โฆษกกลาโหม เผย นัดเขมรถกจีบีซี 21 ธ.ค.นี้ คุยปรับกำลังทหารตามคำสั่งศาลโลก ส่งอิเหนาเข้าสังเกตการณ์ จุดตรวจร่วม จัดระเบียบวัดแก้วฯ และการเข้าออกเจ้าหน้าที่ยูเนสโก ชี้ ไม่เข้าข่าย ม.190 เหตุทำตามคำสั่งศาลโลก หากทำหนังสือสัญญาจึงต้องเข้าสภาต่อ
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ตามที่ ประเทศกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (GBC) ครั้งที่ 8 ซึ่งทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ร่วมหารือ และวางกรอบเวลาการประชุมที่เหมาะสม คือ ห้วงวันที่ 20-26 ธันวาคม 2554 นั้น ในเบื้องต้นกระทรวงกลาโหมไทย ได้พิจารณาเห็นควรกำหนดวันประชุม ในวันพุธที่ 21 ธันวาคม 2554 สำหรับประเด็นที่จะนำเข้าสู่การหารือ คือ การดำเนินการเพื่อปฏิบัติการตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลยุติธรรม ระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งประกอบด้วย 1.การปรับกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายที่ประจำการในพื้นที่พิพาท 2.ผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซีย 3.จุดตรวจร่วม 4.การจัดระเบียบวัดแก้วสิกขาคีรีศวร ตลาด และชุมชน โดยรอบปราสาทพระวิหาร 5.การเข้าออกพื้นที่ปราสาทพระวิหารของเจ้าหน้าที่องค์การยูเนสโก
พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายได้มีความห่วงใยในเรื่องที่จะต้องให้รัฐบาลนำ 5 ประเด็นดังกล่าวเสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาตามมาตรา 190 ก่อน เพื่อเป็นหลักประกันให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจากทุกกระทรวง ทบวง กรม จึงขอเรียนว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นพันธกรณีระหว่างไทยและกัมพูชา จึงไม่เข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย คำสั่งชั่วคราวดังกล่าวไม่กระทบเขตแดนหรืออำนาจอธิปไตยของไทย และมีผลชั่วคราวเท่านั้น แต่หากเมื่อมีการเจรจากันแล้ว และมีความจำเป็นต้องทำหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ก็ให้นำหนังสือสัญญาดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอรัฐสภาให้ความเห็นชอบต่อไป