xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ลุยสอบ “สุพจน์” รวยผิดปกติ พร้อมวางกรอบสางทุจริตถุงยังชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ใจเด็ด พรไชยา (แฟ้มภาพ)
ป.ป.ช.เดินเครื่องสอบ “สุพจน์” ร่ำรวยผิดปกติ ประชุมวางกรอบการไต่สวนนัดแรกวันนี้ ส่วนทุจริตถุงยังชีพ เตรียมวางแนวทางดำเนินการในสัปดาห์นี้ สำหรับกรณีบริหารจัดการน้ำผิดพลาดจนเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ จ่อเชิญฝ่ายรัฐบาล ประชาธิปัตย์ และผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวน “สุกำพล” รับคดี “สุพจน์” สะเทือนคมนาคม

นายใจเด็ด พรไชยา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไตร่สวนความร่ำรวยผิดปกติ ของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับการไต่สวนคดีนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม โดยมอบหมายให้ทำหน้าที่ดูแลคดีนี้ร่วมกับ นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช.อีกท่าน มีประเด็นที่ต้องติดตาม 3 ข้อหลัก คือ เรื่องการทุจริต แจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ และการร่ำรวยผิดปกติ

นายใจเด็ดกล่าวว่า วันนี้จะมีการประชุมคณะทำงาน เพื่อกำหนดแนวทางในการไต่สวน แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะกำหนดวันที่จะเชิญอดีตปลัดฯ มาให้ข้อมูล ส่วนการประเมินรูปคดีนี้ ยังไม่สามารถตอบอะไรได้มากนัก เนื่องจากว่าข้อมูลที่ได้มาขณะนี้มีเพียงจากที่เป็นข่าว และที่เจ้าหน้าที่รวบรวมมาบางส่วนเท่านั้น ซึ่งยังไม่ชัดเจนถึงขั้นประเมินความเป็นไปได้ในด้านหนึ่งด้านใดได้

ด้าน นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช.ที่รับหน้าที่ดูแลคดีเกี่ยวกับการตรวจสอบถุงยังชีพ ของรัฐบาล ร่วมกับนายปราสาท พงษ์ศิวาภัย กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมการมีการแบ่งภารกิจเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) โดยที่ประชุมมีมติให้กรรมการเข้ามาทำหน้าที่ไต่สวนเอง ไม่ต้องมีการตั้งคณะอนุกรรมการใดๆ ขึ้นมา ซึ่งภายในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมเพื่อวางแนวทาง และคงได้เริ่มดำเนินการเร็วๆ นี้

ส่วน นายเมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช.ผู้รับมอบหมายตรวจสอบเรื่องการบริหารจัดการน้ำที่ผ่านมา โดยร่วมทำหน้าที่พร้อมนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช.อีกท่านหนึ่งกล่าวว่า การทำงานในกรณีปัญหาการบริหารจัดการน้ำนั้น ข้อมูลที่ได้ขณะนี้ มีทั้งที่ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหารัฐบาล ฝ่ายรัฐบาลกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อื่นกล่าวหาว่าทั้งสองฝ่ายผิดพลาด ซึ่ง ป.ป.ช.ต้องวางตัวอยู่ตรงกลางเพื่อรับฟังข้อมูล ไต่สวน และค้นหาข้อผิดพลาด ซึ่งการทำงานในแนวทางนี้หลายเรื่องเป็นความรู้เฉพาะด้าน เช่น เรื่องของน้ำ ที่กรรมการอาจต้องเชิญผู้มีความรู้เฉพาะทางร่วมทำงานด้วย

ส่วนกรณีของพรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาลนั้น คงเป็นที่แน่นอนว่าต้องมีการเชิญมาให้ข้อมูลด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่มีการกำหนดวันเท่านั้นเอง ซึ่งปลายทางของคดีดังกล่าวนี้ หากพบว่าปัญหาเกิดขึ้นจากจุดไหน อย่างไร ฐานความผิดอาจจะเข้าข่ายการกระทำผิดมาตรา 157 มีหน้าที่ต้องทำและจงใจไม่ทำ จนเกิดความเสียหาย ซึ่งก็มีบทลงโทษกำหนดไว้เช่นกัน

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม ยอมรับว่า กรณีนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ ป.ป.ช. รับไต่สวนใน 3 ประเด็น คือ ยื่นบบัญชีทรัพย์สินเท็จ ร่ำรวยผิดปกติ และทุจริต ทำให้สะเทือนต่อกระทรวง แต่ไม่หนักใจ

พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ที่ผ่านไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกับนายสุพจน์ และส่วนตัวได้พยายามทำความเข้าใจกับนายสุพจน์แล้วว่า ไม่ใช่การกลั่นแกล้งกันภายในกระทรวง ซึ่งการเสนอขอตั้งคณะกรรมการที่เป็นคนกลางมาตรวจสอบนั้น เพราะไม่ต้องการให้มีคนพูดว่าตนและนายสุพจน์ขัดแย้งกัน ทั้งนี้ ไม่อยากให้ฟันธงว่าผลสอบจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันยังไม่มีโครงการใดของกระทรวงที่ต้องระงับ เพราะสามารถให้ปลัดฯคนใหม่มาทำงานแทนได้เลย
กำลังโหลดความคิดเห็น