รมว.กลาโหม มั่นใจภายในเดือน ธ.ค.น้ำแห้ง ส่วนพื้นที่ใช้เฉลิมฉลอง 5 ธันวามหาราช ไร้ปัญหา ห่วงรื้อบิ๊กแบ็ก ปิดถนน กลายเป็นค่านิยม วอนทุกคนมองผลประโยชน์ส่วนรวม แนะ ศปภ.รีบดำเนินการช่วยเหลือประชาชน เผย ทบ.เตรียมแจงลูกเรือ 13 ศพ ถูกสังหารในการประชุมสภากลาโหม เชื่อ ทหารไม่ใช่แพะ เหตุมีหลักฐานการติดต่อและภาพถ่ายว่าใครทำ
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศูนย์ปฏิบัติช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ออกมาระบุว่า จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมให้เสร็จก่อนวันที่ 5 ธ.ค.นี้ว่า ถ้าทุกคนให้ความร่วมมือกันคงเป็นไปตามที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้ยืนยันไว้คงไม่เป็นมีปัญหาอะไร ส่วนน้ำจำนวนมากที่ยังหลงเหลืออยู่นั้นเราจะค่อยๆ ระบายออก เพราะวันที่ 29 พ.ย.นี้ น้ำทะเลจะลดลง
อย่างไรก็ตาม คิดว่า ภายในเดือน ธ.ค.นี้ น้ำคงจะหมดไป สำหรับบริเวณที่จะมีการเฉลิมฉลองเนื่องในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ จะแห้งทันทั้งหมด โดยเฉพาะในพื้นที่ชั้นใน เกาะรัตนโกสินทร์ แต่สำหรับการกู้พื้นที่กองทัพอากาศจะต้องกู้อีกมาก และค่อยๆ ทำ โดยเราจะพยายามไม่ให้น้ำในพื้นที่กองทัพอากาศมีปัญหา กับหน่วยที่อยู่ทางทิศใต้เด็ดขาด เพราะประชาชนในพื้นที่ถามมา ซึ่งตนจะพยายามเอาน้ำลงคลองให้โดยเฉพาะคลองบางบัว
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการรื้อบิ๊กแบ็กในส่วนของกองทัพไม่มีปัญหา แต่ทาง ศปภ.ก็คงจะต้องถามไปยังผู้ที่รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้กลายเป็นค่านิยมไปแล้วในการรื้อบิ๊กแบ็ก หรือ ปิดถนน อยากให้ทุกคนมองถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เรื่องส่วนตนบางทีก็จะต้องยอมรับกันบ้าง ต้องมองในเรื่องส่วนรวม และผลประโยชน์ที่จะเกิดต่อส่วนรวมคือสิ่งที่น่าจะมองกัน และจะต้องมีคนเข้าไปชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจ
ทั้งนี้ ทาง ศปภ.จะต้องรีบไปดำเนินการ และเห็นใจประชาชนที่จะต้องทนมานานแล้ว และน้ำก็เริ่มเน่าเสียมีกลิ่นเหม็น ซึ่งตนได้หารือกับ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในการนำอีเอ็มบอล ไปบำบัดน้ำที่เน่าเสียให้กลับคืนสู่สภาพให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา เราไม่ได้ทอดทิ้งประชาชน พยายามทำอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายการทำงานของ ศปภ.นั้น ตนเห็นว่า ศปภ.หวังดีที่จะตั้งใจทำงาน
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ทาง พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยงานที่ดูแลภาคประชาชนประสานงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในการเข้า ดูแลประชาชน ทั้งนี้การทำงานของกำลังพลจะไม่กระทบกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เพราะเป็นกำลังกันคนละส่วน
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวถึงกรณีลูกเรือจีนเสียชีวิต 13 ศพ ว่า ที่ประชุมสภากลาโหมทางกองทัพบกจะรายงานเรื่องนี้ให้ทางสภากลาโหมได้รับทราบ ถึงแนวทางในการดำเนินการ รวมถึงความรู้สึกของไทย และ จีน ดีมาก เพราะเราให้ความร่วมมือทุกอย่าง แต่เราจะต้องหาหลักฐานให้แน่นอน และการดำเนินการในนี้ ทาง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุมร่วมกับประเทศจีน และกลับมารายงานให้ทราบถึงผลการประชุมของสภาความมั่นคงแห่งชาติว่าจะมีการตกลงเรื่องนี้อย่างไร ทั้งนี้ เราจะต้องรักษาอธิปไตยของเรา และสิทธิของเราให้ได้
“เรายืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา 20-30 ครั้ง มักจะไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่เรารับผิดชอบ 9 กิโลเมตรในบริเวณแม่น้ำโขง แต่จะเกิดขึ้นในพื้นที่พม่า และ ลาว มากกว่า ฉะนั้นเราจะต้องยืนยันความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัยมากกว่าที่จะมาร่วม กันรักษาความปลอดภัยในการลาดตระเวน ซึ่งตรงนี้ต้องดูว่าท่านไปประชุมกลับมาและจะมีผลอย่างไร เพื่อที่จะให้กองทัพภาคที่ 3 ได้ปฏิบัติต่อไป”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานข่าวว่า การเสียชีวิตของลูกเรือจีน 13 ศพ จะเกิดจากหน่วยงานอื่น มั่นใจได้อย่างไรว่าทหารจะไม่เป็นแพะ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ทหารมีหลักฐานในเรื่องการติดต่อทางโทรศัพท์ระหว่างใครกับใคร เสียงใครกับใคร รวมทั้งมีภาพที่ถ่ายไว้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นพยานว่า เราไม่ได้จับแพะ