“อนุดิษฐ์” ยอมรับจับ มือโพสต์เฟซบุ๊กหมิ่นฯยาก

รมว.ไอซีที ยอมรับการจับกุมเฟซบุ๊กเว็บหมิ่นสถาบันฯ ดำเนินการยาก เหตุเพราะผู้กระทำความผิด และเว็บไซต์อยู่ต่างประเทศ พร้อมวอนประชาชนอย่ากด Like หรือคอมเมนต์ เพราะเป็นการสร้างกระแสให้ประชาชนสนใจมากยิ่งขึ้น ล่าสุดประสานขอให้เฟซบุ๊กสำนักงานใหญ่ปิดหน้าเฟซบุ๊กต้นตอ ส่วนประเด็น น.ส.มัลลิกา กล่าวหาว่ามือโพสต์เป็นคณะทำงานเป็นเรื่องไม่จริง

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า กระทรวงไอซีที ได้ขอความร่วมมือไปยังเฟซบุ๊ก สำนักงานใหญ่ เพื่อขอให้ปิดหน้าเฟซบุ๊ก (URL) ที่เป็นต้นตอการโพสต์รูป และข้อความที่หมิ่นฯสถาบันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการโพสต์ข้อมูลดังกล่าว เป็นการกระทำจากต่างประเทศ ทำให้การปิดเว็บดังกล่าวเป็นไปด้วยความลำบาก แต่กระทรวงไอซีที ก็ได้สั่งปิดไปกว่า 10,000 ยูอาร์แอลแล้ว

อย่างไรก็ดี กระทรวงวอนประชาชนถ้าพบเห็นการโพสต์ข้อมูล และข้อความหมิ่นสถาบัน กรุณาอย่ากด Like หรือคอมเมนต์ เพราะจะเป็นการสร้างกระแส และเผยแพร่ทางอ้อม สุดท้ายทำให้เพื่อนที่อยู่กลุ่มเฟซบุ๊กเห็นข้อความดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมาเพียงระยะเวลา 2-3 วัน การหมิ่นสถาบันการกระจายรวดเร็วมาก เพราะมีการเชื่อมโยงในกลุ่มเพื่อน เช่น ในเฟชบุ๊ก 1 คน มีเพื่อน 10,000 คน ก็จะได้เห็นและได้รับทราบข้อความนั้นทันที ฉะนั้นวอนประชาชนอย่ากด Like หรือ ประณาม ให้แจ้งยูอาร์แอลต่อกระทรวงไอซีทีทันที ถ้าหากร่วมกด Like ด้วย จะเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์พ.ศ.2550 ทันที

สำหรับกรณีที่มีการสอบถามว่า เหตุใดการสืบเสาะหาผู้กระทำผิดการใช้ทวิตเตอร์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงเป็นไปด้วยความรวดเร็ว แต่เหตุใดการปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นสถานบันถึงเป็นไปด้วยความล่าช้า ทำให้มีการเผยแพร่ในวงกว้างนั้น น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า การเข้าไปใช้บัญชีทวิตเตอร์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ แตกต่างจากการโพสต์รูป และข้อความ เปรียบเสมือนเมื่อโจรเข้าบ้าน ก็สามารถจับโจรได้ แต่การโพสต์ข้อความ และรูปนั้น ตัวตนของผู้กระทำความผิดอยู่ต่างประเทศ

“ล่าสุดกระทรวงไอซีที ดำเนินการได้เฉพาะการแจ้งให้เฟซบุ๊ก สำนักงานใหญ่ที่ต่างประเทศปิดบัญชีนั้นๆ ไป ซึ่งได้มีการปิดบัญชีที่มีการเผยแพร่ไปแล้ว ส่วนที่ยังเผยแพร่อยู่ในประเทศขณะนี้ เป็นเพราะการกด Like และคอมเมนต์ โดยกระทรวงไอซีที กำลังเร่งปิดหน้าเว็บนั้น เพื่อมิให้มีการเผยแพร่ได้อีก"

นอกจากนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวถึงกรณีที่น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงโดยนำภาพ นายณัฐวุฒิ ด้วงนิล ว่ารมว.ไอซีทีแต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่า นายณัฐวุฒิ เคยถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมมาแล้วเป็นผู้โพสต์สื่อออนไลน์หมิ่นสถาบันฯว่า

“บุคคลดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงไอซีที ส่วนภาพถ่ายที่ถูกนำมาเผยแพร่นั้น เป็นวันที่มีกลุ่มผู้ชุมชนมาเรียกร้องให้ไอซีทีจัดการกับเว็บหมิ่นอย่างจริงจัง และนายณัฐวุฒิ ก็เดินมาใกล้ๆ จนกลายมาเป็นภาพดังกล่าวขึ้นมา”

อีกทั้งกระทรวงไอซีทีไม่เคยมีการคณะทำงานเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ใดๆทั้งสิ้น ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องการตรวจสอบเว็บหมิ่นฯ จะใช้หน่วยงานป้องกัน และปรายปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงไอซีทีเท่านั้น

ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) เวลา 13.30 น. กระทรวงไอซีทีจึงจะแถลงความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว รวมทั้ง การดำเนินงานของไอซีทีที่ผ่านมาเกี่ยวกับ การปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ประชาชนได้รับทราบว่า กระทรวงไอซีที ไม่ได้ละเลยในการทำหน้าที่ แต่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องเข้าใจว่าการดำเนินการติดปัญหาในเรื่องผู้กระทำและเว็บไซต์อยู่ในต่างประเทศทำให้การจับกุม หรือดำเนินการปิดเป็นไปอย่างล้าช้า

Company Relate Link :
ICT