“มาร์ค” จวก “ปู” ตั้งงบกลางไม่ชัดเจน หวังเลี่ยงถูก กมธ.สอบ

“มาร์ค” ไม่แปลกใจ ครม.ปู นัดพิเศษ อนุมัติ 2 หมื่นล้าน ฟื้นฟูน้ำท่วม เชื่อ ทยอยจ่ายหลายขยัก หวังเลี่ยงถูก กมธ.สอบ ระบุ รัฐบาลเตรียมทำฟลัดเวย์ รองรับปัญหาน้ำท่วมหวังเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน แต่หากไม่ศึกษาก่อนลงมือ อาจเป็นการละลายทิ้งงบ

วันที่ 13 ธ.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ครม.จะใช้งบกลางถึง 2 หมื่นล้านบาท ในการฟื้นฟูน้ำท่วม ว่า เป็นไปตามความคาดหมายว่า ปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้น และจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง เพราะยังมีอีกหลายก้อนที่ต้องมาถกกัน ทำให้ตนอยากตั้งคำถาม ว่า ตกลงระบบการกลั่นกรองเรื่องนี้ มันจะเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะเหมือนกับว่าจะต้องมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการต่างๆ ขึ้นมา เพื่อพิจารณากลั่นกรองเรื่องนี้มากกว่าที่จะมาถกกันใน ครม.ตลอด ส่วนเรื่องของการเยียวยาก็ควรจะแยกออกมาให้ชัดเจน เช่น การอนุมัติงบประมาณ 1 หมื่นกว่าล้าน เพื่อจ่ายเงินชดเชยค่าน้ำท่วมครอบครัวละ 5,000 บาท ซึ่งสามารถแยกออกมาได้เลย และก็มีระบบการตรวจสอบความชัดเจน แต่งบประมาณเรื่องฟื้นฟู ควรต้องดูเหตุผลความจำเป็น ซึ่งเท่าที่ดูการทำงานของรัฐบาล เหมือนกับโครงการไหนทำได้ก่อนก็เอาเงินไปก่อน เช่น กรณีงบปรับปรุงฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานหลังน้ำท่วม 20,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลบอกว่าจะสามารถดำเนินการได้ในเดือนมกราคม เสร็จแล้วค่อยมาพูดถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งตนมีข้อสังเกต 2 ข้อ คือ ควรจะสำรวจความเสียหาย และเรียงลำดับตามความจำเป็น เพราะจะกลายเป็นว่า ส่วนที่เสียหายเพียงเล็กน้อย จะได้งบฟื้นฟูก่อน และอาจจะมีปัญหางบหมดไม่พอสำหรับส่วนที่เสียหายมาก

สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำ ไม่น่าจะเป็นวิธีการที่ถูกต้อง และยืนยันว่า ทั้งหมดที่กำลังทำกันอยู่ยังเป็นความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการใช้กระบวนการงบประมาณปกติ โดยปิดโอกาสให้สภาเข้ามาดูอนุมัติโครงการได้ เหมือนกับโครงการทั่วๆ ไป ตนจึงไม่แน่ใจการที่ทำทีละช่วง เพราะเกรงว่าหากมีรายละเอียดทุกโครงการออกมาในตอนนี้จะต้องเสนอไปที่คณะกรรมาธิการหรือไม่ เพราะยังอยู่ในช่วงการพิจารณาอีก 2 สัปดาห์ จากนั้นจะพิจารณาวาระ 2 และ 3 ในช่วงประมาณวันที่ 4 มกราคม ซึ่งขณะนี้ควรจะสำรวจได้แล้วในแต่ละโครงการเพื่อเสนอไปที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และพิจารณาตามเกณฑ์ แทนที่จะปล่อยให้เป็นการพิจารณาของฝ่ายบริหารฝ่ายเดียว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในช่วงรัฐบาลของตน มีการตั้งงบกลางประมาณ 47,000 พันล้าน แต่รัฐบาลยุคนี้มีการเพิ่มขึ้นอีก 60,000 กว่าล้าน และยังไม่รวมอีก 120,000 ล้าน ที่อ้างว่า เป็นงบกลางเพื่อฟื้นฟู แต่รัฐบาลตนได้เสนอเป็นงบกลางปีผ่านสภา มีการเสนอรายละเอียดโครงการรูปถ่ายของพื้นที่เพื่อให้สภาตรวจสอบ ดังนั้น ตนจึงกังวลว่า หากรัฐบาลยังใช้วิธีการแบบนี้ จะไม่มีความโปร่งใส และมีการทุจริตทำได้ง่ายกว่า

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะทำร่องระบายน้ำ หรือ ฟลัดเวย์ขนาดใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมให้กับกรุงเทพฯ ขณะที่ นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า หากไม่มีการศึกษาเบื้องต้นก่อน จะเป็นการใช้งบประมาณสิ้นเปลือง และจะทำให้การแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่เข้าใจว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.พาณิชย์ มีหน้าที่ไปสร้างความเชื่อมั่นกับทางภาคเอกชน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่า ปีหน้าสถานการณ์จะไม่เหมือนปีนี้ ซึ่งมีผลไปถึงเรื่องปัญหาการประกันภัย ที่มีปัญหาเรื่องเบี้ยจะเพิ่มสูงมาก จึงต้องมีการเดินสายสร้างความเชื่อมั่นเรื่องการป้องกันปัญหาน้ำท่วม แต่สิ่งที่นายปราโมทย์ พูด เป็นสิ่งที่ต้องเตือนสติทุกฝ่าย ว่า การจะทำช่องทางผ่านของน้ำจะนึกเอาตามใจชอบไม่ได้ มันต้องมีการไปศึกษาสำรวจธรรมชาติของพื้นที่ และทางไหลของน้ำ รวมถึงผลกระทบที่จะตามมา ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน แต่หากรัฐบาลคิดว่าศึกษาชัดเจนแล้ว ก็น่าที่จะได้เริ่มเปิดเผยว่าโครงการจะทำอะไร ที่ไหน จะได้มีการเดินหน้าในการที่จะช่วยกันระดมความคิดในเรื่องนี้ต่อไป