“จำลอง” ตอบโจทย์ พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ทำลายหลักนิติรัฐ ขอประชาชนจงรักภักดีออกมาปกป้องสถาบันฯ อย่าพูดแต่ปาก เปรียบเทียบ “บิ๊กสุ” สมัยพฤษภาทมิฬยอมหยุด แต่ “ทักษิณ” ยังไม่ยอมหยุด
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการตอบโจทย์ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ระบุว่า เรื่องพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ทางรัฐบาลมีความตั้งใจจะให้ออกมาจริงๆ แต่ภายหลัง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ออกมายืนยันว่าจะทำตาม พ.ร.ฎ.เดิม ซึ่งไม่ตรงกับคุณสมบัติของกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ใช่แค่พันธมิตรฯ ที่ออกมาต่อต้าน แต่มีออกมาหลายกลุ่ม เพราะทนไม่ได้ ไม่มีเหตุการณ์ไหนที่บ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์มากเท่านี้ เพราะทำลายนิติรัฐ ต่อไปถ้าใครทำผิดก็ไม่ต้องห่วง แค่มีเงิน ตั้งพรรคการเมือง โกงกินเท่าไร ทำผิดอะไร พอถึงเวลาก็ถวายคำแนะนำออก พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้
“การทำครั้งนี้ อาจเป็นเพราะลูกน้องที่รักนาย อยากเอาเจ้านายกลับมา เขาเห็นว่าถ้าไม่มีใครกล้าค้านจะเอามวลชนมาชนกับมวลชน ให้ออก พ.ร.ฎ.ให้ได้ เขามั่นใจว่าไม่มีใครกล้าค้าน เพราะเขามีทั้งมวลชน มีกองกำลัง มีเสียงข้างมากในสภา แต่ที่เขาถอย เขาเห็นว่าเราเอาจริง ไม่กลัวในการออกมาคัดค้าน แต่กลัวจะเกิดเหตุใหญ่ในบ้านเมือง” พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลองกล่าวว่า คนที่จงรักภักดีจริงๆ ไม่ใช่แค่เปล่งกล่าวว่าทรงพระเจริญ เมื่อเจอกรณีแบบนี้ต้องออกมาปกป้องสถาบันฯ เพราะไม่ว่าผลของการเสนอพรฎ.จะออกมาอย่างไรก็ตาม ล้วนกระทบต่อสถาบันฯ ทั้งนั้น
“ถ้าปล่อยให้ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เราหมดสิ้นสกุลไทยเลยนะ พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ท่านทรงทศพิธราชธรรม พระองค์ท่านทรงงานเหน็ดเหนื่อยมาก”
พล.ต.จำลองกล่าวว่า ถ้าปล่อยให้ พ.ร.ฎ.เมื่อไปถึงพระองค์ท่าน พระองค์ท่านจะทำอย่างไร ผลออกมา ถ้าเป็นไปตาม พ.ร.ฎ.ก็เป็นการทำลายนิติรัฐ แต่เมื่อมีผู้คัดค้านจำนวนมาก เขาถึงถอย เขานึกว่าไม่มีใครกล้าออกมาค้าน แต่มีออกมาหลายกลุ่ม นักวิชาการก็มากมาย มีหลายกลุ่ม ซึ่งทำให้สถาบันฯ ยิ่งมั่นคงยิ่งขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมา
พล.ต.จำลองกล่าวถึงเมื่อปี 2535 ในตอนนั้นมีการชุมนุมเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ตอนนั้น พล.อ.สุจินดา เห็นว่าไปต่อไม่ได้ พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ทรงแนะนำให้เห็นแก่บ้านเมือง พล.อ.สุจินดาก็หยุด แต่ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมหยุดตั้งแต่ต้น ตนเคยแนะนำว่าให้กลับมารับโทษ เขาก็ไม่ยอม
ตนเคยให้คำแนะนำว่า อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณหยุด ตอนนี้เงินทองก็มีแล้ว อยู่ต่างประเทศก็ได้ อย่าทำบ้านเมืองปั่นป่วนเลย ส่วนคำแนะนำนายกฯ คนปัจจุบัน อยากแนะนำว่าตอนนี้เจอปัญหาน้ำท่วมก็แย่แล้ว ถ้าเจอปัญหานี้ (พ.ร.ฎ.) อีกก็ไปไม่ได้แล้ว การที่ พล.ต.อ.ประชาออกมาพูดต้องเห็นพ้องต้องกันในครม.แล้วว่า ถ้าทำอย่างนี้รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ จะแย่ อยากแนะนำว่าทางออกนั้นง่ายนิดเดียว ก็ยับยั้งการออก พ.ร.ฎ.นี้ เรียกประชุม ครม.ใหม่ก็เปลี่ยนแปลงได้ หรือจะยับยั้งโดยองค์กรต่างๆ เช่น ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายับยั้ง หรือที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
สมมติว่าถ้ารัฐบาลไม่ยอมถอย ศาลรัฐธรรมนูญก็เอาผิดได้ เพราะเป้นการทำผิดรัฐธรรมนูญชัดๆ แต่ถ้าจะไม่มีใครเอาไหน แล้วปล่อยให้บ้านเมืองล่มจมไป นอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็น ก็ต้องถามว่าจงรักภักดีต่อสถาบันฯจริงหรือเปล่า หรือเอาแต่เปล่งกล่าวทรงพระเจริญ ต้องทำด้วยไม่ใช่เอาแต่พูด กรณีนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดในการจาบจ้วงสถาบันฯ การถวายคำแนะนำแบบนี้เป็นเรื่องใหญ่ ต้องออกมาคัดค้าน
สำหรับทางออกของปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ พล.ต.จำลองกล่าวว่า ต้องปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ปฏิรูปโดยพรรคการเมืองตอนนี้บ้านเมืองไปไม่รอด ต้องปรับปรุง ต้องปฏิรูปประเทศ ต้องเริ่มต้นจากผู้ที่มีบทบาท มีเครื่องไม้เครื่องมือ มีหน้าที่ ต้องออกมาช่วยกัน สื่อมวลชนก็มีส่วนมาก ต้องออกมาช่วยกัน ผู้ที่มีบทบาท มีหน้าที่ ผู้ใหญ่ต้องออกมาพูดบ้าง อย่าเข้าใจว่าอะไรก็ทำไม่ได้
พล.ต.จำลองกล่าวถึงพรรคพลังธรรมในอดีต ในตอนนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพรรคการเมืองที่ดีสามารถตั้งได้ แต่ประชาชนยังไม่พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ได้มา 47 เสียงจาก 360 เสียง แต่เราจะบุกเบิกการเมืองที่บริสุทธิ์ต้องยึดมั่น ไม่ซื้อเสียง ตอนนั้นร่วมรัฐบาลเป็นแค่ไม้ประดับ ไม่ได้บริหารกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก จึงดูว่าไม่มีผลงาน ขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆเขาซื้อเสียงกันต่อ ถ้าเป็นอย่างนี้เราก็จะฝ่อไปเรื่อยๆ ตอนนั้นไปชวน พ.ต.ท.ทักษิณมา เขาบอกว่าเขาสนใจการเมือง....(พล.ต.จำลองพูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ จะออกอากาศต่อในรายการตอบโจทย์ ทางไทยพีบีเอสในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ย.)
