“ส.ว.ตวง” ชี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ผ่าน 3 เดือน ทำงานไม่เป็นรูปธรรม คาด ปัญหาพรรค, น้ำท่วม ยังไม่เห็นแก้ไขไม่แก้แค้น ให้โอกาสอีก 3 เดือน พิสูจน์ตัว แนะน้อมนำพระบรมราโชวาทใส่เกล้า จี้ “ปู” อ่านมากๆ จะได้รอบรู้ ด้าน “ทนายวันชัย” แนะพักเรื่อง “ทักษิณ” สร้างสามัคคี แสดงภาวะผู้นำ, ปรับ ครม.ขณะที่ “ส.ว.อนุรักษ์” แนะเร่งเยียวยาผู้ประสบภัย วางแผนป้องกันน้ำท่วม
วันนี้ (5 ธ.ค.) นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา กล่าวแสดงความเห็นต่อการบริหารราชการของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ที่ใกล้จะเข้าสู่การทำงานในรอบ 3 เดือน หลังจากที่ได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 10 ส.ค.54 ว่า หากประเมินการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา ตามกรอบนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อที่ประชุมรัฐสภา รวมถึงนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่สามารถทำงานให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปรับตัวภายในพรรคเพื่อไทย และกรณีที่รัฐบาลต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ โดยที่ผ่านมารัฐบาลยังคงเดินตามแนวทางของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำมา เช่น การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ด้วยการตั้งคณะกรรมการ ลงพื้นที่บริจาคสิ่งของ ปล่อยคาราวานช่วยประชาชน เป็นต้น โดยไม่ได้ทำสิ่งที่นายกฯ ได้ระบุกับประชาชนว่า ไม่แก้แค้น แต่จะแก้ไข
“ผมอยากให้กำลังใจนายกฯ เพราะเมื่อเข้ามาบริหารประเทศ ก็เจอกับปัญหาใหญ่ จนรัฐบาล หรือรัฐมนตรีไม่สามารถเตรียมตัวแก้ปัญหาได้ทัน ผมให้โอกาสรัฐบาลทำงานเพื่อพิสูจน์ตัวอีก 3 เดือน ว่า จะแก้ไขปัญหา กอบกู้บ้านเมือง ให้พ้นจากปัญหาน้ำท่วม วิกฤตความขัดแย้งด้านการเมืองจากฝั่งพลพรรคของนายกฯ และอยากให้คุณยิ่งลักษณ์ น้อมนำพระบรมราโชวาท ใส่เกล้าใส่กระหม่อม และนำไปปฏิบัติให้ได้ เพื่อที่จะเป็นยาชูกำลังให้คุณยิ่งลักษณ์เดินหน้าต่อไปได้” นายตวง กล่าว
นายตวง กล่าวเสนอแนะอีกว่า นายกฯ ต้องปรับปรุงตัว โดยการอ่านหนังสือให้มาก เพื่อให้มีความรอบรู้ อีกทั้งในฐานะนายกฯไม่ควรทำอะไรที่ผิดพลาด เพราะนายกฯ ถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย จังหวะก้าว หรือ คิด นั้น ต้องทำให้เกิดความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ และอยากให้นายกฯ เข้าร่วมประชุมสภา รวมถึงตอบคำถามในคณะกรรมาธิการ เพราะตนมองว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล้าพูดในสภา และคณะกรรมาธิการ จะเพิ่มความแข็งแกร่ง
ด้าน นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนให้ความสำคัญเรื่องของความปรองดอง โดยเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลได้ดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังคงมีเหตุของความแตกแยกให้เห็น อาทิ เจตนาที่ช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งทางด้านกฎหมาย หรือการนิรโทษกรรม ซึ่งประเด็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น รัฐบาลควรพักไว้ และหันมาสร้างความสามัคคีให้กับคนในชาติ
“แม้ว่ารัฐบาลนี้จะได้รับเสียงเบ็ดเสร็จมาจากประชาชนก็จริง แต่รัฐบาลควรแสดงท่าทีที่ชัดเจน ไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล อีกทั้งต้องยุติ เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลทำงานอย่างราบรื่น นอกจากนั้นแล้ว สิ่งที่สำคัญที่นายกฯ ต้องปรับปรุงหลังจากนี้ คือ แสดงภาวะผู้นำ ที่สามารถเรียกความเชื่อมั่น ความหวัง และศรัทธาของประชาชนให้ได้ ไม่เช่นนั้น อาจจะกระทบต่อสถานะของรัฐบาล แม้ว่าจะมีกลุ่มประชาชนคอยให้สนับสนุนอยู่ก็ตาม รวมถึงต้องปรับ ครม.เพื่อให้เกิดการทำงานที่กระชับ รวดเร็ว” นายวันชัย กล่าว
ขณะที่ นายอนุรักษ์ นิยมเวช ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เวลาทำงานของรัฐบาล เกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นช่วงทดลองงาน ซึ่งตนมองว่า รัฐบาลได้ทุ่มเทแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ ส่วนงานอื่นๆ ที่ได้แถลงนโยบายไว้ เชื่อว่า อยู่ในระยะเวลาที่รัฐบาลเตรียมดำเนินการ เพียงแต่เวลาที่ผ่านมารัฐบาลต้องให้เวลากับการแก้ไขปัญหาที่สำคัญก่อน ซึ่งหลังจากพ้น 3 เดือนหลังจากนี้ ตนมองว่า งานใหญ่ที่รัฐบาลต้องเร่งทำมี 3 ด้าน คือ การเยียวยาประชาชนและพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนและภาคเกษตรกรรม, การฟื้นฟูทั้งด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม และโรงงานต่างๆ รวมไปถึงการช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ทำงานในนิคม หรือโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้มีความเสี่ยงที่จะตกงาน และการเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน และจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการเร่งวางแผนมาตรการระยะยาวในการป้องกันน้ำท่วม ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในไม่กี่เดือนข้างหน้า
