xs
xsm
sm
md
lg

ชทพ.ยันไม่เด้ง “ธีระ” พ้น ครม.ดักคอ พท.คงไม่ทำลายมหามิตร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา (แฟ้มภาพ)
โฆษกชาติไทยพัฒนา หนุน “ยิ่งลักษณ์” เดินสายพบเหล่าทัพ ชูสุดใจถึงอ่านเกมขาด แถมซื้อใจ ทร.ด้วยเรือดำน้ำ สะท้อนสัญญาณดีต่อเสถียรภาพรัฐ ยันไม่เด้ง “ธีระ” พ้น รมว.เกษตรฯ แน่ ปัด พท.ขอผู้ใหญ่พรรคจัดการ ดักคอ “แม้ว” คงไม่ทำร้ายมหามิตร หยันเด็กพรรครัฐอย่าหวังสูง ไม่พูดคืนพาสปอร์ต “ทักษิณ” บอกถ้าเหมาะก็ไม่ปฏิเสธ นัดสุมหัวลูกพรรคแก้ รธน.อังคารหน้า เน้นสร้าง ส.ส.ร.จี้รัฐอย่าแถลงบึ้มเป็นทางการ

วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แถลงว่า พรรคขอสนับสนุนท่าทีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการตรวจเยี่ยมกองทัพทุกเหล่าทัพตลอดสัปดาห์นี้ เพราะเป็นกลยุทธ์ที่ถูกต้อง และมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ที่สำคัญยังเป็นการแสดงความใจถึงของนายกฯ เช่นกัน ด้วยการใช้ความนอบน้อมในฐานะมีความอาวุโสน้อยกว่าผู้นำเหล่าทัพ จึงเป็นการอ่านเกมได้ขาดและรวดเร็ว สะท้อนได้ชัดจากการแสดง ท่าทีซื้อใจกองทัพเรือด้วยการประกาศสนับสนุนการซื้อเรือดำน้ำให้กับกองทัพเรือ

“การที่นายกฯข้าไปพบเราไมได้มองว่าเป็นการก้าวก่ายกองทัพ แต่ลดการหวาดระแวงระหว่างกัน และสนับสนุนท่าทีของผบ.เหล่าทัพที่ประกาศพร้อมรับใช้รัฐบาล 24 ชั่วโมง เท่ากับว่า มีสัญญาณที่ดีต่อการสร้างเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาเป็นความมั่นคงทางการเมืองอยู่แล้ว แต่หากมีความสัมพันธ์กับกองทัพได้จะยิ่งทำให้เสถียรภาพมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายการเมืองห้ามเข้าไปแทรกแซงกองทัพ เช่นเดียวกับกองทัพไม่ควรเข้ามาแทรกแซงทางการเมือง ถ้าทำได้อย่างนี้เสถียรภาพรัฐบาลจะมีความมั่นคงมากขึ้น” นายวัชระ กล่าว

โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แถลงอีกว่า การปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนายืนยันเป็นครั้งสุดท้ายว่าพรรคจะไม่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์แน่นอน และผู้ใหญ่ในพรรคยังไม่ได้รับการร้องขอจากนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทยแม้แต่คนเดียว ดังนั้น เชื่อว่า โควตาของพรรคยังคงเหมือนเดิม ผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยรู้ดีว่าพรรคชาติไทยพัฒนาคบหาได้เพราะมีสัจจะทางการเมือง จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่พรรคเพื่อไทยจะมาทำร้ายมหามิตรอย่างพรรคชาติไทยพัฒนา ที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รู้อยู่แล้วนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี คือ มิตรแท้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างแท้จริง

“ขอให้พวกตัวเล็กตัวน้อยที่ออกมาปล่อยข่าวหวังฟลุครับตำแหน่ง ขอให้ยุติการกระทำดังกล่าวได้แล้ว ขอให้ทำงานให้มากๆจะดีกว่า เพราะถ้าไปหวังตำแหน่งมากๆ ระวังจะผิดหวัง และล่าสุด ได้กับ นายธีระ เมื่อเปิดตอนเปิดงานพืชวนโลกก็ไม่ได้สนใจอะไรแต่ประกาศเดินหน้าเข้าสู่หมวดฟื้นฟูและช่วยเหลือเกษตรจากปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง” นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวอีกว่า พรรคยังไม่ขอแสดงท่าทีต่อข่าวเกี่ยวกับกรณีที่กระทรวงต่างประเทศเตรียมคืนหนังสือเดินทางให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะยังไม่มีความชัดเจนว่ากระทรวงต่างประเทศได้ดำเนินการจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าจะคืนหนังสือเดินทางก็ต้องดูความเหมาะสมตามกฎหมายและสิทธิในฐานะคนไทยคนหนึ่ง หากมีความเหมาะสมและถูกต้องคงไม่มีทางจะปฎิเสธ เพราะกระทรวงต่างประเทศต้องดำเนินการตามกฎหมาย

นอกจากนี้ นายวัชระ ยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 20 ธ.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ทั้งนี้สำหรับจุดยืนของพรรคเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยรูปแบบ คือ ต้องสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่านกลไกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขณะที่ ในส่วนองค์ประกอบของส.ส.ร.ตามที่ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่าจะมาจากนักวิชาการที่ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะรัฐประหาร ในเบื้องต้นพรรคยังไม่มีความเห็นในประเด็นนี้เพราะมองว่ายังไม่ใช่สาระสำคัญ

“หากจะกำหนดให้กลุ่มนักวิชาการทำหน้าที่ ส.ส.ร.จะมีความเป็นกลางหรือถูกใจใครหรือไม่ขึ้นอยู่กับมุมมองแต่ละบุคคล แต่สำหรับประเด็นนี้ ยังไม่น่ากังวลเพราะสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างแท้จริง คือ สาระที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่า และที่สำคัญ การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องกระทำอย่างเปิดเผยให้สังคมรับรู้ไม่หมกเม็ด เพราะสังคมกำลังจับตาอยู่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในฐานะกฎหมายสูงสุดของประเทศมีผลต่อการเมืองไทยอนาคต และจะนำไปสู่ความปรองดองหรือไม่ด้วย นอกจากนี้ ต้องนำข้อเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญของคณะทำงานที่ผ่านมา อาทิ ชุดของนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี และ นายสมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ อธิบการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ มาพิจารณาด้วย” นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ได้หารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวภายหลังมีสถานการณ์การลอบวางระเบิดตามจุดสำคัญในกทม.โดยให้ความมั่นใจว่า ภาครัฐสามารถป้องกันเหตุร้ายได้แต่มีความเป็นห่วงในเรื่องของการนำเสนอข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศ สถานฑูตในประเทศไทย ซึ่งอาจแสดงความเป็นกังวลออกมาส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ทำงานด้วยความรัดกุมแบบเงียบๆ และไม่ควรแถลงท่าทีอย่างเป็นทางการเพื่อไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยว
กำลังโหลดความคิดเห็น