นไม่มีใครว่า แต่ถ้ายังตั้งธงว่าไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ กฎหมาย หรือพระราชกฤษฎีกา หรือมาตรการอะไรก็ตาม เป็นการหวังผลเรื่องนิรโทษกรรมก็จะเกิดปัญหา เรื่องเหล่านี้ควรให้ คอป.ดำเนินการดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ บอกว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ จะเป็นบุคคลที่น่าสงสาร ในขณะนี้คิดว่า นายกฯ กำลังอยู่ในภาวะที่น่าสงสารหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ในสภาวะที่มีปัญหาชัดเจน ซึ่งเห็นว่าเรื่องใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นพี่ชายก็ใช้วิธีการไม่พูดอะไรเลย เพราะอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะหมวกใบหนึ่งที่สวมอยู่ในการเป็นนายกฯ ต้องบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีเรื่องขัดแย้งกับรัฐ ในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สวมหมวกเป็นผู้นำฝ่ายบริหารต้องปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ แต่บังเอิญคู่ขัดแย้งกับรัฐเป็นพี่ชายตัวเองจึงเกิดปัญหาขึ้น
“ผมคิดว่า วันนี้ นายกฯ พยายามหลบที่จะตอบคำถามกับสังคม แต่ท่านปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคเพื่อไทย เดินหน้าเต็มที่ คนรอบข้างเดินหน้าอย่างเต็มที่ และในที่สุดความรับผิดชอบก็ไม่พ้นไปจากนายกฯ จึงควรเผชิญกับปัญหานี้ สำหรับผมอยากให้คุณยิ่งลักษณ์ มีความกล้าหาญที่จะบอกว่าเมื่อมาเป็นนายกฯ ก็จะทำงานเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนทั้งประเทศ และเรื่องของพี่ชายจะขอให้ผู้สนับสนุนพักเอาไว้ก่อน เพื่อมุ่งแก้ปัญหาประเทศ ซึ่งจะทำได้หรือไม่ก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ค้าน กก.กลั่นกรองทุกคดีตาม ม.112
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงที่จะมีการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาคดีต่างๆ ก่อนที่จะมีการสั่งฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะให้คณะกรรมการกลั่นกรองทุกคดี เพราะบางกรณีมันก็ชัดเจนของมันอยู่แล้ว ไม่ต้องมากลั่นกรองอะไร ในอดีตต้องยอมรับว่าพอมันมีความละเอียดอ่อนบางครั้งก็จะใช้ทัศนคติ คือ พนักงานสอบสวนส่งไปให้อัยการ อัยการส่งฟ้องศาล ถ้าไม่ผิดศาลก็ยกฟ้องเอง แต่บางทีมันไม่ได้ทำอย่างนั้นแล้วมันก็เลยทำให้เกิดความเข้าใจผิดที่ทำให้เกิดเป็นเหยื่อของการวิพากษ์วิจารณ์ว่าสรุปมาตรา 112 ปิดกั้นทุกเรื่อง เพราะว่ามีการมาพยายามแยกแยะกลั่นกรองคดีต่าง ๆ หรือความผิดต่าง ๆ ที่มีลักษณะแตกต่างกัน
ส่วนที่กลุ่มนักวิชาการอ้างว่าที่ผ่านมามีความพยายามใช้กฎหมายฉบับนี้เป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ดำรงตำแหน่งนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าตนยืนยันว่าไม่เคยมีการยัดเยียดข้อหามาตรา 112 ให้ใคร แต่เพราะมีคนไปร้องทุกข์ กล่าวโทษก็มีการสืบสวนสอบสวนว่าเข้าข่ายมาตรา 112 ตามเจตนารมณ์ของมาตราจริงหรือไม่ แต่ไม่ใช่เป็นการเอาเรื่องนี้มาเล่นงานกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง