xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.จี้สอบเฟซบุ๊ก “ปู” โพสต์พระบรมฉายาลักษณ์ผิด แนะเลิกใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธาน กมธ.พิทักษ์สถาบัน วุฒิสภา จี้ นายกฯ ลงโทษทีมงานโพสต์พระบรมฉายาลักษณ์ผิดลงเฟซบุ๊ก ชี้ให้อภัยไม่ได้ แต่เชื่ออาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ชี้ ทำถูกแล้วขอพระราชทานอภัยโทษ แต่แนะเลิกใช้โซเชียลมีเดีย ดีที่สุด ด้าน ปธ.กมธ.จริยธรรม แนะรัฐพึงระวัง จี้ “ยิ่งลักษณ์” ขอโทษประชาชน สับ “บัณฑูร” โบ้ยออแกไนเซอร์ไร้เหตุผล ชี้ รัฐต้องสอบสวน

วันนี้ (5 ธ.ค.) พญ.พรพันธุ์ บุญยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่เว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่ข้อความ “5 ธันวา รวมพลังคนไทย รวมหัวใจถวายพระพรชัยมงคล” แต่ภาพประกอบกลับเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล (รัชกาลที่ 8) ว่า หากพูดในแง่ของคนธรรมดา ก็อาจมีความผิดพลาดขึ้นได้ แต่คิดว่า การมาทำงานในระดับชาติ ควรระมัดระวังมากกว่านี้ และหากเป็นความผิดพลาดของทีมงานหรือออแกไนเซอร์ ก็ควรจะปลดผู้ที่เกี่ยวข้องออกทั้งหมด ถือเป็นความบกพร่องของทีมงานไม่สามารถให้อภัยได้

พญ.พรพันธุ์ กล่าวต่อว่า ความผิดพลาดครั้งนี้ ตนไม่อยากมองให้มากมายไปกว่านี้ และเห็นว่าอาจเป็นความผิดพลาดของทีมงานจริงๆ ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และอาจจะเป็นเด็กสมัยใหม่ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แยกแยะความแตกต่างของทั้ง 2 พระองค์ไม่ได้ อย่างตนเองก็พยายามดูภาพนี้เช่นกัน ยอมรับว่า ทั้ง 2 พระองค์ในช่วงทรงพระเยาว์ดูคล้ายกันมาก ไม่อยากมองว่ามีเจตนาอื่น เพราะหากเป็นเจตนาจริงๆ ก็คงนึกไม่ออกว่ามีวัตถุประสงค์อย่างไร หรือคนที่ทำคิดได้อย่างไร อยากให้ทุกฝ่ายมองว่า เป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของ กมธ.ปกป้องสถาบันฯ จะมีการดำเนินการสอบสวนในกรณีนี้ด้วยหรือไม่ พญ.พรพันธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้กำหนด แต่คาดว่าในการประชุมครั้งต่อไปอาจจะมี กมธ.บางคนนำประเด็นขึ้นมาหารือ ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่ามีความเห็นอย่างไร ส่วนตัวมองว่ากรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มีหนังสือกราบเรียนราชเลขาธิการ เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษในข้อผิดพลาดดังกล่าวนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นการแสดงความรับผิดชอบในระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนตั้งข้อสังเกตว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ชี้แจงกรณีนี้ต่อสาธารณชน อาจเป็นเพราะตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น มองมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเรื่องนี้ไม่ควรนำมาพูดมาก หากคุ้ยเขี่ยมากก็อาจจะไปกันใหญ่ แต่ก็ขอให้นายกฯ และทีมงานระมัดระวังให้มากกว่านี้ในอนาคต

“เห็นว่า นายกฯควรจะเลิกใช้เฟซบุ๊ก หรือสื่อออนไลน์ดีกว่า เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าอ่อนด้อยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ทำงานในระดับชาติ ปล่อยเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งนี้ ไม่อยากมองว่าเป็นเจตนา เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ไม่รู้ว่าคิดได้อย่างไร” พญ.พรพันธุ์ ระบุ

ด้าน นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา กล่าวว่า ต่อไปรัฐบาลต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะกิจกรรมเทิดพระเกียรติต่างๆ ที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกิด และแม้รัฐบาลจะขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้ว แต่ต่อไปต้องระวัง และถือว่ายังไม่พอ นายกฯควรออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษกับประชาชนด้วย ที่จริงเรื่องผิดพลาดแบบนี้เป็นเรื่องน่าละอาย และที่ นายบัณฑูร สุภัควณิช เลขาธิการนายกฯ ออกมาอ้างว่า นายกฯไม่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นการดำเนินการของออแกไนเซอร์ที่ว่าจ้างมาดูแลเฟซบุ๊กนั้น ไม่น่าอ้างขนาดนี้ ถือเป็นการซัดทอดให้ออแกไนเซอร์ ทั้งที่ในการพิจารณาจ้าง คนที่ว่าจ้างก็ต้องเลือกออแกไนเซอร์ที่มีประสบการณ์และความรู้ด้วย ไม่ใช่พอผิดพลาดแล้วโบ้ยคนอื่น จึงเป็นคำแก้ตัวที่ไม่สมเหตุสมผลกับเหตุที่เกิดขึ้น

“เรื่องนี้ต้องรับผิดชอบกันด้วย เพราะพลาดกันตลอด ตัวนายกฯเองมีเรื่องพลาดทุกสัปดาห์ และเรื่องน่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะปล่อยผ่านไป โดยเฉพาะเมื่อมาเกิดในช่วงวโรกาสสำคัญ รัฐบาลคงต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อแสดงความรับผิดชอบ หรือออแกไนเซอร์ดังกล่าวต้องออกมาชี้แจงว่าไปเอาภาพมาจากไหน เหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าออแกไนเซอร์ชี้แจงไม่ได้ รัฐบาลต้องเป็นคนแจง เพราะประชาชนยังเกิดข้อสงสัยและกังขากันมาก และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอีกในอนาคต ทั้งนี้ ในส่วนของ ส.ว.ยังไม่ได้หารือกันเพราะเป็นช่วงวันหยุด คาดว่า ในวันที่ 6 ธ.ค.ซึ่งเปิดทำการแล้ว จะได้พูดคุยกัน” นางตรึงใจ ระบุ

นางตรึงใจ กล่าวถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยเรื่องบริหารจัดการน้ำและความแตกแยกของคนในชาติ ว่า ถือเป็นพระราชดำรัสที่มาจากความห่วงใยในพระราชหฤทัยของพระองค์ต่อสิ่งต่างๆ เหล่านี้ นอกจากนี้ ในพระราชพิธีที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวปฏิญาณถวายต่อหน้าพระพักตร์นั้น สะดุดตรงคำที่ทหารใช้คำว่า จะยอมตายเพื่อปกป้อง ซึ่งปกติทหารจะใช้คำว่าสละชีพ จึงเป็นการแสดงความรู้สึกออกจากใจอย่างเต็มที่ว่าเหล่าทัพจะไม่ยอมให้มีอะไรมาระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น