00 เพิ่งยืนยันความจริงออกมาจากการกระทำของตัวเองว่า สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เป็น รมว.ส่วนตัวของ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น เพราะเพราะถ้าสำรวจผลงานตลอดที่อยู่ในตำแหน่งมานานกว่าสามเดือน ล้วนแล้วแต่ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของทักษิณ ไม่ต่างจาก “ลูกน้อง” ที่รับใช้ “เจ้านาย” ไม่สนใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำหรือคิดที่จะทำต่อไปนั้น มันจะสร้างความรู้สึกทุเรศให้กับชาวบ้านหรือไม่
00 การบอกว่าจะใช้อำนาจรัฐมนตรีทุกทางเท่าที่จะทำได้ เพื่อหาทางคืนหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต) ให้กับ ทักษิณ โดยพูดไม่อายปากอย่างภูมิใจว่า “มอบเป็นของขวัญปีใหม่” ให้ พร้อมทั้งคุยโตว่า ตัวเองมีผลงานมากมาย ได้ยินแล้วแทบจะอ๊วก เช่น บอกว่าตัวเองเดินทางไปเยือนประเทศโน้นประเทศนี้มากมาย ก็แหงละ การเป็น รมว.ต่างประเทศ ก็ต้องเดินทางไปเยือนต่างประเทศเป็นเรื่องปกติ แต่คำถามก็คือ สาระต่างหากว่ามีมั๊ย ดีที่ไม่บอกว่า “ตัวเองพูดภาษาอังกฤษได้ตั้งหลายคำ” ทุด !!
00 หลายคนได้วิจารณ์กันไปมากแล้วว่า ท่าทีของ “อ้ายปึ้ง” ดังกล่าว เพียงเพื่อสร้างกระแสให้ “เข้าตานาย” เนื่องจากมีข่าวว่าเป็นหนึ่งในรมต.ที่อยู่ในข่าย “ถูกเด้งสังเวย” หากมีการปรับครม.ในต้นปีหน้า เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจรักษาตำแหน่งของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะน้องสาวเจ้าของบริษัทเอาไว้อีกระยะหนึ่ง แม้ว่าหากพิจารณาโดยภาพรวมแล้ว “ห่วยแตก” ทั้งคณะ ตั้งแต่หัวหน้ายันลิ่วล้อปลายแถว
00 คำถามก็คือ สุรพงษ์ ใช้อำนาจอะไรไปคืนพาสปอร์ตให้แม้ว ในฐานะที่เป็นนักโทษหนีคดี หนีหมายจับ เพราะหาก “เจ้าพนักงาน” ปฏิบัติหน้าที่ชุ่ยๆ แบบนี้ มันก็สมควรแล้วที่จะต้องถูกดำเนินคดีให้สาสม ข้ออ้างที่ว่า ทีคนอื่นโดนคดีร้ายแรงกว่า เช่น วัฒนา-กำนันเป๊าะ ก็ยังไม่ยึดพาสปอร์ต การพูดได้แบบนี้มันก็ยิ่งไม่สมควรเป็นรมว.ต่างประเทศ เพราะทั้งมั่ว ทั้งบิดเบือน รู้หรือไม่ว่า ทั้งคู่นั้นไม่ต้องยึดหรอกเพราะมันหมดสภาพไปแล้ว อีกทั้งพาสปอร์ตแบบธรรมดานั้นมันต้องต่ออายุตามกำหนด และต้องพิสูจน์ประวัติอาชญากรอย่างละเอียด คนพวกนี้มีคุณสมบัติหรือเปล่าล่ะ
00 จะเรียกว่าความชุ่ย หรือว่าจงใจก็สุดจะเหลือเดา กับกรณีของเฟซบุ๊ก ส่วนตัวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ขึ้นข้อความถวายพระพรพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันมหามงคลในวันที่ 5 ธ.ค. แต่ดันไปขึ้นพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 8 ( สมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ) มันก็ทำให้อดคิดไปได้ต่างๆ นานา อาจเป็นความชุ่ย ความด้อยปัญญาของ ยิ่งลักษณ์ ที่เคยแสดงให้เห็นอยู่ตลอดเวลา หรือว่าเป็นความ “จงใจ” อย่างที่มีคนตั้งข้อสังเกตไว้ เนื่องจากต้องการให้สังคมพูดถึง “กรณีของ ร.8” ให้ขยายวงกว้างออกไป เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว การค้นหาพระบรมฉายาลักษณ์แบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีความตั้งใจสูงไม่น้อย อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ก็ไม่ควรให้อภัย
00 ดังนั้นถ้าพิจารณากันแบบซับซ้อน มันก็ย่อมไม่ธรรมดา และถ้าเป็นแบบนั้นจริงมันก็ต้องมีทีมงานดำเนินการกันอย่างเป็นขบวนการ ส่วนจะเป็น “ขบวนการล้มเจ้า” หรือไม่พี่น้องทั้งหลายที่มีสติปัญญาก็ลองติดตามกันต่อไปแล้วกัน !!