วันนี้ (5 ธ.ค.) นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา กล่าวแสดงความเห็นต่อการบริหารราชการของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ที่ใกล้จะเข้าสู่การทำงานในรอบ 3 เดือน หลังจากที่ได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 10 ส.ค.54 ว่า หากประเมินการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา ตามกรอบนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อที่ประชุมรัฐสภา รวมถึงนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่สามารถทำงานให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปรับตัวภายในพรรคเพื่อไทย และกรณีที่รัฐบาลต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ โดยที่ผ่านมารัฐบาลยังคงเดินตามแนวทางของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำมา เช่น การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ด้วยการตั้งคณะกรรมการ ลงพื้นที่บริจาคสิ่งของ ปล่อยคาราวานช่วยประชาชน เป็นต้น โดยไม่ได้ทำสิ่งที่นายกฯ ได้ระบุกับประชาชนว่า ไม่แก้แค้น แต่จะแก้ไข
“ผมอยากให้กำลังใจนายกฯ เพราะเมื่อเข้ามาบริหารประเทศ ก็เจอกับปัญหาใหญ่ จนรัฐบาล หรือรัฐมนตรีไม่สามารถเตรียมตัวแก้ปัญหาได้ทัน ผมให้โอกาสรัฐบาลทำงานเพื่อพิสูจน์ตัวอีก 3 เดือน ว่า จะแก้ไขปัญหา กอบกู้บ้านเมือง ให้พ้นจากปัญหาน้ำท่วม วิกฤตความขัดแย้งด้านการเมืองจากฝั่งพลพรรคของนายกฯ และอยากให้คุณยิ่งลักษณ์ น้อมนำพระบรมราโชวาท ใส่เกล้าใส่กระหม่อม และนำไปปฏิบัติให้ได้ เพื่อที่จะเป็นยาชูกำลังให้คุณยิ่งลักษณ์เดินหน้าต่อไปได้” นายตวง กล่าว
นายตวง กล่าวเสนอแนะอีกว่า นายกฯ ต้องปรับปรุงตัว โดยการอ่านหนังสือให้มาก เพื่อให้มีความรอบรู้ อีกทั้งในฐานะนายกฯไม่ควรทำอะไรที่ผิดพลาด เพราะนายกฯ ถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย จังหวะก้าว หรือ คิด นั้น ต้องทำให้เกิดความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ และอยากให้นายกฯ เข้าร่วมประชุมสภา รวมถึงตอบคำถามในคณะกรรมาธิการ เพราะตนมองว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล้าพูดในสภา และคณะกรรมาธิการ จะเพิ่มความแข็งแกร่ง
ด้าน นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนให้ความสำคัญเรื่องของความปรองดอง โดยเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลได้ดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังคงมีเหตุของความแตกแยกให้เห็น อาทิ เจตนาที่ช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งทางด้านกฎหมาย หรือการนิรโทษกรรม ซึ่งประเด็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น รัฐบาลควรพักไว้ และหันมาสร้างความสามัคคีให้กับคนในชาติ
“แม้ว่ารัฐบาลนี้จะได้รับเสียงเบ็ดเสร็จมาจากประชาชนก็จริง แต่รัฐบาลควรแสดงท่าทีที่ชัดเจน ไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล อีกทั้งต้องยุติ เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลทำงานอย่างราบรื่น นอกจากนั้นแล้ว สิ่งที่สำคัญที่นายกฯ ต้องปรับปรุงหลังจากนี้ คือ แสดงภาวะผู้นำ ที่สามารถเรียกความเชื่อมั่น ความหวัง และศรัทธาของประชาชนให้ได้ ไม่เช่นนั้น อาจจะกระทบต่อสถานะของรัฐบาล แม้ว่าจะมีกลุ่มประชาชนคอยให้สนับสนุนอยู่ก็ตาม รวมถึงต้องปรับ ครม.เพื่อให้เกิดการทำงานที่กระชับ รวดเร็ว” นายวันชัย กล่าว
ขณะที่ นายอนุรักษ์ นิยมเวช ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เวลาทำงานของรัฐบาล เกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นช่วงทดลองงาน ซึ่งตนมองว่า รัฐบาลได้ทุ่มเทแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ ส่วนงานอื่นๆ ที่ได้แถลงนโยบายไว้ เชื่อว่า อยู่ในระยะเวลาที่รัฐบาลเตรียมดำเนินการ เพียงแต่เวลาที่ผ่านมารัฐบาลต้องให้เวลากับการแก้ไขปัญหาที่สำคัญก่อน ซึ่งหลังจากพ้น 3 เดือนหลังจากนี้ ตนมองว่า งานใหญ่ที่รัฐบาลต้องเร่งทำมี 3 ด้าน คือ การเยียวยาประชาชนและพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนและภาคเกษตรกรรม, การฟื้นฟูทั้งด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม และโรงงานต่างๆ รวมไปถึงการช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ทำงานในนิคม หรือโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้มีความเสี่ยงที่จะตกงาน และการเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน และจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการเร่งวางแผนมาตรการระยะยาวในการป้องกันน้ำท่วม ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในไม่กี่เดือนข้างหน้า