ข้าราชการ 28 หน่วยงานในศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โผล่ลงชื่อถึง รมว.คลัง, ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมอ่านแถลงการณ์ร้องทำงานมา 2 ปีกว่า ธพส.บริหารพื้นที่สุดห่วย ขยะเต็มส้วม จัดจราจรแย่ อาหารแพงไร้คุณภาพ ชี้ ไม่คุ้มค่าจ้าง จี้แก้จริงจัง เล็งรวมตัวไม่จ่ายค่าเช่า ทำเรื่องขอที่อยู่ใหม่
วันนี้ (13 ธ.ค.) ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติแจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 13.00 น.ข้าราชการและผู้ปฏิบัติงานจาก 28 หน่วยงาน ภายในอาคารได้ทยอยกันลงชื่อถึง รมว.คลัง และผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่อง ความเดือดร้อนของผู้ปฏิบัติงานในอาคาร โดย นายวีรวิทย์ วีรวรวิทย์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ นายสงัด ปัถวี รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายเดชา วงษ์มาก ผู้อำนวยการสำนักการคลัง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสมพล เกษมสัมฤทธิผล ตัวแทนสถาบันพระปกเกล้า ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ซึ่งเป็นหนังสือเปิดผนึกที่จะยื่นถึง 2 หน่วยงานดังกล่าวว่า นับตั้งแต่ได้เข้ามาปฏิบัติงานอาคารรัฐประศาสนภักดีมานานกว่า 2 ปี ได้ประสบปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ซึ่งเป็นผู้บริหารอาคาร ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคุณภาพอากาศ และฝุ่นละอองภายในอาคาร ปัญหาการจัดการจราจรและสถานที่จอดรถยนต์ของผู้ปฏิบัติงานและประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการ ปัญหาการรักษาความสะอาดบริเวณภายใน เช่น ห้องสุขา บริเวณบันไดทางเดินภายในอาคารและโดยรอบอาคารซึ่งมีขยะตกค้างส่งกลิ่นเหม็นไม่ถูกสุขอนามัย ปัญหาการให้บริการรถยนต์รับ-ส่ง จากถนนแจ้งวัฒนะมายังอาคารแก่ข้าราชการ ผู้ปฏิบัติงาน ประชาชนผู้มาใช้บริการและติดต่อราชการกับหน่วยงานภายในอาคาร และปัญหาการให้บริการร้านอาหารที่มีจำนวนไม่เพียงพอ ราคาแพงและขาดคุณภาพ
โดยปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขและปัจจุบันทวีความรุนแรงขึ้น อันเนื่องมาจากบริษัทธพส.ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ไม่ได้บริหารจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับงบประมาณที่หน่วยงานต่างๆ จ่ายให้ โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานได้มีข้อร้องเรียนไปยังบริษัท ธพส.เพื่อดำเนินการแก้ไข แต่ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขจาก ธพส.แต่อย่างใด จึงขอให้ รมว.คลัง และผู้ตรวจการแผ่นดินได้เข้ามาพิจารณาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ได้มีการเผยแพร่ใบปลิวระบุถึงการบริหารงานของ ธพส.ทำให้ นายวีรวิทย์ มีหนังสือไปยังหัวหน้าหน่วยงานภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเชิญประชุมหารือซึ่งก่อนจะมีการแถลงข่าว ผู้แทนจาก 28 หน่วยงาน ได้มีการประชุมหารือและเห็นตรงกันว่า การบริหารศูนย์ของ ธพส.ที่ผ่านมาล้มเหลว หลายอย่างไม่เป็นไปตามที่ได้มีการตกลงไว้ เช่น จะมีอาคารจอดรถสำหรับให้บริการมากกว่า 1 หมื่นคัน รวมทั้งมีรถรับส่งจากปาก ซ.แจ้งวัฒนะ 7 เข้าสู่ตัวอาคารตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ผู้บริหารศูนย์ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล และมีการร้องเรียนเรื่องการทุจริต ทั้งในเรื่องการประมูลเข้ามาขายอาหารในศูนย์อาหาร หรือในโครงการร้อยล้านมาร์เช่ การเก็บค่าบริการสาธารณูปโภคต่างๆ จากหน่วยงาน ซึ่งควรมีการตรวจสอบการบริหารงานของ ธพส.ทั้งในเรื่องการทุจริต และให้บริการที่ไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลงไว้
นายวีรวิทย์ กล่าวว่า ให้คำมั่นกับข้าราชการและผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ราชการทุกคน ว่า จะดำเนินการให้มีการแก้ไขปัญหาตามที่มีการเรียกร้อง ถ้าไม่มีการตอบสนองก็จะมีการขอพลังข้าราชการ และผู้ปฏิบัติงานกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในชั้นนี้จะยื่นหนังสือร้องเรียนไปก่อนเป็นขั้นแรก แต่หากยังไม่มีการแก้ไขก็จะดำเนินมาตรการต่อไป คือ ไม่จ่ายค่าเช่า ดังเช่นที่บางหน่วยงานทำมาแล้ว และจะทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังเพื่อขอหาที่อยู่ใหม่ เพราะอาคารนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้หน่วยงานราชการมาใช้
อย่างไรก็ตาม สำหรับหน่วยงานที่ปฏิบัติงานภายในอาคารนี้ ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับดูแลคุ้มครองสิทธิของประชาชน เช่น สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรมที่ดิน แต่ปรากฏว่า ก็กลับมีปัญหาในเรื่องการถูกละเมิดของตนเอง ทำให้ต้องมารวมตัวชุมนุม ซึ่งผู้บริหารหน่วยงานหลายคนถึงกลับกล่าวว่า หากครั้งนี้ยังไม่สามารถปกป้องสิทธิของตนเองได้ แล้วองค์กรจะไปปกป้องสิทธิประชาชนได้อย่างไร
