เพื่อไทยเตะถ่วงกม.นิรโทษฯ แผน "ทักษิณ"คัมแบ็คดีเลย์

หมดจากปัญหาน้ำท่วม คราวนี้ก็จะเป็นช่วงเวลาแห่งการพิสูจน์ฝีมือที่แท้จริงของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่ารัฐบาลชุดนี้จะทำงานให้ประเทศกลับมาดีขึ้นหลังจากน้ำลดได้แค่ไหน

หลังจากที่ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ออกสตาร์ทมาผลัดแรกเกือบจะครบ 4 เดือนในปลายธันวาคมนี้ ผลงานไม่มี ความดีไม่ปรากฏ ข่าวทุจริตก็มากโดยเฉพาะการทุจริตเรื่องของบริจาคช่วยน้ำท่วม

ส่วนตัวผู้นำยิ่งลักษณ์จะสี่เดือนมาแล้ว ประชาชนทั้งประเทศไม่คิดจะฝากผีฝากไข้อะไรกับนายกฯคนนี้แล้วหลังเห็นแล้วว่าสวยแต่สมองกลวง

ความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่เพียงแต่ทำให้รัฐบาลอยู่ในสภาพง่อนแง่น แต่ยังทำให้แผนการกลับประเทศของ

ทักษิณ ชินวัตร ต้องสะดุดลงด้วย โดยเฉพาะบันไดที่ทักษิณและเพื่อไทยตระเตรียมไว้มาตลอดคือการออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม

แทนที่จะทำได้ง่ายและเร็วกว่าการจะแก้รัฐธรรมนูญที่ใช้เวลาไม่น้อยคือร่วมปีกว่าจะสำเร็จ แต่การออกกฎหมายนิรโทษกรรมที่หากหน้ามืดตามัวขึ้นมาจริงๆ จะเอาให้ผ่านสภาฯ 3 วาระรวดวันเดียวเลยก็ยังได้

แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเพื่อไทยและทักษิณคงไม่บ้าระห่ำถึงขนาดนั้นแน่นอน ขืนบ้าคิดจะทำเช่นนั้นจริง ๆ ม็อบหน้ารัฐสภาฝูงชนที่จะออกมาคัดค้านจะมากันมืดฟ้ามัวดินแน่นอน แม้ใจทักษิณอาจจะอยาก และคิดจะทำก็คงไม่กล้าเสี่ยง

ขณะที่วิธีอื่นๆ อย่างการออกพระราชกฤษฏีกาอภัยโทษ ทักษิณและเพื่อไทยคงไม่เอาแล้ว หากจะออกพระราชกฤษฏีกาอภัยโทษให้ทักษิณในวาระโอกาสพิเศษอื่นๆ ในปี 2555 คงฝากความหวังไม่ได้เหมือนกัน เพราะดูก็เห็นแล้วว่าแรงต้านมีมากเช่นกัน

ยิ่งเมื่อเห็นตัวอย่างกรณี อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ศาลไม่ให้ประกันตัวหลังเข้ามอบตัวจนต้องนอนในคุกหลายวัน ก็ทำให้ทักษิณย่อมไม่เสี่ยงแน่นอน เพราะต่อให้มีการออกพระราชกฤษฏีกาพ้นผิดในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ที่ศาลจำคุกสองปี กลับมาก็ต้องมาสู้คดีตามหมายจับอย่างน้อยก็ 4-5 คดี ต้องมายื่นขอประกันตัวในคดีค้างเก่า ที่มีสิทธิ์จะไม่ได้รับการประกันตัวค่อนข้างสูง อาจต้องเข้าคุกซึ่งต่อให้เป็นคุกวีไอพีของกรมราชทัณฑ์ที่บางเขน ทักษิณก็คงไม่ยอมแน่นอน

การออกพรบ.นิรโทษกรรมโดยให้ล้างผิดทุกอย่างทุกคดี จึงเป็นสิ่งที่ทักษิณมองดูแล้วปลอดภัยที่สุด และหมายมั่นจะให้ลูกหาบในเพื่อไทยเอากฎหมายนี้เข้าสภาฯเลยในสมัยประชุมที่จะถึงสัปดาห์หน้านี้

อย่างไรก็ตาม แผนที่วางไว้เริ่มมีสะดุดเพราะสถานการณ์ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่เป็นใจให้ทักษิณเสียแล้ว เนื่องจากเมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำงานมาสี่เดือนกว่าไม่มีผลงาน ประชาชนไม่ยอมรับ ผู้คนเดือดร้อนหลายล้านคนจากปัญหาน้ำท่วมเพราะความล้มเหลวในการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล

