ผอ.ศปภ.ยันไม่เกี่ยวจัดซื้อถุงยังชีพ, งบ ศปภ.โบ้ย “ยงยุทธ” ดูกองทุนจัดซื้อ ไม่กังวลถูกพ่วงซักฟอก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ เน้นเจรจาม็อบขอเปิดประตูระบายน้ำหาจุดสมดุล โยน มท.1 ดูเพิ่มเงินเยียวยาหรือไม่ ดูอยู่เปิดบิ๊กแบ็กดอนเมืองเพิ่ม เล็งร่วมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ฟิวฯ รังสิต พรุ่งนี้
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปภ. เปิดเผยถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง ในส่วนของการทุจริตเงินบริจาคจัดซื้อถุงยังชีพของ ศปภ.ว่า ขอยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อถุงยังชีพแม้แต่ถุงเดียว หรือแม้แต่การใช้งบประมาณของ ศปภ. เนื่องจากในส่วนของเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่นำมาจัดซื้อถุงยังชีพนั้น มีคณะกรรมการที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานดูแลอยู่ อีกทั้งการจัดซื้อก็มีคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาดูแลเช่นกัน ทั้งนี้ส่วนตัวไม่มีความกังวลที่ฝ่ายค้านจะนำเรื่องการตราพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ....มาอภิปรายในญัตติไม่ไว้วางใจ เพราะรายละเอียดญัตติที่ส่งมาถึงตนไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเลย
“ชีวิตราชการของผมไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ทำงานรับใช้แผ่นดินมามากกว่า 40 ปี ผมไม่เคยมีเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่เคยถูกตั้งกรรมการสอบแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นการถูกกล่าวหาว่าทุจริตคอร์รัปชั่นครั้งนี้ ผมเสียใจ ที่ผ่านมาการทำงานที่หนักหนาสาหัสกว่านี้ก็มีมาก แต่ครั้งนี้สาหัสเพราะถูกใส่ร้ายป้ายสี” พล.ต.อ.ประชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่าฝ่ายค้านจะพุ่งเป้าโจมตีไปที่ พล.ต.อ.ประชาหลายเรื่อง ทั้งที่มีรัฐมนตรีคนอื่นร่วมในการดำเนินการด้วย อย่างนายยงยุทธในกรณีของการจัดซื้อถุงยังชีพ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า คงเป็นเพราะเห็นว่าตนเป็นคนเฉยๆ และไม่สู้คน แต่ผมมีความจริงที่ต้องพูด มีความจริงที่ต้องทำและรับผิดชอบ ซึ่งมองอีกแง่หนึ่งก็เป็นเรื่องดีที่ตนจะได้ชี้แจงประชาชนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีหลายเรื่องที่ตนต้องพูดในวันอภิปราย
เมื่อถามว่ามีความมั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากสภาฯหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า สุดแท้แต่การตัดสินใจของสภาฯ เพราะคนเราไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ในตำแหน่งนี้อย่างเดียว คงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก อยู่ตรงไหนก็อยู่ได้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย
“เรามาถึงจุดนี้แล้ว ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับชีวิตคนบ้านนอกอย่างผม ที่ไม่ได้จบเมืองนอกเมืองนา หรือมีความรู้สูงมากมาย แต่ผมมีจิตวิญญาณ มีจิตสำนึกที่ดีอยู่ ผมรับใช้บ้านเมืองด้วยดีมาตลอด” พล.ต.อ.ประชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นจากพรรคเพื่อไทยว่าการที่ พล.ต.อ.ประชาถูกโจมตีมาก เพราะเป็นอีกคนหนึ่งที่มีโอกาสเป็นนายกฯ สำรอง พล.ต.อ.ประชากล่าวปฏิเสธ พร้อมบอกว่าไม่มีใครอยากเป็นนายกฯ ในสถานการณ์แบบนี้ ส่วนตัวเพียงพอแล้วสำหรับชีวิตนี้ เรามาถึงจุดนี้แล้วถือว่าเพียงพอแล้ว
พล.ต.อ.ประชา ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ที่มีมวลชนออกมากดดันเรียกร้องให้เปิดประตูระบายน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ว่า ในส่วนของปัญหามวลชนคงต้องใช้วิธีการเจรจาพูดคุยเพื่อประสานประโยชน์ของทุกฝ่าย รวมทั้งการหาจุดสมดุลของแต่ละพื้นที่ ซึ่งเข้าใจดีถึงความทุกข์ของประชาชนทั้งเหนือน้ำและใต้น้ำ รวมกับปัญหาน้ำขังยุงชุม หรือน้ำเน่าเสียต่างๆ ที่ต้องรีบกำจัด เพราะเหมือนเป็นการซ้ำเติมปัญหา นอกจากนี้เรื่องสำคัญที่รัฐบาลให้นโยบายลงไปคือ เรื่องการเยียวยาที่มีหลักเกณฑ์ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของการเยียวยาก็มีหลายด้านทั้งทรัพย์สิน จิตใจ และอารมณ์ด้วย ส่วนการจะปรับเพิ่มวงเงินสำหรับการเยียวยา 5,000 บาทต่อครัวเรือนหรือไม่นั้น เป็นอำนาจการพิจารณาของคณะกรรมการเยียวยาและฟื้นฟูที่มี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน
“เราต้องรับฟังความทุกข์ของทั้งสองฝ่าย ทั้งที่อยู่เหนือน้ำและอยู่ใต้น้ำ เพราะทราบดีว่าประชาชนทั้งสองฝั่งเดือดร้อน ฝ่ายหนึ่งอยากให้เปิดประตูแค่ 20 ซม. อีกฝ่ายอยากให้เปิด 100 ซม. ก็ต้องเจรจาหารือกันเพื่อสร้างสมดุล และยุติความขัดแย้ง หรือการแบ่งทุกข์ระหว่างกันในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเน่าเสีย ซึ่งการพูดคุยถือเป็นการเยียวยาทางด้านอารมณ์และจิตใจ ความชัดเจนต่างๆ ก็เกิดจากการพูดคุย อยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน” พล.ต.อ.ประชา ระบุ
สำหรับกรณีการเรียกร้องให้เปิดแนวถุงทรายขนาดใหญ่หรือบิ๊กแบ็ก เพื่อบรรเทาความทุกข์ของประชาชนย่านดอนเมืองและรังสิตนั้น พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า อยู่ในระหว่างการพิจารณา ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีการเปิดเพิ่มเติมบางช่วงประมาณ 30 - 50 ซม. เพื่อระบายน้ำให้ไหลผ่านแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่ชุมชนในเร็วๆ นี้ แต่ขอดูสถานการณ์อีกสักระยะ ขณะนี้ถือว่าภาพรวมพื้นที่ต่างๆ ดีขึ้น พอทำให้ใจชื้นได้แล้ว
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ประชา เปิดเผยด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ย.) ทาง ศปภ.จะไปจัดงานทำความสะอาดครั้งใหญ่ หรือบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ บริเวณหน้าห้างฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยตนจะไปร่วมกับอาสาสมัครกว่า 3,000 คน