“ยุทธศักดิ์” โยน ผอ.สำนักนโยบาย กห.ประสานเขมรถกจีบีซี ยันประชุมช้าไม่มีผลพิจารณาคดีในศาลโลก เชื่อเป็นผลดีต่อคำตัดสิน ประสาน สตช.ขอ ตชด.เข้าพื้นที่แทนแล้ว คาดไม่เกิน 400 คน แย้มกัมพูชาขอถก 20-25 ธ.ค.นี้ - โยน ตร.สอบคดี 13 ศพลูกเรือจีน เชื่อแดนมังกรไม่ติดใจ แต่รับมีทหารเอี่ยว
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 07.00 น. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเตรียมพร้อมในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา (จีบีซี) ว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม ประสานงานกับทางกระทรวงกลาโหมกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว รวมถึง พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชาว่า กระทรวงกลาโหมของไทยพร้อมแล้วในการประชุมจีบีซีกับกัมพูชาให้เร็วที่สุด คาดว่าเดือน ธ.ค.นี้จะประชุมได้ เพราะไม่ควรจะช้ากว่านี้ สำหรับกรอบการประชุม ทางกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญกระทรวงกลาโหม สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก และ กองทัพภาคที่ 2 เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ในเรื่องกรอบการเจรจา ขณะนี้ได้ส่งรายละเอียดมาให้ดูหมดแล้ว ซึ่งจะเตรียมเรื่องเหล่านี้เข้าประชุมโดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศร่วมคณะไปด้วย
“การประชุมที่ล่าช้าในครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณาของศาลโลกต่อกรณีให้ตีความคำพิพากษาปี 2505 เพราะแยกจากกัน การพิจารณาของศาลโลกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งทางศาลโลกจะดำเนินการหาหลักฐาน และตัดสินความเมื่อไหร่ก็เป็นเรื่องของศาลโลก แต่เรื่อง จีบีซี เป็นการประชุมเพื่อดำเนินการตามคำสั่งชั่วคราวของศาลโลกว่าในระหว่างที่ศาลโลกยังไม่ได้ตัดสิน ทั้งสองประเทศจะต้องทำกันเช่นนี้ ซึ่งอาจจะเป็นผลดีต่อการตัดสินของศาลโลกในอนาคตว่าประเทศไหนให้ความสำคัญต่อคำสั่งชั่วคราวดังกล่าว ประเทศไหนที่ให้ความร่วมมือในการสร้างสันติภาพตามคำสั่งชั่วคราวของศาลโลกนี้บ้าง และจะเป็นผลในการตัดสินใจในอนาคต” พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าว
พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การปรับกำลังตามพื้นที่ชายแดนนั้นได้ประสานงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว เพราะเตรียมตำรวจตระเวนชายแดนขึ้นไปทดแทนให้ได้จำนวน หากไม่เพียงพอก็ส่งตำรวจภูธรเข้าไป ซึ่งเราจะเจรจากัน แต่ก็ยังไม่ได้มีข้อตกลงอะไร ซึ่งควรจะมีอย่างน้อยไม่เกิน 400 คนต่อประเทศ และการถอนกำลังก็จะมีก่อนมีผู้สังเกตการณ์ ซึ่งต้องพูดคุยกัน เพราะการดำเนินการจะต้องทำเหมือนกันและร่วมกันตำรวจภูธรได้เข้าไปในพื้นที่เพื่อดูความเรียบร้อย โดยตำรวจตระเวนชายแดนจะดูด้านยุทธการในการปฏิบัติการแทนทหาร แต่เราก็ไม่ต้องกลัว เพราะทหารที่ถอนออกมาก็ไม่ได้อยู่ห่างจากพื้นที่ที่กำหนดไว้ไกลเกินไป ซึ่งภารกิจทหารเองก็ยังดูแลอยู่ และพร้อมที่จะเป็นกองหนุน และสนับสนุนให้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า กระทรวงกลาโหมกัมพูชา โดย พล.อ.เนียง พาด รมช.กลาโหมของกัมพูชา ได้ส่งหนังสือแจ้งมายังกระทรวงกลาโหมของไทย และ กรมกิจการชายแดน กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อแจ้งห้วงเวลาที่ฝ่ายกัมพูชาพร้อมจัดประชุม จีบีซี ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 20-25 ธันวาคมนี้ หากฝ่ายไทยพร้อมในห้วงระยะเวลาดังกล่าว ขอให้แจ้งกำหนดวันประชุมกลับมาที่กัมพูชา เพื่อที่ฝ่ายกัมพูชาจะได้จัดเตรียมสถานที่ และจัดเตรียมเอกสารเพื่อรองรับการประชุม
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังกล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีลูกเรือจีน 13 ศพ ว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้รายงานผลให้กับนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ได้ส่งเอกสารมายังกระทรวงกลาโหม เท่าที่ทราบผลการประชุมจะเป็นประโยชน์กับทุกชาติ ทั้งจีน พม่า ไทย และลาว ในพื้นที่ที่เราไม่เคยมีส่วนเข้าไปลาดตระเวน เช่นในพื้นที่พม่า และลาว ก็ให้ทางไทยสามารถจัดผู้สังเกตการณ์ร่วมคณะลาดตระเวนได้ ซึ่งดูแล้วเป็นผลประโยชน์ แต่ในพื้นที่จริงๆ ของไทยในลุ่มแม่น้ำโขงเรามีพื้นที่อยู่ 9 กิโลเมตร ซึ่งเราจะพยายามอย่างยิ่งที่จะมีความร่วมมือในการลาดตระเวนมากกว่าที่จะลาดตระเวนร่วม ต้องดูการลาดตระเวน 9 กิโลเมตรที่ไทยรับผิดชอบว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยจะเกิดเหตุการณ์ที่สำคัญไม่ค่อยมีเหตุการณ์ปล้นฆ่า หรือ ชิงทรัพย์ในบริเวณของไทย ซึ่งจะต้องรักษาอธิปไตยของประเทศชาติไว้ด้วยในการดำเนินการลาดตระเวนร่วม
พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า การดำเนินการเรื่อง 13 ศพ เป็นเรื่องการพิจารณาของศาลต่อไป รวมถึงการไต่สวนของตำรวจ และการฟ้องศาล แต่ขณะนี้ยังไม่มีการฟ้องศาลเพราะอยู่ในขั้นตอนของการไต่สวน ทางกระทรวงกลาโหมให้ความร่วมมือเต็มที่ในการสอบหาหลักฐานต่าง ๆ ทั้งนี้จะต้องดูข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ 13 ศพ เกิดขึ้นได้อย่างไร และมีหลักฐานอะไรพอที่จะฟ้องศาลได้หรือไม่ ทั้งนี้เชื่อว่าทางจีนไม่ค่อยติดใจลึกซึ้งเท่าใด ถ้ามีความลึกซึ้งต่อการกระทำของทหารไทยจะต้องติดต่อมาที่ตน แต่ขณะนี้ได้ตัวผู้ต้องสงสัยที่เป็นทหารอยู่ ซึ่งเป็นทหารทั้งใน และนอกราชการและเราได้ส่งตัวไปให้สอบสวนไม่มีปัญหาอะไร