ขืนหากรัฐบาลและส.ส.เพื่อไทย จะรีบดึงดันเอาใจ ทักษิณ ด้วยการเร่งเสนอออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อช่วยเหลือทักษิณ ชินวัตรในช่วงประชุมสภาฯสมัยนี้ แต่บังหน้าอ้างทำเพื่อความปรองดองของคนในชาติให้ทุกฝ่ายที่เคยอยู่คนละฝั่งทางการเมืองได้ประโยชน์หมด

ภายใต้หลักการที่ฝ่ายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยประกาศมาตลอดคือให้คดีความการเมืองที่อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน-อัยการหรือแม้แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลและรวมถึงคดีที่ศาลได้ตัดสินไปแล้ว ก็จะได้รับการนิรโทษกรรมหมด ไม่ว่าจะเป็นศาลยุติธรรม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญ

หลักการนี้ เพื่อไทย ตั้งแต่ระดับแกนนำพรรค-แกนนำรัฐบาล-กระบอกเสียงของทักษิณ ชินวัตร อย่างนพดล ปัทมะ รวมถึงพวกนักวิชาการเทียมที่ฝักใฝ่ระบอบทักษิณต่างอ้างว่าจะเป็นบันไดนำไปสู่การปรองดอง เนื่องจากจะทำให้สิ่งที่ติดค้างอยู่ตั้งแต่หลัง 19 ก.ย. 49 ถูกล้มกระดานหมด

เพื่อไทย จึงพยายามบอกในลักษณะโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองว่าวิธีการนี้คือ หนทางที่ดีที่สุดและเร็วที่สุด ในการนำประเทศกลับไปสู่ความปรองดอง

เพราะความคิดของทักษิณและเพื่อไทยที่เชื่อว่า ทุกคนจะเอาด้วยกับบันไดนี้ที่จะได้อานิสงส์หมด

ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย-เสื้อแดง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือนปช.-พวกซีกฝ่ายค้านเวลานี้ทั้งอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ที่กำลังจะโดนเอาผิดคดีสลายการชุมนุมทั้งในส่วนของคดีชันสูตรพลิกศพ 16 ศพและคดีใหญ่ 91 ศพ

และจะพ่วงรวมไปถึงอีกหลายกลุ่มให้ได้อานิสงส์ไปด้วย เช่นผู้นำกองทัพคือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกและพลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารบกที่มีบทบาทสำคัญในศอฉ.ช่วงชุมนุมเสื้อแดงที่อาจจะโดนหางเลขถูกลากตัวขึ้นศาลไปด้วยในคดี 91 ศพ ก็จะได้ประโยชน์ตามไปด้วย

แผนการของเพื่อไทยและทักษิณ ก็คือจับเอาคนเหล่านี้เป็นตัวประกันในการออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อสร้างแนวร่วมและจะได้ไม่ถูกมองว่าออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับทักษิณ

ทั้งที่ฝ่ายที่อาจจะเข้าข่ายถูกเพื่อไทยเอาไปพ่วงให้ได้ประโยชน์ด้วยในการออกกฎหมายนิรโทษกรรม เช่นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่โดนตำรวจยัดข้อหาทั้งคดีก่อการร้าย-คดีปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง

แกนนำพันธมิตรฯก็ประกาศมาตลอดว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ไม่ได้ไปยึดสนามบิน จึงพร้อมต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ขอเข้าสู่การลัดขั้นตอนด้วยการนิรโทษกรรม

เช่นเดียวกับ อภิสิทธิ์และสุเทพ ที่กำลังต้องลุ้นกับการยื่นสำนวนคดีชันสูตรพลิกศพของตำรวจนครบาลต่ออัยการในคดี 16 ศพ ทั้งสองคนก็ประกาศทั้งก่อนและหลังเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนคดี 16 ศพว่า ไม่ได้มีการออกคำสั่งที่เกินกว่าเหตุ ไม่ได้สั่งให้ทหารออกไปทำร้ายประชาชน แต่การที่มีคนบาดเจ็บเสียชีวิตในช่วงเสื้อแดงชุมนุมเพราะมีกองกำลังติดอาวุธและชายชุดดำเข้าไปก่อเหตุ จึงพร้อมสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม

