xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เงา จี้รัฐแจงแผนฟื้นฟูน้ำท่วม กมธ.วิฯ งบปี 55

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรีเงา
โฆษก ปชป.เผย ครม.เงาจี้รัฐแจงรายละเอียดแผนฟื้นฟูต่อ กมธ.วิฯ งบปี 55 งงประวิงเวลาประชุม ครม.พิเศษไม่ชง กมธ.พิจารณา ถามจงใจเลี่ยงสอบหรือไม่ ซัดไร้มาตรการแก้ขยะ-โรคหลังน้ำลด พร้อมเปิดโครงการรับขนกระสอบทรายเก่าไปช่วยจุดน้ำท่วมอื่น ชี้ข่าวยุ่นถอนเงินช่วยนิคมอุตฯ ส่อประจานรัฐขาดประสานงาน ซ้ำไร้แผนป้องกันทำนักลงทุนส่ายหน้า คาดเบี้ยประกันภัยปีหน้าสูงขึ้น ฉะอนุมัติช่วยแรงงานนอกระบบแต่ไร้งบ

วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเงาของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ครม.เงาได้มีการติดตามมติ ครม.ของรัฐบาลชุดนี้ โดยมีการพิจารณาเรื่องกของอุทกภัยและมาตรการเยียวยา ฟื้นฟู โดย ครม.เงามีการตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้การประชุมคณะกรรมการธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ยังมีการดำเนินการอยู่ ซึ่งรัฐบาลควรนำแผนการใช้เงิน รายละเอียดของโครงการ และจำนวนงบประมาณที่ต้องใช้เยียวยา ฟื้นฟูสาธารณูปโภคต่างๆ อาคาร สถานที่ราชการ ที่วางแผนไว้นั้นมายัง กมธ.งบประมาณฯ เพื่อเปิดโอกาสให้สภาได้ตรวจสอบการใช้เงินของรัฐบาลชุดนี้ แม้ว่ารัฐบาลตั้งใจที่จะใช้งบกลาง 1.2 แสนล้านบาท เราเห็นว่าทางที่ดีที่สุดในการใช้งบประมาณอย่างรอบคอบ ไม่รั่วไหลคือการเอาเงินนั้นกลับมาให้กมธ.งบประมาณได้ดูรายละเอียดของโครงการต่างๆ

นายชวนนท์กล่าวต่อว่า เมื่อรัฐบาลมีรายละเอียดโครงการต่างๆ ตามที่ได้กล่าวอ้างนั้น ทำไมถึงประวิงเวลาไปนัดประชุม ครม.นัดพิเศษเพื่อพิจารณาเรื่องนี้อีก ทำไมถึงไม่ส่งเรื่องนี้ให้ กมธ.งบประมาณฯ ได้พิจารณาทันที หรือจงใจที่จะทำให้ กมธ.งบประมาณฯ ทำงานเสร็จสิ้นก่อน รัฐาลจึงจะหยิบรายละเอียดของโครงการเหล่านี้มาพิจารณา เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของ กมธ.ตามข้อเสนอของฝ่ายค้านใช่หรือไม่ ดังนั้น อยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลอยากให้มีความระมัดระวังในการใช้เงินงบประมาณ และตัดสินใจส่งแผนการเยียวยา ฟื้นฟูนี้ไปให้ กมธ.งบประมาณฯ ได้ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า รัฐบาลชุดนี้พยายามสร้างภาพว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ถูกน้ำท่วมกำลังกลับสู่สภาวะปกติ และมุ่งเรื่องการเยียวยาฟื้นฟู แต่ข้อเท็จจริงนั้นปัญหาที่มาหลังจากน้ำลด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกระสอบทรายที่ถูกทิ้ง ปริมาณขยะที่เพิ่มสูงขึ้น เรื่องของโรคระบาด หรือสัตว์อันตรายต่างๆ ดูเหมือนจะไม่มีมาตรการออกมาดูแลและป้องกันที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลได้ดูในรายละเอียดการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ดูแลเรื่องความสะอาด การเก็บถุงทราย การกำจัดยุงลาย สิ่งเหล่านี้จะเป็นการยืนยันเรื่องความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้กลับไปพักอาศัยในบ้านเรือนของตนเอง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยระบุว่า มีโครงการที่จะรับบริจาคกระสอบทรายที่ไม่ได้ใช้แล้จะส่งไปยังพื้นที่ที่น้ำยังท่วมขังอยู่ เอาไปกั้นเพื่อสูบน้ำออก โดยพื้นที่แรกที่จะนำกระสอบทรายไปให้คือ หมู่บ้านชวนชื่นปาร์ควิวในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) เพื่อนำไปเป็นคันกั้นแล้วสูบน้ำออกจากหมู่บ้าน ดังนั้น อยากจะเตือนรัฐบาลว่าอย่ามองแต่ภาพใหญ่อย่างเดียว อยากให้ดูจุดเล็กน้อย รายละเอียดต่างๆ ให้ความสำคัญกับประชาชนในการแก้ไขปัญหา

