“สุกำพล” ลงนามตั้ง “ธงทอง” สอบข้อเท็จริง “สุพจน์” ร่ำรวยผิดปกติ ยอมรับคดีที่เกิดขึ้นสะเทือนกระทรวง พร้อมแต่งตั้ง “ศิลปชัย” รักษาการปลัด “คมนาคม” แทน ยืนยันไม่มีการกลั่นแกล้งกันภายใน ขณะที่มติ ป.ป.ช.เห็นชอบแต่งตั้ง อนุ กก.ไต่สวนใน 3 ประเด็น สั่งอายัดเงินสด 15 ล้านบาท
.
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนเองได้ลงนามในคำสั่ง แต่งตั้ง นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เข้ามาดำรงตำแหน่ง รักษาการปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง แทน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ถูกโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ยังได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม กรณีถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ
พล.อ.อ.สุกำพล ยอมรับว่า กรณีของอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ภายหลังมติของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไต่สวนใน 3 ประเด็น คือ ยื่นบบัญชีทรัพย์สินเท็จ ร่ำรวยผิดปกติ และทุจริต ทำให้สะเทือนต่อกระทรวง แต่ยืนยันว่าไม่หนักใจ และไม่มีการกลั่นแกล้งกัน
“ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกับท่านปลัดฯ และส่วนตัวได้พยายามทำความเข้าใจแล้วว่า ไม่ใช่การกลั่นแกล้งกันภายในกระทรวง ซึ่งการเสนอขอตั้งคณะกรรมการที่เป็นคนกลางมาตรวจสอบนั้น เพราะไม่ต้องการให้มีคนพูดว่าตนและนายสุพจน์ขัดแย้งกัน”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองไม่อยากให้ฟันธงว่าผลสอบจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันยังได้ระบุว่าไม่มีโครงการใดของกระทรวงที่ต้องระงับ เพราะสามารถให้ปลัดคนใหม่มาทำงานแทนได้เลย
ด้าน นายอภินันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการ ป.ป.ช.เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณี นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ ร่ำรวยผิดปกติ และทุจริตต่อหน้าที่ราชการ โดยมี นายใจเด็ด พรไชยา กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธาน และมี นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นอนุกรรมการ
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังมีมติให้คณะอนุกรรมการไต่สวน พิจารณาอายัดเงินจำนวน 15 ล้านบาทที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคืนมาได้แล้ว และที่จะติดตามคืนได้ในภายหลังไว้ตรวจสอบ รวมทั้งพิจารณาอายัดทรัพย์สินในส่วนอื่นตามกฎหมายด้วย
ทั้งนี้ ให้คณะอนุกรรมการไต่สวนดำเนินการโดยเร็ว ตามขั้นตอนเมื่อคณะอนุกรรมการฯ ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามกระบวนการเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว จึงจะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติพิจารณาชี้มูลความผิดต่อไป