เมื่อฝ่ายต่างๆ ที่เพื่อไทย พยายามจะดึงมาเป็นพวก ไม่ขอร่วมสังฆกรรมด้วยกับการนิรโทษกรรมแบบนี้ เพราะต่างก็รู้เท่าทันว่าเพื่อไทยและทักษิณต้องการอะไร ถึงไม่ยอมลงมาร่วมเล่นเกมนิรโทษกรรมแบบนี้ด้วย

หากทักษิณจะเดินหน้าสั่งให้ลูกพรรคเพื่อไทยและบรรดาลิ่วล้อในครม.ยิ่งลักษณ์ เร่งออกกฎหมายนิรโทษกรรม แม้จะพยายามใช้เสียงข้างมากและอำนาจที่มีอยู่ผลักดันให้การนิรโทษกรรมต้องคลอดออกมา ผ่านช่องทางเช่นการออกเป็นมติคณะรัฐมนตรีเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมหรือจะทำคลอดอออกมาผ่านร่างพรบ.นิรโทษกรรมโดยการเสนอของส.ส.ในพรรคเพื่อไทย

สังคมก็เห็นว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยต้องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อช่วยเหลือทักษิณอย่างเดียว ปัญหาของประเทศมากมายกลับไม่คิดจะทำ

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เละอยู่แล้ว จะยิ่งไปเร็วขึ้นหากจะดึงดันทำเพื่อทักษิณคนเดียวโดยไม่ดูกระแสสังคมและความรู้สึกของประชาชน

ของแบบนี้ บรรดารัฐมนตรี-แกนนำพรรคเพื่อไทย ย่อมรู้ดี อ่านสถานการณ์ออก จึงพยายามจะประวิงเวลาเอาไว้ รอวันที่สถานการณ์พร้อมกว่านี้ เพราะถ้ารัฐบาลอยู่ไม่ได้ หรือถึงอยู่ได้แต่คนออกมาชุมนุมประท้วงคัดค้านการออกพรบ.นิรโทษกรรม พวกรัฐมนตรี-ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ก็จะเสียประโยชน์การเมืองตามไปด้วย

พวกนี้จึงพยายามซื้อเวลาเรื่องนิรโทษกรรมออกไปก่อน โดยอ้างกับทักษิณว่าจะรอผลสรุปการทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฏร ชุดพลเอกสนธิ บุญยกลิน ที่ดึงสถาบันพระปกเกล้ามาร่วมทำวิจัยเรื่องต้นเหตุแห่งปัญหาการเมืองไทยและแนวทางการสร้างความปรองดอง

ทั้งนี้กมธ.ปรองดองให้เวลาสถาบันพระปกเกล้าไปศึกษา 4 เดือน จากนั้นกมธ.ถึงค่อยนำผลของพระปกเกล้ามาตกผลึกอีกรอบหนึ่งที่คงกินเวลาอีกอย่างน้อยก็ 1เดือน

เบ็ดเสร็จหากเพื่อไทยจะรอผลสรุปของกมธ.ปรองดองเพื่อเอามายำออกเป็นกฎหมายนิรโทษกรรมก็ใช้เวลาอีกเกือบ 5 เดือน ไม่ทันสมัยประชุมนี้แน่นอน

ทีมข่าวการเมืองASTVผู้จัดการเดาใจทักษิณ ว่าเขาย่อมไม่พอใจแน่นอน หากเวลากลับไทยต้องยื้อออกไปเรื่อยๆ ให้เปิดสภาฯแล้ว แต่ลูกพรรคก็ยังไม่ทำอะไรให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ว่าจะเป็นการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมหรือจะเอาแบบแก้รัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างคดีความการเมืองทุกคดีหลัง 19 ก.ย. 49 ก็ได้

ยิ่งจะให้รอต่อไปอีกหลายเดือนตามที่ลูกพรรคเสนอให้รอผลสรุปของกมธ.ปรองดอง แล้วค่อยออกพรบ.นิรโทษกรรม โดยไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่ารอขนาดนั้นแล้ว รัฐสภาจะผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมออกมาได้หรือไม่

หากเล่นตามเกมนี้ ทักษิณจะไม่ใช่ผู้กำหนดเกม เป็นแค่คนดูข้างสนาม

หากลูกพรรคเพื่อไทยและสมุนทักษิณในครม. ยังไม่คิดจะทำอะไรสักอย่างให้ทักษิณเห็นว่าจะเอาอย่างไรแน่ ทั้งถ่วงทั้งดึงเวลาไปเรื่อยๆ

คงมีเสียงทุบโต๊ะดังมาจากแดนไกล จากชายชื่อทักษิณ ถึงยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยแน่นอน