ส่วนของการเยียวยา ฟื้นฟูในภาคอุตสาหกรรมนั้น นายชวนนท์กล่าวว่า ขณะนี้เราเป็นห่วงเรื่องความเชื่อมั่นในการลงทุนจากต่างชาติ หลังจากมีข่าวว่าไจก้าถอนการให้เงินช่วยเหลือในการทำคันกั้นน้ำนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นอีกตัวอย่างที่รัฐบาลขาดการประสานงานที่ชัดเจน ขาดการให้ข้อมูลที่ต่อเนื่อง เพราะทางรัฐบาลญี่ปุ่นระบุเองว่ายังไม่มีการประสานข้อมูลหรือทำความเข้าใจในการใช้เงินไปทำคันกั้นน้ำ จึงมีการชะลอเรื่องดังกล่าวออกไปก่อน ซึ่งเมื่อข่าวออกมาเช่นนี้ก็สร้างความเสียหายให้แก่ภาพรวมอุตสาหกรรมของประเทศว่าต่างชาติไม่ให้ความมั่นใจ ชะลอการช่วยเหลือหรือการลงทุน ซึ่งจากการที่เราได้พบปะกับนักลงทุนที่ผ่านมาคือ แผนการลงทุนในการป้องกันน้ำท่วมของรัฐบาลในปีหน้ายังไม่มีความชัดเจน หรือแม้แต่ไม่มีแผนการป้องกัน ดังนั้น การที่จะมาสร้างคันกั้นน้ำให้นิคมอุตสาหกรรมตัวอย่างเขาอาจจะไม่ทำ เพราะถ้าไปสร้างคันกั้นน้ำให้นิคมตัวเอง นิคมของเขาก็จะมีปัญหากับชุมชนโดยรอบ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาชะลอการช่วยเหลือคือ ถ้าจะแก้ปัญหาแบบนี้ใครมีเงินก็มาลงทุนกันเอง ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่เป็นสากล แต่เขาต้องการเห็นการแก้ไขปัญหาการป้องกันน้ำท่วมที่มาจากต้นน้ำก่อนจะมาถึง กทม. จึงอยากฝากไปยังรัฐบาลว่าตราบใดที่ยังไม่มีแผนป้องกันระยะยาวที่ชัดเจนครบวงจร การให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนคงทำไม่ได้ เพราะมีหลายบริษัทไม่มีความเชื่อมั่น ล่าสุดบริษัทซัมซุงก็ออกมาพูดถึงเรื่องความไม่ชัดเจนในเรื่องของมาตรการช่วยเหลือด้วย

