“นพเหล่” โต้โฆษก ปชป.ซัดพล่ามข้อหาเดิมๆ ยังก้าวไม่พ้น “ทักษิณ” ยันนายใหญ่ไม่มีทำรุนแรง แต่หวังคืนปรองดอง โว “ยิ่งลักษณ์” ก้าวสู่อำนาจสง่ากว่า “อภิสิทธิ์” หยันเป็นสิ่งที่ ปชป.ไม่คุ้น ยันรัฐบาลทำเพื่อทุกคน ระบุคืนพาสปอร์ตทำตามกฎหมาย เชื่อไม่เอาเวลามาแก้ปัญหาส่วนตัว
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยได้ส่งอีเมลคำแถลงของนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ดินรัชดาภิเษก ให้แก่ผู้สื่อข่าวประจำพรรคเพื่อไทย ถึงกรณีที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณมีเป้าหมายรุนแรงกว่าในอดีต และเป็นนายกฯ ตัวจริง ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นเพียงนายกฯ หุ่นเชิด และรัฐบาลทำเพื่อประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนผลประโยชน์ของประชาชนว่า เป็นข้อกล่าวหาเดิมๆ เก่าๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาหลายปีแล้ว ยังไม่ก้าวพ้น พ.ต.ท.ทักษิณ และแนวทางนี้ได้นำเสนอในการเลือกตั้งทุกครั้งแต่ก็แพ้เลือกตั้งทุกครั้งให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนคิดว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ควรถามตัวเองว่าเราจะทำงานการเมืองแบบใช้วาทกรรมนำการเมืองหรือจะใช้การแก้ปัญหาให้ประชาชนนำการเมือง เพราะสิ่งที่นายชวนนท์พูดไม่เป็นความจริงเลย พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มีเป้าหมายรุนแรง แต่มีเป้าหมายให้บ้านเมืองราบรื่น และปรองดอง เอาความสุขกลับคืนมา มีความยุติธรรม และนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยขณะนี้ชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ท่านเข้าสู่อำนาจด้วยวิธีที่สง่างามกว่านายอภิสิทธิ์ เพราะชนะเลือกตั้งทั่วไปด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นและเป็นสิ่งที่ประชาธิปัตย์ไม่คุ้นเคย
นายนพดลระบุด้วยอีกว่า รัฐบาลแถลงนโยบายที่จะทำงานเพื่อประชาชนตามสัญญาที่หาเสียงไว้ และกำลังฟื้นฟูประเทศเพื่อคนไทยทุกคน ยังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษก็ไม่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และท่านไม่ได้ประโยชน์แต่อย่างใด ส่วนการคืนพาสปอร์ตก็ยังไม่ได้ดำเนินการ และถ้าจะดำเนินการในอนาคต ก็คงจะดำเนินการตามกฏหมายและระเบียบ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องกังวลใจ และขอให้ประชาชนสบายใจว่า ความเร่งด่วนของรัฐบาลคือการแก้ปัญหาให้ประชาชน พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่ยอมให้รัฐบาลเอาเวลามาแก้ปัญหาให้ท่านเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ทุกมาตรการและทุกนโยบายจะทำเพื่อประชาชน สภาพการเมืองในปัจจุบันน่าจะเอื้อต่อการทำงาน เพราะมีฝ่ายค้านมืออาชีพที่เข้มแข็งคอยตรวจสอบ รัฐบาลจะได้ระมัดระวังในการทำงาน
