ความห่วยแตกจากการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลที่ต้องเรียกว่าเป็นความสามารถเฉพาะตัว ที่คนอื่นห้ามลอกเลียนแบบ มิเช่นนั้นชาติบ้านเมืองจะตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่ง คือ
บริหารจนทำให้ปัญหาน้ำท่วมที่คนเคยคาดหวังว่าจะสลายสีรวมใจคนไทยกล้บมาเป็นน้ำหนึ่งเดียวกันผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ กลายเป็นแม้แต่คนสีเดียวกันแต่อยู่คนละฝั่งบิ๊กแบ๊กก็ยังแตกแยกทะเลาะกัน
เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารน้ำแบบแบ่งแยกประชาชน แถมยังลอยตัวหนีน้ำเน่า แต่กลิ่นเหม็นมันก็ติดตัวจน “ปูนิ่ม”กำลังจะกลายเป็น “ปูเน่า”อยู่แล้ว
สิ่งเหล่านี้สั่นคลอนรัฐบาลรุนแรงเกินกว่าที่ยิ่งลักษณ์ จะคาดถึง
ไอ้ที่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ว่า จัดอีเวนต์ให้ไปออกงานเพลิน ๆ เดี๋ยวคนก็ลืมเรื่องน้ำท่วมไปเองนั้น เป็นความเข้าใจผิดถนัด เพราะกระแสเสียงแห่งความทุกข์ที่ผู้คนทรมานเหมือนกันแม้สวมเสื้อคนละสี ล้วนแต่พุ่งเป้าอยากก่อจลาจลรุมสหบาทาไปที่รัฐบาลทั้งสิ้น
ระเบิดเวลาจากความล้มเหลวเรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วมยังไม่ทันจะถอดชนวนได้
รัฐบาลก็เหยียบย่ำหัวใจคนไทยซ้ำซาก ด้วยการปล่อยปละละเลยเว็บไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ให้แพร่ระบาดยิ่งกว่ายุงร้ายในน้ำเน่า
แถม มือโพสต์ตัวพ่ออย่าง ณัฐวุฒิ ด้วงนิล ยังไปยืนเสนอหน้าเป็นวอลเปเปอร์ให้กับ อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ซึ่งมีหน้าที่โดยตรง ในการจัดการเว็บอุบาทว์เหล่านี้ซะงั้น
ผู้คนเขาเลยถึงบางอ้อว่า ที่มีการปล่อยไวรัสแพร่ระบาดในเฟซบุ๊คจนระส่ำในวงการคีย์บอร์ดช่วงสัปดาห์ที่ผ่่านมา เป็นเพราะเสนาบดีเขาหลับตาสองข้างไม่รู้ไม่เห็น มือก็มัวแต่วุ่นอยู่กับการขนถุงยังชีพเข้าสำนักงานตัวเอง ส่วนขาก็เอาไปราน้ำทำให้เกิดความยุ่งเหยิงเรื่องการวางบิ๊กแบ๊กที่สายไหม
ก็เลยไม่มีเวลาไปไล่ปิดเว็บที่ทำร้ายหัวใจไทยทั้งชาติ แต่ขมีขมันจัดเต็มจับมือทวิตเตอร์ประจานปูนิ่มได้อย่างรวดเร็ว
แถมยังพูดแบบหน้าไม่อายว่า "การเข้าไปใช้บัญชีทวิตเตอร์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ แตกต่างจากการโพสต์รูป และข้อความ เปรียบเสมือนเมื่อโจรเข้าบ้าน ก็สามารถจับโจรได้ แต่การโพสต์ข้อความและรูปนั้น ตัวตนของผู้กระทำความผิดอยู่ต่างประเทศ"
เป็นถ้อยแถลงที่มักง่ายไร้สมอง และขาดวุฒิภาวะของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างยิ่ง
เด็กประถมยังรู้ว่าสำนักงานเฟซบุ๊คอยู่ต่างประเทศจริง แต่ไอ้พวกหัวดำตัวแดงที่โพสต์หน้าจอมันนั่งแป้นแร้นกระแทกแป้นพิมพ์อยู่ในเมืองไทยนี่แหละ
ถ้าแม้แต่เรื่องแบบนี้ รมว.ไอซีทียังไม่รู้ ก็ไม่ควรชูคออยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป
หรือที่ยังอยู้ในตำแหน่งได้เป็นเพราะมันสมองไม่แตกต่างจากคนเป็นนายกรัฐมนตรี จึงมีแต่พวกปัญญานิ่มมาช่วยกันรุมยำทำร้ายชาติ !
ถ้าผู้คนเขาไม่ออกมาโวยวายปลุกให้ รมว.ไอซีทีตื่นจากภวังค์แห่งอำนาจ ถามหน่อยว่า อนุดิษฐ์ คิดที่จะจัดการกับปัญหาเหล่านี้หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่ระหว่างการแถลงนโยบายจีบปากจีบคอยืนยันจะจัดการเวปหมิ่นอย่างเด็ดขาด
สุดท้ายไม่มีอะไรในกอไผ่
แต่ในเฟซบุ๊คนี่สิกระชากดวงใจจนคนไทยหลายคนทนไม่ได้ลุกขึ้นมาทำคลิปด่าประจาน ใช้การกดดันทางสังคมมาเป็นตัวช่วย ในยุคที่ประชาชนพึ่งพารัฐบาลไม่ได้
คนไทยหัวใจไทยไม่เป็นทาสเงินนักโทษเขาวิตก เฝ้าระวังหน้าจอคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองไทย พวกเขารู้ว่าพัฒนาการของพวกอุบาทว์ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงผ่านขบวนการโซเชียลเน็ตเวิร์คนั้น เริ่มแผ่ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น
จากเดิมที่คิด พูด โพสต์กันเองในเครือข่าย ค่อย ๆ ขยับตัดต่อภาพขึ้นยูทูป และเริ่มเหิมเกริมหนักที่สุดในรัฐบาลนี้ด้วยการแพร่ไวรัสผ่านเฟซบุ๊ค ทำให้ภาพหมิ่นเบื้องสูงถูกแพร่กระจายไปถึงคนนับแสนเพียงชั่วเวลาข้ามคืน
ในมุมหนึ่งคนชั่วอาจคิดว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ที่ทำให้ภาพหมิ่นเบื้องสูงเผยแพร่ได้มากขึ้น
แต่อีกมุมหนึ่งที่คนเลวคิดไม่ถึงคือ กระแสตีกลับหลังเห็นภาพอุบาทว์จากการตัดต่อของคนบาป ที่กลายเป็นหลักฐานชิ้นเอกแสดงให้เห็นว่ามีกลุ่มบุคคลจ้องสั่นคลอนสถาบันและมีความคิดที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ทำงานกันอย่างเป็นระบบ
และมีความเชื่อมโยงเกาะเกี่ยวอยู่กับผู้มีอำนาจในรัฐบาล ชนิดแยกกันไม่ออก
ความจงรักภักดีที่ออกจากปากยิ่งลักษณ์ จะถูกคนไทยตั้งคำถามมากขึ้น และดังขึ้นเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังไม่มีการจัดการกับพวกนรกส่งมาเกิดที่จาบจ้วงเบื้องสูงอย่างจริงจัง