วันนี้ (13 ธ.ค.) ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติแจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 13.00 น.ข้าราชการและผู้ปฏิบัติงานจาก 28 หน่วยงาน ภายในอาคารได้ทยอยกันลงชื่อถึง รมว.คลัง และผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่อง ความเดือดร้อนของผู้ปฏิบัติงานในอาคาร โดย นายวีรวิทย์ วีรวรวิทย์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ นายสงัด ปัถวี รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายเดชา วงษ์มาก ผู้อำนวยการสำนักการคลัง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสมพล เกษมสัมฤทธิผล ตัวแทนสถาบันพระปกเกล้า ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ซึ่งเป็นหนังสือเปิดผนึกที่จะยื่นถึง 2 หน่วยงานดังกล่าวว่า นับตั้งแต่ได้เข้ามาปฏิบัติงานอาคารรัฐประศาสนภักดีมานานกว่า 2 ปี ได้ประสบปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ซึ่งเป็นผู้บริหารอาคาร ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคุณภาพอากาศ และฝุ่นละอองภายในอาคาร ปัญหาการจัดการจราจรและสถานที่จอดรถยนต์ของผู้ปฏิบัติงานและประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการ ปัญหาการรักษาความสะอาดบริเวณภายใน เช่น ห้องสุขา บริเวณบันไดทางเดินภายในอาคารและโดยรอบอาคารซึ่งมีขยะตกค้างส่งกลิ่นเหม็นไม่ถูกสุขอนามัย ปัญหาการให้บริการรถยนต์รับ-ส่ง จากถนนแจ้งวัฒนะมายังอาคารแก่ข้าราชการ ผู้ปฏิบัติงาน ประชาชนผู้มาใช้บริการและติดต่อราชการกับหน่วยงานภายในอาคาร และปัญหาการให้บริการร้านอาหารที่มีจำนวนไม่เพียงพอ ราคาแพงและขาดคุณภาพ
โดยปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขและปัจจุบันทวีความรุนแรงขึ้น อันเนื่องมาจากบริษัทธพส.ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ไม่ได้บริหารจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับงบประมาณที่หน่วยงานต่างๆ จ่ายให้ โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานได้มีข้อร้องเรียนไปยังบริษัท ธพส.เพื่อดำเนินการแก้ไข แต่ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขจาก ธพส.แต่อย่างใด จึงขอให้ รมว.คลัง และผู้ตรวจการแผ่นดินได้เข้ามาพิจารณาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ได้มีการเผยแพร่ใบปลิวระบุถึงการบริหารงานของ ธพส.ทำให้ นายวีรวิทย์ มีหนังสือไปยังหัวหน้าหน่วยงานภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเชิญประชุมหารือซึ่งก่อนจะมีการแถลงข่าว ผู้แทนจาก 28 หน่วยงาน ได้มีการประชุมหารือและเห็นตรงกันว่า การบริหารศูนย์ของ ธพส.ที่ผ่านมาล้มเหลว หลายอย่างไม่เป็นไปตามที่ได้มีการตกลงไว้ เช่น จะมีอาคารจอดรถสำหรับให้บริการมากกว่า 1 หมื่นคัน รวมทั้งมีรถรับส่งจากปาก ซ.แจ้งวัฒนะ 7 เข้าสู่ตัวอาคารตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ผู้บริหารศูนย์ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล และมีการร้องเรียนเรื่องการทุจริต ทั้งในเรื่องการประมูลเข้ามาขายอาหารในศูนย์อาหาร หรือในโครงการร้อยล้านมาร์เช่ การเก็บค่าบริการสาธารณูปโภคต่างๆ จากหน่วยงาน ซึ่งควรมีการตรวจสอบการบริหารงานของ ธพส.ทั้งในเรื่องการทุจริต และให้บริการที่ไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลงไว้
นายวีรวิทย์ กล่าวว่า ให้คำมั่นกับข้าราชการและผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ราชการทุกคน ว่า จะดำเนินการให้มีการแก้ไขปัญหาตามที่มีการเรียกร้อง ถ้าไม่มีการตอบสนองก็จะมีการขอพลังข้าราชการ และผู้ปฏิบัติงานกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในชั้นนี้จะยื่นหนังสือร้องเรียนไปก่อนเป็นขั้นแรก แต่หากยังไม่มีการแก้ไขก็จะดำเนินมาตรการต่อไป คือ ไม่จ่ายค่าเช่า ดังเช่นที่บางหน่วยงานทำมาแล้ว และจะทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังเพื่อขอหาที่อยู่ใหม่ เพราะอาคารนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้หน่วยงานราชการมาใช้
อย่างไรก็ตาม สำหรับหน่วยงานที่ปฏิบัติงานภายในอาคารนี้ ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับดูแลคุ้มครองสิทธิของประชาชน เช่น สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรมที่ดิน แต่ปรากฏว่า ก็กลับมีปัญหาในเรื่องการถูกละเมิดของตนเอง ทำให้ต้องมารวมตัวชุมนุม ซึ่งผู้บริหารหน่วยงานหลายคนถึงกลับกล่าวว่า หากครั้งนี้ยังไม่สามารถปกป้องสิทธิของตนเองได้ แล้วองค์กรจะไปปกป้องสิทธิประชาชนได้อย่างไร