ส.ว.ศรีสะเกษ หนุนคืนพาสปอร์ตให้ “นช.แม้ว” ชี้ ตอนยึดผิดหลักกฎหมายอยู่แล้ว เปรียบคนติดคุกก็ไม่เห็นต้องยึดบัตร ปชช.เมินฝ่ายค้านจ่อฟ้อง “สุรพงษ์” ถือเป็นอำนาจ ก.ต่างประเทศ จี้ “มาร์ค-สุเทพ” ให้การนครบาลคดี 91 ศพ เหตุล่าช้ามานานแล้ว เผยส่งผลสอบเหตุการณ์ให้ ปธ.วุฒิฯแล้ว แย้มมีคนต้องรับผิดชอบ
วันนี้ (5 ธ.ค.) นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุยืนยันที่จะคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ในเรื่องของความเหมาะสมคงต้องดูที่มาที่ไปว่าถูกยึดพาสปอร์ตด้วยสาเหตุอะไร เป็นไปตามหลักการปกครองบริหารบ้านเมืองปกติหรือไม่ ซึ่งชัดเจนว่าไม่ได้ทำไปตามกระบวนการทางกฎหมายปกติ ถ้าคิดแง่นั้นก็คืนได้ หากใครไม่เห็นด้วยก็ไปดำเนินการตามกฎหมายใหม่
“ส่วนตัวเห็นว่าควรคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามสิทธิการเป็นประชาชนที่ถือสัญชาติไทยก่อน พาสปอร์ตถือเสมือนเป็นบัตรประชาชน อยากถามว่าบุคคลที่ต้องโทษคุมขัง ต้องถูกยึดบัตรประชาชนด้วยหรือไม่” นายจิตติพจน์ ระบุ
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านเตรียมยื่นร้องเอาผิดนายสุรพงษ์ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง นายจิตติพจน์ตอบว่า เป็นอำนาจการพิจารณาของส่วนราชการอย่างกระทรวงต่างประเทศ เพราะกระบวนการเริ่มแรกในการยึดพาสปอร์ตนี้ไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล เตรียมเรียก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้การในคดีผู้เสียชีวิต 91 รายจากเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.53 นั้น นายจิตติพจน์ ให้ความเห็นว่า มองว่า เป็นเรื่องปกติที่เจ้าหน้าที่ต้องทำอยู่แล้ว และที่จริงก็ควรจะทำนานแล้ว ดังนั้นการเพิ่งมาเรียกตัวเข้าให้ปากคำตอนนี้ถือว่าล่าช้าไปมาก ดังนั้นจึงฝากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าต้องทำให้กระบวนการยุติธรรมในคดีนี้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ส่วนบุคคลทั้งสองจะมีความผิดก็ว่ากันอีกที ในส่วนของผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เม.ย.-พ.ค.53 ได้จัดส่งให้ประธานวุฒิสภาไปแล้ว ซึ่งได้ข้อมูลมากพอสมควร ว่ามีใครบ้างต้องรับผิดชอบกับเหตุดังกล่าว
วันนี้ (5 ธ.ค.) นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุยืนยันที่จะคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ในเรื่องของความเหมาะสมคงต้องดูที่มาที่ไปว่าถูกยึดพาสปอร์ตด้วยสาเหตุอะไร เป็นไปตามหลักการปกครองบริหารบ้านเมืองปกติหรือไม่ ซึ่งชัดเจนว่าไม่ได้ทำไปตามกระบวนการทางกฎหมายปกติ ถ้าคิดแง่นั้นก็คืนได้ หากใครไม่เห็นด้วยก็ไปดำเนินการตามกฎหมายใหม่
“ส่วนตัวเห็นว่าควรคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามสิทธิการเป็นประชาชนที่ถือสัญชาติไทยก่อน พาสปอร์ตถือเสมือนเป็นบัตรประชาชน อยากถามว่าบุคคลที่ต้องโทษคุมขัง ต้องถูกยึดบัตรประชาชนด้วยหรือไม่” นายจิตติพจน์ ระบุ
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านเตรียมยื่นร้องเอาผิดนายสุรพงษ์ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง นายจิตติพจน์ตอบว่า เป็นอำนาจการพิจารณาของส่วนราชการอย่างกระทรวงต่างประเทศ เพราะกระบวนการเริ่มแรกในการยึดพาสปอร์ตนี้ไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล เตรียมเรียก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้การในคดีผู้เสียชีวิต 91 รายจากเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.53 นั้น นายจิตติพจน์ ให้ความเห็นว่า มองว่า เป็นเรื่องปกติที่เจ้าหน้าที่ต้องทำอยู่แล้ว และที่จริงก็ควรจะทำนานแล้ว ดังนั้นการเพิ่งมาเรียกตัวเข้าให้ปากคำตอนนี้ถือว่าล่าช้าไปมาก ดังนั้นจึงฝากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าต้องทำให้กระบวนการยุติธรรมในคดีนี้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ส่วนบุคคลทั้งสองจะมีความผิดก็ว่ากันอีกที ในส่วนของผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เม.ย.-พ.ค.53 ได้จัดส่งให้ประธานวุฒิสภาไปแล้ว ซึ่งได้ข้อมูลมากพอสมควร ว่ามีใครบ้างต้องรับผิดชอบกับเหตุดังกล่าว