00 เวลานี้แทบทุกพื้นที่ในภาพรวมถือว่าระดับน้ำเริ่มลดลงเรื่อยๆ หลายพื้นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ขอโทษที่น้ำแห้งแบบนี้ส่วนสำคัญก็คือ “แห้งโดยธรรมชาติ” ไม่ใช่เป็นฝีมือที่เอกอุของ ศปภ.แต่อย่างใด มันก็แน่นอนอยู่แล้วที่เวลานี้กำลังอยู่ในช่วงหน้าแล้ง หน้าหนาว อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าหน้าฝนใหม่อีกแล้ว มันเป็นไปได้อย่างไรน้ำท่วมขังอยู่สองสามเดือน ขณะที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ กำลังทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ. ก็เตรียมปิด “ศูนย์อัปยศ” ดังกล่าวในเร็วๆ นี้ อ้างเสร็จภารกิจตามเป้าหมาย มองอีกมุมไม่ต่างจาก “สะบัดก้น”หนีไป เวรกรรม
00 การบอกว่าจะใช้อำนาจรัฐมนตรีทุกทางเท่าที่จะทำได้ เพื่อหาทางคืนหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต) ให้กับ ทักษิณ โดยพูดไม่อายปากอย่างภูมิใจว่า “มอบเป็นของขวัญปีใหม่” ให้ พร้อมทั้งคุยโตว่า ตัวเองมีผลงานมากมาย ได้ยินแล้วแทบจะอ๊วก เช่น บอกว่าตัวเองเดินทางไปเยือนประเทศโน้นประเทศนี้มากมาย ก็แหงละ การเป็น รมว.ต่างประเทศ ก็ต้องเดินทางไปเยือนต่างประเทศเป็นเรื่องปกติ แต่คำถามก็คือ สาระต่างหากว่ามีมั๊ย ดีที่ไม่บอกว่า “ตัวเองพูดภาษาอังกฤษได้ตั้งหลายคำ” ทุด !!
00 หลายคนได้วิจารณ์กันไปมากแล้วว่า ท่าทีของ “อ้ายปึ้ง” ดังกล่าว เพียงเพื่อสร้างกระแสให้ “เข้าตานาย” เนื่องจากมีข่าวว่าเป็นหนึ่งในรมต.ที่อยู่ในข่าย “ถูกเด้งสังเวย” หากมีการปรับครม.ในต้นปีหน้า เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจรักษาตำแหน่งของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะน้องสาวเจ้าของบริษัทเอาไว้อีกระยะหนึ่ง แม้ว่าหากพิจารณาโดยภาพรวมแล้ว “ห่วยแตก” ทั้งคณะ ตั้งแต่หัวหน้ายันลิ่วล้อปลายแถว
00 คำถามก็คือ สุรพงษ์ ใช้อำนาจอะไรไปคืนพาสปอร์ตให้แม้ว ในฐานะที่เป็นนักโทษหนีคดี หนีหมายจับ เพราะหาก “เจ้าพนักงาน” ปฏิบัติหน้าที่ชุ่ยๆ แบบนี้ มันก็สมควรแล้วที่จะต้องถูกดำเนินคดีให้สาสม ข้ออ้างที่ว่า ทีคนอื่นโดนคดีร้ายแรงกว่า เช่น วัฒนา-กำนันเป๊าะ ก็ยังไม่ยึดพาสปอร์ต การพูดได้แบบนี้มันก็ยิ่งไม่สมควรเป็นรมว.ต่างประเทศ เพราะทั้งมั่ว ทั้งบิดเบือน รู้หรือไม่ว่า ทั้งคู่นั้นไม่ต้องยึดหรอกเพราะมันหมดสภาพไปแล้ว อีกทั้งพาสปอร์ตแบบธรรมดานั้นมันต้องต่ออายุตามกำหนด และต้องพิสูจน์ประวัติอาชญากรอย่างละเอียด คนพวกนี้มีคุณสมบัติหรือเปล่าล่ะ
00 จะเรียกว่าความชุ่ย หรือว่าจงใจก็สุดจะเหลือเดา กับกรณีของเฟซบุ๊ก ส่วนตัวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ขึ้นข้อความถวายพระพรพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันมหามงคลในวันที่ 5 ธ.ค. แต่ดันไปขึ้นพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 8 ( สมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ) มันก็ทำให้อดคิดไปได้ต่างๆ นานา อาจเป็นความชุ่ย ความด้อยปัญญาของ ยิ่งลักษณ์ ที่เคยแสดงให้เห็นอยู่ตลอดเวลา หรือว่าเป็นความ “จงใจ” อย่างที่มีคนตั้งข้อสังเกตไว้ เนื่องจากต้องการให้สังคมพูดถึง “กรณีของ ร.8” ให้ขยายวงกว้างออกไป เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว การค้นหาพระบรมฉายาลักษณ์แบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีความตั้งใจสูงไม่น้อย อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ก็ไม่ควรให้อภัย
00 ดังนั้นถ้าพิจารณากันแบบซับซ้อน มันก็ย่อมไม่ธรรมดา และถ้าเป็นแบบนั้นจริงมันก็ต้องมีทีมงานดำเนินการกันอย่างเป็นขบวนการ ส่วนจะเป็น “ขบวนการล้มเจ้า” หรือไม่พี่น้องทั้งหลายที่มีสติปัญญาก็ลองติดตามกันต่อไปแล้วกัน !!
00 เวลานี้แทบทุกพื้นที่ในภาพรวมถือว่าระดับน้ำเริ่มลดลงเรื่อยๆ หลายพื้นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ขอโทษที่น้ำแห้งแบบนี้ส่วนสำคัญก็คือ “แห้งโดยธรรมชาติ” ไม่ใช่เป็นฝีมือที่เอกอุของ ศปภ.แต่อย่างใด มันก็แน่นอนอยู่แล้วที่เวลานี้กำลังอยู่ในช่วงหน้าแล้ง หน้าหนาว อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าหน้าฝนใหม่อีกแล้ว มันเป็นไปได้อย่างไรน้ำท่วมขังอยู่สองสามเดือน ขณะที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ กำลังทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ. ก็เตรียมปิด “ศูนย์อัปยศ” ดังกล่าวในเร็วๆ นี้ อ้างเสร็จภารกิจตามเป้าหมาย มองอีกมุมไม่ต่างจาก “สะบัดก้น”หนีไป เวรกรรม