กรณีเฟซบุ๊ก ยิ่งลักษณ์ พลาดคราวนี้ “หนูไม่รู้” ไม่ได้แล้ว!!

ผ่าประเด็นร้อน

กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีสำหรับกรณีที่เฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อ้างว่าเกิดความผิดพลาดกรณีเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันมหามงคล 5 ธันวาคม แต่กลายเป็นว่าเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ปรากฏขึ้นมา สร้างความมึนงงสงสัยขึ้นมาอีกครั้งว่าเป็นแบบนี้ได้อย่างไร

กลายเป็นคำถามว่ามันเป็นความผิดพลาด หรือจงใจกันแน่ หรือว่าต้องการให้เห็นว่าเป็น “ความผิดพลาดแบบจงใจ” หรือไม่

และคำถามสุดท้ายก็คือ คนที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำประเทศ หากยืนยันว่านี่คือความผิดพลาดแล้วทำไมถึงได้ผิดพลาดได้ถึงเพียงนี้

แม้ว่าตอนนี้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ กำลังให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษก็ตาม แต่ถึงอย่างไรกรณีที่เกิดขึ้นมันยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นอีกหลายอย่างตามมา

อย่างแรกก็คือ หน้าเฟซบุ๊กถือว่าเป็นของส่วนตัว ทุกข้อความ ทุกภาพย่อมหมายความว่าเจ้าของ ซึ่งในที่นี้ย่อมหมายถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นคนทำขึ้นเอง แม้ว่าในความเป็นจริงที่ผ่านมาหลายเรื่องมักมี “ทีมงาน” คอยจัดการ คอยเขียนและบอกบทให้อยู่เป็นประจำแล้วก็ตาม แต่ถึงอย่างไรเป็นเรื่องที่เจ้าของจะต้องรับไปเต็มๆ และที่ผ่านมาเธอก็มักโพสต์ข้อความแสดงความเห็นขึ้นเฟสบุ๊กอยู่เป็นประจำ ซึ่งหลายครั้งก็มีเสียงวิจารณ์ตามมาว่าเป็นการหลีกเลี่ยงการโต้ตอบกับนักข่าวที่ซักไซ้จนเกิดความอึดอัดในการตอบคำถาม

หากความผิดพลาดคราวนี้เป็นเพราะ “ทีมงานผิดพลาด” อีก นั่นก็หมายความว่าข้อความที่เคยโพสต์ขึ้นมาเป็นคำพูดของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ใช่เป็นความคิดของเธอ แต่คนอื่นจัดให้มาตลอดอย่างนั้นหรือไม่

แม้ว่าที่ผ่านมาหลายคนแทบจะไร้ข้อกังขาเมื่อได้เห็นความจริงจากการพิสูจน์ให้เห็นหลายครั้งว่าเธอมีปัญหาในเรื่องสติปัญญา ขาดความรู้รอบตัวขั้นพื้นฐาน จนไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำประเทศ ที่สำคัญมันเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่งที่ประเทศชาติจะต้องเสียประโยชน์และเสียโอกาสหากยังดำรงตำแหน่งอยู่ต่อไป อีกทั้งยังเป็นไปได้ว่าเธอจะถูกใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มคนไม่หวังดีที่อยู่รอบตัวมาครอบงำ

เป็นที่รับรู้กันอยู่แล้วว่า ในกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนับสนุนทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของเธอและนับว่าเป็นเจ้าของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย มีอยู่ไม่น้อยที่มีพฤติกรรมจาบจ้วงหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมไปถึงพี่ชายของเธอด้วยที่มีท่าทีและคำพูดส่อไปในทางไม่เคารพสถาบันฯคนเหล่านี้อาจเข้ามาอิงแอบเพื่อกระทำการอันไม่บังควรบ่อนเซาะทำลาย

แม้ว่าคราวนี้ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ยังไม่ได้ออกมาอธิบายว่ามีความผิดพลาดจากสาเหตุใดให้ชัดเจน แต่ไม่ว่ามาจากสาเหตุใดก็ตามถือว่าอันตรายไม่ต่างกัน นั่นคือ หากกรณีแรกเป็น “ทีมงานผิดพลาด” ก็ยิ่งชวนให้คิดไปไกลว่าต้องมีพวก “ต้องการล้มเจ้า” เข้ามาอยู่ข้างกาย ยิ่งลักษณ์ ไม่น้อยแน่นอน เพราะเมื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้แล้วการค้นหาพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความพยายามไม่น้อย และหากบอกว่ามีความสับสนก็ฟังไม่ขึ้นแน่นอน ขณะเดียวกัน หากเป็นฝีมือของเธอเองก็ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะคนระดับนายกรัฐมนตรียัง “ไม่รู้จัก” ได้ถึงเพียงนี้ นั่นก็ย่อมหมายถึงความรู้รอบตัวและสติปัญญาอ่อนด้วย ไม่สมควรเป็นผู้นำจริงๆ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่หลายคนตั้งข้อสังเกตและเชื่อมั่นก็คือ นี่คือความ “จงใจให้ผิดพลาด” หรือ “ผิดพลาดแบบจงใจ” ก็สุดแล้วแต่ ความหมายก็คือให้ชาวบ้านมีการพูดถึง “กรณีรัชกาลที่ 8” กันแบบปากต่อปากมากขึ้นหรือไม่ นี่คือปริศนาที่ซ่อนอยู่ข้างในหรือไม่ หากเป็นแบบนี้ถือว่าโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างยิ่ง เพราะเป็นการลงมือในช่วงวันมหามงคลวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันที่พสกนิกรคนไทยกำลังปลื้มปีติและมีความสุข

ความผิดปกติดังกล่าวไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใดก็ตาม เป็นเรื่องที่สมควรตำหนินายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างยิ่ง เพราะเป็นความผิดพลาดซ้ำซากและต่อเนื่องจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ พูดผิดพูดถูก พูดภาษาไทยไม่ได้เรื่อง ภาษาอังกฤษก็ไม่เข้าท่า ขาดความรู้รอบตัว ซึ่งที่ผ่านมาพอกัดฟันอภัยให้ได้บ้าง แต่กรณีที่เกิดขึ้นกับพระบรมฉายาลักษณ์ดังกล่าวถ้าพิจารณากันแบบไม่ต้องคิดอะไรมากว่าเป็นความสะเพร่าเลินเล่อคงไม่ได้ เพราะอีกมุมหนึ่งก็ต้องพิจารณาในมุมกลับกันว่าถ้าคนระดับผู้นำประเทศผิดพลาดในเรื่องแบบนี้แล้วเรื่องอื่นๆที่มีความละเอียดซับซ้อน มันจะเสียหายขนาดไหน

ดังนั้น กรณีที่เกิดขึ้นเป็นภาพสะท้อนความไม่เหมาะสมของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรสำหรับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะสามารถผิด และผิดพลาดได้ในเกือบทุกเรื่อง ทำให้ชาวบ้านต้องมานั่งลุ้นกันว่าวันนี้จะมีอะไรให้ต้องตำหนิติติงกันอีกหรือไม่ แต่ถ้าไม่ไหวจริงก็ไปเสียเถอะ อย่าทรมานตัวเองอีกเลย!!