นายชวนนท์กล่าวว่า ส่วนของมาตรการภาษีที่จะมาช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ครม.เงาเห็นว่าอยากให้รัฐบาลได้ทำความชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนภาษีที่จะลดให้กับบริษัทใดบ้าง ระยะเวลาเท่าไหร่ ปริมาณนำเข้าที่จะมาชดเชยสินค้าหรือวัถุดิบที่เสียหายจะทำได้มากน้อยเพียงใด สิ่งสำคัญ คือ รัฐบาลต้องออกมาตรการเหล่านี้บนความเท่าเทียมกันของทุกบริษัท เพราะขณะนี้มีข่าวลือว่า การออกมาตรการฟื้นฟูอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีการไปล็อกสเปกให้กับบยริษัทใหญ่ๆ เพราะถ้าไปดูในเงื่อนไขบางข้อ บางบริษัทไม่เข้าข่าย แต่เงื่อนไขบางข้อมีบริษัทเดียวเท่านั้นในประเทศไทยที่เข้าข่ายจะได้รับสิทธินี้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่จะช่วยเรื่องความเชื่อมั่นให้กลับมา

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ในส่วนของเรื่องประกันภัย เราได้รับการประสานงานมาว่าบริษัทประกันภันยักษ์ใหญ่ของโลกขาดความเชื่อมั่นในการกลับมาให้บริการกับลูกค้าที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ เบี้ยประกันจะเพิ่มสูงขึ้นจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการที่รัฐบาลไทยจะออกไปทำความเข้าใจ ชี้แจงมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก ไม่ใช่ไปต่างชาติ ไม่มีเอกสารอะไรถือไปแล้วบอกเขาว่า ปีหน้าน้ำไม่ท่วมอีกแน่นอน เขาก็บอกว่ากลับมาใหม่เมื่อคุณมีความพร้อมมากกว่านี้ดีกว่า

“เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นคือ เบี้ยประกันจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากแน่นอนในปีหน้า หรือหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นอาจจะไม่มีบริษัทประกันภัยรับทำประกันบริษัทที่มาลงทุนในประเทศไทยเลยก็เป็นได้ ซึ่งรัฐบาลต้องมีมาตรการต่างๆ อาจจะทำเหมือนประเทศญี่ปุ่นที่รัฐบาลต้องออกมารับประกันภัยต่อให้กับบยริษัทเอกชน เพื่อลดภาระให้กับบริษัทประกันภัยเหล่านี้ ซึ่งรัฐบาลต้องรีบพิจารณาว่าจะดำเนินการหรือไม่ อย่างไร เพราะต้องมีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตั้งงบประมาณรองรับ เราอยากเห็นรัฐบาลคิดอะไรที่ครบวงจร ไม่ใช่แก้ปัญหาไปวันๆ แล้วใช้คำพูดหลอกลวง บิดเบือนข้อเท็จจริงภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้วยังเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ด้วย” นายชวนนท์กล่าว

นายชวนนท์กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดูแลแรงงานนอกระบบนั้น รัฐบาลเมื่อวานมีมติ ครม.เห็นชอบเรื่องของแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ พ.ศ. 2555-2559 ซึ่งเป็นแผนของยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้มีการเตรียมไว้ที่จะมีการดูแลแรงงานนอกระบบที่มีกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของประเทศให้ได้รับสิทธิประโยชน์ ประกันสังคมเท่าเทียมกับแรงงานในระบบ แต่น่าเสียดายคือ รัฐบาลนี้ไม่แสดงออกถึงความจริงใจในการดูแลประชาชน เพราะรัฐบาลยังไม่ได้ยืนยันกฎหมายฉบับดังกล่าวต่อสภาฯ แม้จะเห็นชอบใน ครม.ก็ยังไม่มีผลในทางปฏิบัติใดๆ ได้ รวมทั้งการเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์นี้ยังไม่มีการเห็นชอบงบประมาณในการดำเนินการเลย ดังนั้น แรงงานนอกระบบทุกคนจะไม่ได้รับการดูแลที่เท่าเทียม เพราะรัฐบาลเห็นชอบแต่ชื่อและหลักการ แต่เงินหรือกฎหมายที่จะมารองรับการปฏิบัติเหล่านี้ไม่ได้รับการใส่ใจจากรัฐบาลชุดนี้เลย จึงถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง


นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
กำลังโหลดความคิดเห็น