กทม.เผยน้ำดอนเมืองลดช้า เพราะระบายลงคลองเปรมแห่งเดียว

“สุขุมพันธุ์” รับระบายน้ำดอนเมืองทำได้ช้า แจงระบายลงคลองเปรมได้แห่งเดียว

วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางมายังถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณลงทางด่วนหลักสี่ เพื่อติดตามการเยียวยาประชาชน หลังมีการทำข้อตกลงร่วมกันในการลดระดับกระสอบทรายยักษ์หรือ บิ๊กแบ็ก โดยระดับน้ำที่ถนนวิภาวดีรังสิต ตรงแยกหลักสี่เริ่มลดลง และบางช่วงในฝั่งขาเข้ามีน้ำแห้ง โดยเฉพาะบริเวณทางเข้าท่าอากาศยานดอนเมือง แต่ฝั่งตรงข้ามถนนโลคัลโร้ด โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง ระดับน้ำยังคงท่วมเสมอแนวคันกั้นน้ำคอนกรีต หรือแบริเออร์ ซึ่งน้ำมีสีเหลือง ส่งผลให้ต้นไม้สองข้างทางตายหมด

จากนั้น เวลา 14.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลงพื้นที่เขตดอนเมือง เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ กทม.พร้อมมอบเรือไฟเบอร์กลาส จำนวน 2 ลำ ให้กับประธานชุมชนเพิ่มพูน และชุมชนริมทางรถไฟ และกล่าวภายหลังลงพื้นที่ว่า เขตดอนเมืองเป็นพื้นที่รอยต่อเชื่อมโยงหลายพื้นที่ ซึ่งขณะที่น้ำคลองรังสิต ระดับน้ำยังสูงและมีปริมาณมากอยู่ จึงไม่สามารถระบายน้ำในพื้นที่ดอนเมืองไปยังที่อื่นได้ มีเพียงที่เดียว คือ คลองเปรมประชากร ในการระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนใต้ ซึ่งกทม.ก็ได้เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ระบบระบายน้ำของ กทม.แต่ปริมาณน้ำคลองเปรม ยังมีอยู่มาก ทำให้ระดับน้ำท่วมขังในดอนเมืองลดลงช้า ขณะเดียวกัน กทม.ได้ประสานกับ ศปภ.และจังหวัดนนทบุรีให้เปิดประตูระบายน้ำคลองบางตลาด ซึ่งอยู่ใกล้กับสำนักชลประทานที่ 11 จังหวัดนนทบุรี และวัดชลประทาน เพื่อระบายน้ำไปลงแม่น้ำเจ้าพระยาในฝั่งจังหวัดนนทบุรี ส่วนประตูระบายน้ำของ กทม.ก็ได้เปิดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาไม่สามารถเปิดกว้าง 1 เมตรตามข้อเสนอของชาวนนทบุรีได้ เพราะจะกระทบกับพื้นที่ชั้นใน ซึ่ง กทม.ได้เปิดประตูระบายน้ำคลองบางอ้อและบางพลัดแล้ว

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า ตนยังไม่สิ้นหวังว่าภายในวันที่ 31 ธันวาคม น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ จะแห้ง เพราะขณะนี้หลายพื้นที่น้ำได้ลดลงอย่างรวดเร็ว เช่น ที่หน้าบริษัทหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ คาดว่า ในสุดสัปดาห์นี้ถนนวิภาวดีจะแห้ง ขณะที่ฝั่งตะวันตกมีเครื่องสูบน้ำ 40 ตัว ประตูระบายน้ำคลองรังสิต 8 คลอง 9 คลอง10 ยังปิดอยู่ ส่วนประตูที่เปิดก็ยังคงเปิดกว้าง ดังนั้นหากทุกส่วนของระบบระบายน้ำขับเคลื่อนไปด้วยกัน ตนก็คาดว่าน้ำจะแห้งภายในสิ้นปี

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเงินชดเชย 1,500 บาทของ กทม.นั้นเป็นเรื่องระเบียบของกระทรวงการคลังในการกำหนดหลักเกณฑ์ ซึ่งจะตนจะเร่งพิจารณาเพื่อผลักดันเงินชดเชยให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะแต่ละเขตประสบปัญหาไม่เหมือนกัน ดังนั้น การจ่ายเงินค่าชดเชยจึงต้องเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการคลังต่อไป อย่างไรก็ตาม กทม.ได้รับเสียงวิจารณ์ในการจัดงานบิ๊กคลีนนิงเดย์ ในขณะที่หลายพื้นที่น้ำยังท่วมอยู่นั้น กทม.จะรอให้ทุกพื้นที่แห้งแล้วมาทำความสะอาดพร้อมกันครั้งเดียวไม่ได้ หากพื้นที่ใดแห้งก่อนก็ควรทำความสะอาดไปก่อน หากไม่ทำปีหน้าก็ไม่จบ แต่ที่ทำไปไม่ใช่ไม่เข้าใจว่าประชาชนส่วนหนึ่งยังถูกน้ำท่วมหรือละเลยบางพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม แต่ กทม.จะดำเนินการคู่ขนานไปกับการระบายน้ำด้วย จึงอยากให้มีการในทางบวกมากกว่าทางลบเช่นกัน