“ประชา” โวไม่กลัวซักฟอก ถ้าโกงขอรับผิดชอบ “เฉลิม” เตือน ปชป.อย่าแตะ"ปู"

“ประชา” ปากกล้าขาสั่น ยันไม่หวั่นศึกซักฟอก ระบุหากมีข้อมูลทุจริตจริงพร้อมรับผิดชอบ ด้าน “เฉลิม” สวมบทองครักษ์พิทักษ์ “ปู” เตือนฝ่ายค้านห้ามแตะนายหญิง ชี้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมช่วย “ทักษิณ” ไม่ต้องทำประชามติ อ้างประชาชนตัดสินแล้วด้วยการเลือกพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล

วันนี้ (23 พ.ย.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการเตรียมชี้แจงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ไม่รู้สึกกังวล เพราะการเมืองก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีการตรวจสอบ ซึ่งข้อมูลที่จะใช้ในการชี้แจงก็มีแต่ความจริง อย่างไรก็ตาม ยินดีที่จะรับฟังข้อเสนอแนะ และนำไปปฏิบัติหรือหากมีการตำหนิติเตียนก็พร้อมที่จะรับฟังและนำไปปรับปรุง หากเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ยืนยันว่าถ้าพบข้อมูลที่ทุจริต ก็พร้อมจะรับผิดชอบ

ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่ามีข้อมูลเชื่อมโยงที่ระบุชัดเจนว่ามีการกระทำส่อไปในทางทุจริต พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สำคัญอยู่ที่ว่าข้อมูลที่ทางพรรคประชาธิปัตย์มีเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ถ้าจริงก็พร้อมรับผิดชอบ ส่วนการที่จะให้รัฐมนตรีคนอื่นมาช่วยชี้แจงหรือไม่นั้น คงไม่จำเป็น แต่หากข้อมูลมีการพาดพิงกระทรวงใดก็จะขอความร่วมมือให้มาช่วยชี้แจงที่ถูกพาดพิง เพราะเรื่องทั้งหมดก็มีการทำงานร่วมกันในหลายๆ กระทรวง

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้รู้สึกหนักใจจนต้องมีการติวหรือเก็งข้อสอบด้วย เพราะข้อมูลทั้งหมดอยู่ในหัว และความจำก็ยังไม่ได้เสื่อม

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงที่ทางฝ่ายค้านท้วงติงการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงวันเดียวน้อยเกินไปว่า ตนมองว่าการอภิปรายใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงก็พอ ถ้ามีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจน เนื่องจากอภิปรายรัฐมนตรีเพียงคนเดียว และเป็นเรื่องปกติของฝ่ายค้านที่มั่นใจในข้อมูล ทั้งนี้ ตนไม่ขอตอบแทน พล.ต.อ.ประชา ว่าหนักใจกับการอภิปรายหรือไม่ แต่เชื่อจะสามารถตอบได้ และขอให้ฝ่ายค้านอย่าอภิปรายพาดพิงมายัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรืออภิปรายนอกเรื่อง เพราะไม่เกี่ยวข้องกัน

ส่วนเรื่องที่มีการหมิ่นสถาบันในช่วงนี้นั้น ตอนนี้ได้ให้ตำรวจเข้าไปดำเนินการแล้ว เพราะไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ซึ่งตนจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวถึงกรณีเรื่อง.พ.รบ.นิรโทษกรรมนั้นจะครอบคลุมทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการทำรัฐประหาร ปี 2549 ซึ่งวันเวลาเมื่อไหร่นั้นตนต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่งก่อน ทั้งนี้สิ่งที่ตนต้องรีบทำในตอนนี้คือ การแก้ปัญหายาเสพติด และเรื่อง 91 ศพ ที่ไม่มีความคืบหน้าตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำหรับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าวนั้นไม่จำเป็นต้องทำประชามติ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ได้ตัดสินไปแล้วตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา