ซินหัว - รัฐมนตรีกลาโหมไทย และกัมพูชา ต่างเห็นชอบร่วมกันในวันนี้ (23 ก.ย.) ที่จะดำเนินการคำสั่งของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ที่ให้ทั้งสองฝ่ายถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทรอบปราสาทพระวิหาร แต่ไม่ระบุวันถอนทหารอย่างชัดเจนแต่อย่างใด
“เราต่างเห็นชอบที่จะทำตามคำสั่งศาลโลกถอนทหารที่อยู่ใกล้ปราสาทพระวิหาร และอนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซียเข้าตรวจสอบการหยุดยิงในพื้นที่ดังกล่าว” พลเอก เตียบัญ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังหารือนาน 30 นาที กับ พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของไทย ที่เดินทางไปเยือนกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม พลเอก เตียบัญ กล่าวว่า ยังไม่ระบุวันที่ที่จะเริ่มถอนทหาร และว่า ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ General Border Committee (GBC)
ในวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) มีคำสั่งให้กัมพูชาและไทยถอนทหารออกจากเขตปลอดทหารบริเวณพรมแดนขัดแย้งใกล้ปราสาทพระวิหารโดยทันทีและอนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์จากอาเซียนเข้าไปยังเขตปลออดทหารเพื่อตรวจสอบการหยุดยิง
“เราจะทำตามคำสั่งของไอซีเจ” พลเอก ยุทธศักดิ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว ทั้งสำทับอีกว่า ในตอนนี้กองกำลังทหารของไทยและกัมพูชาไม่มีความตึงเครียดระหว่างกันแต่อย่างใด
รมว.กลาโหมของไทย ยังระบุว่า เมื่อเดินทางกลับประเทศจะยื่นเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้มีคำสั่งอนุญาตให้กระทรวงกลาโหมจัดการประชุม GBC กับกัมพูชา
กัมพูชาและไทยมีความขัดแย้งบริเวณพรมแดนอยู่เป็นระยะเกี่ยวกับพื้นที่พิพาทใกล้ปราสาทพระวิหารของกัมพูชา ตั้งแต่องค์การยูเนสโก ระบุให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2551 อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางทหารผ่อนคลายลงเมื่อพรรคเพื่อไทยของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.